September 26, 2023
Motortrivia Team (10236 articles)

Mercedes ย้ำวิสัยทัศน์ EV ในไทย เปิดตัวรถพลังไฟฟ้า EQE 2 รุ่น

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

●   เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จัดงาน Ambition for the Future ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยผ่านวิสัยทัศน์ Ambition to Lead เพื่อดำเนินงานตามแผนด้านรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (Electrification) พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Mercedes-Benz EQE รวม 2 รุ่น ประกอบด้วย Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic และ Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+

●   นอกจากการจัดแสดงรถทั้ง 2 รุ่นย่อยในงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเผยแนวคิดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” ซึ่งจะพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกภายในปี 2024 พร้อมวางเป้าหมายในการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ และยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าครอบคลุมในทุกมิติ

●   หนึ่งในแผนงานหลักของเมอร์เซเดส-เบนซ์คือ เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกรูปแบบ เพื่อปรับเปลี่ยนรถทุกรุ่นในสายการผลิตให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2030 ซึ่งล่าสุดเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้จัดแสดงรถต้นแบบพลังไฟฟ้าMercedes-Benz CLA Concept แบบเวิลด์พรีเมียร์ในงาน IAA Mobility 2023 เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในด้านการผลิตรถยนต์ยุคใหม่

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   มร. มาร์ทิน ชเวงค์ (Martin Schwenk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic คือรถเอสยูวีขนาดกลางในเซกเมนต์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เช่นเดียวกันกับรุ่นแฟล็กชิพอย่าง EQS สะท้อนการออกแบบที่ผสานดีไซน์อันเหนือระดับเข้ากับความเหนือชั้นของฟังก์ชั่นและความสะดวกสบายตามแบบฉบับของรถเอสยูวี และอีกหนึ่งโมเดลที่ถูกพัฒนามาจากพื้นฐานของ EQE ก็คือ Mercedes-AMG EQE 53 ซึ่งถือเป็นสุดยอดยนตรกรรมสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย มาพร้อมกับจิตวิญญาณของ AMG ที่จะมอบสมรรถนะที่ทรงพลังและประสบการณ์การขับขี่ขั้นสุดให้กับลูกค้าทุกคนที่เป็นเจ้าของ”

●   สำหรับประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวรถ 2 รุ่นแรกอย่าง Mercedes-Benz EQS และ Mercedes-Benz EQB ซึ่งทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้ผลิตรถยนต์ในกลุ่มลักชั่วรี่แบรนด์แรกที่ผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูง และประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย

Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic

●   เริ่มกันที่ครอสโอเวอร์ SUV ขนาดกลางพลังไฟฟ้า EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ตัวรถมากับชุดแต่ง AMG Exterior Package, กระจังหน้าแบบ Mercedes-Benz pattern, ชุดไฟหน้า DIGITAL LIGHT ความละเอียดสูง 1.3 ล้านพิกเซลต่อ 1 โคมหลอดแบบ HD system พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE Highbeam ส่องสว่างได้ไกล 650 เมตร และสามารถปรับการส่องสว่างระหว่างขับบนท้องถนนได้อย่างต่อเนื่องตามสภาพการจราจรและสภาพอากาศ, ไฟท้ายแบบ 3D helix design คาดยาวตลอดช่วงท้ายรถ, หลังคา Panoramic sliding sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, มือจับประตูแบบ Seamless door handles ไร้รอยต่อ และล้ออัลลอย AMG Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว

●   สีภายนอกเลือกได้ 5 สีระหว่าง ขาว Diamond White Bright, เทา Alpine Grey Solid, เทา Selenite Grey, เขียว Emerald Green หรือดำ Obsidian Black

●   ห้องโดยสารตกแต่งแบบ AMG Line Interior, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa, เบาะคู่หน้าแบบ Sport seats ปรับระดับด้วยไฟฟ้า พร้อม memory seat, จอ Head-up Display, จอ MBUX Hyperscreen ขนาด 56 นิ้ว แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัล LED ขนาด 12.3 นิ้ว, จอ OLED ส่วนกลางขนาด 17.7 นิ้ว และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน, ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL Plus และระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5

●   นอกจากนี้ยังมีระบบนำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแผนที่แบบ 3 มิติ, ระบบสแกนลายนิ้วมือและ Face ID สำหรับยืนยันผู้ใช้งาน, สัญญาณ LTE สำหรับบริการ Mercedes me connect, ระบบมัลติมีเดีย MBUX, ชุดไฟ Active Ambient Lighting มากกว่า 64 เฉดสี, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system พร้อมลำโพง 15 ตำแหน่ง กำลังขับ 710 วัทท์ และเทคโนโลยี Dolby Atmos® และสะดวกด้วยกุญแจแบบ KEYLESS-GO

●   ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) หมุนล้อแบบ All-wheel drive ใช้งานได้ดีทั้งแบบ On หรือ Off-road กำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 77.9 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. โหมดในการขับเลือกได้ 5 โหมดผ่านฟังก์ชั่น DYNAMIC SELECTED ประกอบด้วย ECO, COMFORT, SPORT, INDIVIDUAL หรือ OFFROAD

●   แบตเตอรี่แพคแบบแรงดันสูงชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุ 89 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้มากกว่า 558 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 กิโลวัทท์ จาก 10 – 80% ภายใน 31 นาที ส่วนการชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC Charge) สูงสุด 11 กิโลวัทท์ จาก 0 – 100% ใช้เวลา 9 ชม. 30 นาที

●   ช่วงล่างนุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC ส่วนชุดระบบความปลอดภัยมีอาทิ ระบบ Active Lane Keeping Assist รักษาตำแหน่งให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบ Active Emergency Stop Assist ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน, ระบบ Speed Limit Assist ช่วยจำกัดความเร็ว, ระบบ ATTENTION ASSIST ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับ, ระบบ Active Brake Assist ช่วยเบรคอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอด Parking Package with 360 camera ใช้กล้องรอบคันแบบ 360° และฟังก์ชั่นการแสดงผลแบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถและใต้ท้องรถขณะขับด้วยโหมด OFFROAD

●   Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 5,650,000 บาท

Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+

●   สำหรับเวอร์ชั่นสมรรถนะสูง Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ จะนับเป็นรถไฟฟ้าตระกูล AMG รุ่นแรกที่ทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากซีดานไฟฟ้า EQE จุดเด่นคือการใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ล่าสุดแบบ Ultra-lightweight high-performance battery ผลงานการพัฒนาของ Mercedes-AMG ที่เมืองอัฟฟาวเตอร์บาค (Affalterbach) ประเทศเยอรมนี และนำมาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าจากตัวแข่ง Formula 1® ของทีม Mercedes-AMG Petronas F1

●   ตัวรถมากับชุดแต่ง AMG Exterior Package เน้นความหรูด้วยวัสดุสีดำ High-gloss, กระจังหน้า AMG สีดำ, กันชนแบบสปอร์ต, ชุดไฟหน้า DIGITAL LIGHT แบบ ULTRA RANGE Highbeam ส่องสว่างไกลกว่า 600 เมตร, หลังคา Panoramic sliding sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้ว AMG Y-Spoke wheel

●   สีภายนอกเลือกได้ 4 สีระหว่าง ขาว Polar White, ดำ Obsidian Black, เทา Alpine Grey Solid หรือแดง Patagonia Red Metallic

●   ห้องโดยสารติดตั้งพวงมาลัย AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง Nappa, เบาะแบบ AMG Sport Seats ลวดลายเฉพาะรุ่น, จอ Head-up Display, จอ MBUX Hyperscreen ขนาด 56 นิ้ว แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัล LED ขนาด 12.3 นิ้ว สามารถแสดงผลในโหมด AMG และมี AMG Track Pace ให้ผู้ขับเช็คสมรรถนะของรถ พร้อมวิเคราะห์การขับแบบส่วนบุคคล, จอ OLED ส่วนกลางขนาด 17.7 นิ้ว และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบนำทาง MBUX augmented reality, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน, ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos® ซึ่งผู้ขับสามารถเลือกโหมดและปรับระดับความดังให้เข้ากับสถานการณ์การขับได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Balanced, Sport หรือ Powerful

●   EQE 53 4MATIC+ ใช้พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive หรือ AMG Performance 4MATIC+ กำลังสูงสุดผลิตได้ 625 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 96.8 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. โหมดในการขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะการขับ ไม่ว่าจะเป็นการขับบนถนนปกติ หรือในสนามแข่ง รวมถึงปรับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์หลังเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ผู้ขับต้องการขับในแบบ Drift

●   โหมดในการขับเลือกได้ 5 แบบผ่าน AMG DYNAMIC SELECT ทั้งหมดมีการที่มีการส่งกำลังในระดับที่ต่างกัน เริ่มที่โหมด Slippery (50% Output), Comfort (80% Output), Sport (90% Output), Sport+ (100% Output) และ RACE START (100% Output) โดยกำลังสูงสุด 625 แรงม้าจะสามารถใช้ได้ภายใต้โหมดการขับแบบ Sport+ หรือออกตัวด้วย RACE START เท่านั้น

●   แบตเตอรี่แรงดันสูงแบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 90.6 กิโลวัทท์-ชม. แรงดันไฟสูงสุด 328 โวลท์ ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 526 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC Charge) จาก 0 – 80% ภายใน 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบปกติด้วยไฟกระแสสลับ (AC Charge) ผ่าน On-board Charger จาก 0 – 100% ใช้เวลา 4 ชม. 45 นาที

●   ช่วงล่างมากับระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL+ พัฒนาโดย Mercedes-AMG รองรับการขับด้วยความเร็วสูง โดยระบบบังคับเลี้ยวสามารถทำมุมเลี้ยวได้สูงสุด 3.6 องศา ช่วยลดวงเลี้ยวให้แคบลง, ชุดเบรคสมรรถนะสูง AMG high-performance brake system ใช้จานเบรคที่มีช่องระบายอากาศด้านข้าง, คาลิเปอร์เบรค AMG สีแดง ด้านหน้าแบบ 6-piston จับคู่จานดิสค์ขนาด 415 x 33 มม. ด้านหลังแบบ single-piston จานขนาด 378 x 22 มม.

●   ชุดระบบความปลอดภัยมีกล้องรอบคัน 360 องศา, ระบบช่วยขับแบบ Driving assistance package อาทิ ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบ Active Emergency Stop Assist ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน, ระบบ Active Blind Spot Assist ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบ Active Lane Keeping Assist ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบ Evasive Steering Assist ช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร และระบบ Active Brake Assist ช่วยเบรคอัตโนมัติ เป็นต้น

●   Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ ราคาจำหน่าย 5,950,000 บาท

Retail of the Future

●   แนวคิดของโมเดลธุรกิจใหม่ Retail of the Future จะมีการเตรียมปรับใช้ในช่วงต้นปี 2024 เป็นต้นไป เป้าหมายหลักคือการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจค้าปลีกให้กับตลาดรถยนต์ระดับลักชัวรี่ในไทย เน้นความโปร่งใสของราคาและข้อเสนอจากผู้จำหน่ายฯ ที่ต้องเท่าเทียมกัน การจัดการความพร้อมของสต็อครถยนต์ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าภายใต้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย โดยที่ผู้จำหน่ายฯ จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการบริการลูกค้า

●   นอกจากนี้ ในโมเดลธุรกิจใหม่ Retail of the Future จะไม่ได้เน้นเพียงแค่การขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่จะส่งเสริมเครือข่ายการค้าปลีกของแบรนด์ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อด้วย

●   “โมเดลธุรกิจนี้จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะแบรนด์รถยนต์ระดับลักชัวรี่ที่มีความแข็งแกร่ง และสร้างความโปร่งใสในด้านราคาด้วยกระบวนการจัดการที่มีมาตรฐาน ลูกค้าทุกคนจะได้รับการเสนอราคาและข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุดจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และสามารถเข้าถึงสต็อกของรถยนต์ทุกรุ่นจากทุกผู้จำหน่ายฯ ไม่ว่าจะเป็นผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ซึ่งทางผู้จำหน่ายฯ จะอยู่ในทุกขั้นตอนการซื้อรถของลูกค้า ตั้งแต่การทำใบเสนอราคา การทดลองขับ จนไปถึงขั้นตอนการสั่งจอง และการส่งมอบรถยนต์” มร. มาร์ทิน ชเวงค์ กล่าวเสริม

●   “โมเดลธุรกิจนี้จะทำให้ผู้จำหน่ายไม่ต้องแบกรับภาระด้านการจัดการคลังสินค้าและสต็อกรถยนต์ เพราะรถจะถูกนำส่งมาจากคลังสินค้ากลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งหมายความว่าผู้จำหน่ายฯ จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสต็อกและความเสี่ยงด้านต้นทุนของธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้จำหน่ายฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคน”

●   ใครสนใจ Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic และ Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ สามารถจองล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่ตัวแทนจำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆ ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.mercedes-benz.co.th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : fb.com/MercedesBenzThailand หรืออี-เมล : [email protected] หรือติดต่อ Customer Contact Center (CCC) โทร : 1250 ●

2023 Ambition for the Future : Mercedes-Benz EQE