October 19, 2023
Motortrivia Team (10227 articles)

BMW i5 ใหม่ ซีดานหรูพลังไฟฟ้าล้วน เปิดตัวในประเทศไทย

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●   บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวซีดานหรู BMW 5 Series เจนเนอเรชั่น 8 โดยเบื้องต้นบ้านเราจะเริ่มทำตลาดด้วย 2 รุ่นย่อยพลังไฟฟ้าที่ประกอบด้วย BMW i5 eDrive40 M Sport และ BMW i5 M60 xDrive ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 4.999 ล้านบาท

●   มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (Alexander Baraka) ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอดมาตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษ และการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู i5 รุ่นใหม่ในวันนี้ก็นับเป็นก้าวแรกของซีรีส์ 5 บนเส้นทางใหม่กับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สะท้อนถึงตัวตนของผู้ขับขี่ที่เป็นผู้นำ เปี่ยมด้วยความกล้าที่จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู i5 ใหม่ ให้นักขับชาวไทยได้สัมผัสกันเป็นครั้งแรกในวันนี้ ในฐานะรถซีดานไฟฟ้าระดับพรีเมียมสำหรับผู้บริหารที่จะเข้ามาเปิดฉากยุคใหม่ของตลาดในเซกเมนต์นี้ ตอบโจทย์ทั้งในด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความสนุกสนานในยามขับขี่ เราหวังว่าทั้งบีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i5 M60 xDrive จะตอบโจทย์แฟน ๆ ชาวไทยที่กำลังมองหารถยนต์ที่มอบทั้งความสงบ นุ่มสบายในยามเดินทาง และความสนุกในการขับขี่ โดยไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก”

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

●   “บีเอ็มดับเบิลยู i5 ใหม่ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญภายใต้พันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยูในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนกว่า ผ่านทั้งการลดมลภาวะขณะขับขี่และในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูด้วยบริการสุดพิเศษอย่าง Proactive Care ที่เสริมความอุ่นใจด้วยระบบการเชื่อมต่อกับยานพาหนะขั้นสูง ที่จะทำให้เราสามารถส่งมอบบริการการให้คำปรึกษาของเราจากทางไกล เพื่อวิเคราะห์ยานยนต์ได้จากระยะไกล หรือโทรหา Call Centre ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด”

คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

●   BMW i5 มากับกระจังหน้าทรงไตคู่ที่ยื่นออกมาเด่นชัดมากขึ้น กรอบกระจังมีความกว้างมากกว่ารุ่นก่อนหน้า พร้อมตกแต่งด้วยไฟ BMW Iconic Glow ชุดไฟหน้าทั้ง 2 ดวง มีหลอด LED จัดเรียงเป็นแถบในแนวตั้ง ทำหน้าที่เป็นทั้งไฟเลี้ยวและไฟเดย์ไทม์ ด้านข้างของตัวรถเสริมรายละเอียดด้วยลูกเล่นอย่างสเกิร์ทข้างสีดำ มือจับประตูเรียบสนิทไปกับพื้นประตู เสริมความเด่นด้วยตัวเลข 5 บนเสา C และมีหลังคากระจกแบบพาโนรามาเป็นอุปกรณืมาตรฐาน

●   i5 ใหม่ทั้ง 2 รุ่นย่อยมาพร้อมชุดแต่ง M รอบคัน ประกอบด้วยสปอยเลอร์หลัง M สีเดียวกับตัวรถใน i5 eDrive40 M Sport และสีดำเงา high-gloss ใน i5 M60 xDrive, คาลิเปอร์เบรคสีน้ำเงินเข้ม Dark blue metallic ในรุ่น i5 eDrive40 M Sport และสีแดง Red high-gloss ในรุ่น i5 M60 xDrive… พิเศษ i5 M60 xDrive จะมีชุดแต่งไฟหน้าสีดำ M Lights Shadow Line ส่วนล้อแม็กเลือกได้ 2 รูปแบบระหว่าง ล้ออัลลอย BMW Individual aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว สีดำ Jet Black หรือล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว สีเทาเข้ม Black Grey แบบสลับสี

●   ตัวรถมีความกว้างมากขึ้น การกระจายน้ำหนักหน้า-หลังมีอัตราส่วน 50:50 การผลิตมีขึ้นบนโครงสร้างน้ำหนักเบา ทว่าแข็งแกร่งในทุกส่วน ช่วงล่างของทั้ง 2 รุ่นย่อยมากับระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน Adaptive Suspension Professional ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยระบบ Integral Active Steering ช่วยปรับองศาล้อหลังให้เหมาะสมขณะเข้าโค้ง

●   ด้านสมรรถนะ รุ่นท๊อปพลังแรง i5 M60 xDrive ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive (BMW xDrive Electric) กำลังสูงสุด 601 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 81 กก.-ม. และจะเพิ่มขึ้นเป็น 83.5 กก.-ม. เมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost หรือ M Launch Control อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. แบตเตอรี่แพคความจุ 81.2 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 455 – 516 กม. ตามมาตรฐาน WLTP

●   ส่วน i5 eDrive40 M Sport ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. นิวตันเมตร และจะเพิ่มขึ้นเป็น 43.8 กก.-ม. เมื่อเปิดใช้งานระบบ Sport Boost หรือ Launch Control อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที แบตเตอรี่แพคสเปคเดียวกัน ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 497 – 582 กม.

●   ทั้งคู่ใช้หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) กำลังไฟ 22 กิโลวัทท์ และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สูงสุดที่ 205 กิโลวัทท์ จาก 10 – 80% ภายใน 30 นาที

●   อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารประกอบด้วย จอโค้ง BMW Curved Display แยกเป็นจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลระบบควบคุม Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 พร้อมฟีเจอร์ QuickSelect สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ผ่านไอคอนที่จัดเรียงในแนวตั้งด้านข้างผู้ขับ ช่วยลดระยะเวลาในการใช้งานเมนูย่อยก่อนการเปิดใช้ฟีเจอร์นั้นๆ

●   จอ BMW Curved Display ยังทำงานคู่ไปกับระบบ BMW iDrive เพื่อช่วยให้การควบคุมสะดวกผ่านจอทัชสกรีน ปุ่มคำสั่งบนพวงมาลัย และชุดควบคุม BMW iDrive Controller ที่กลางคอนโซล นอกจากนี้ยังมีแพคเกจ BMW Live Cockpit Professional ที่มาพร้อมจอ BMW Head-Up Display พร้อมมุมมองแบบ Augmented View ซึ่งผู้ขับสามารถใช้งานเป็นหน้าจอสำหรับควบคุมการใช้งานต่างๆ หรือจะใช้เป็นหน้าจอเสริมแบบ instrument cluster ก็ได้

●   ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 รองรับการเข้าถึงคอนเทนท์ดิจิทัลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสำคัญ หรือเนื้อหาด้านความบันเทิง รวมทั้งยังมีการอัพเดทที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ แพลทฟอร์ม AirConsole ที่ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถเล่นเกมได้ในขณะที่จอดอยู่กับที่ เช่นขณะที่กำลังจอดชาร์จแบตเตอรี่

●   ทั้งนี้ การตกแต่งในสไตล์สปอร์ตแบบ M ยังมีพวงมาลัยหนัง M ตกแต่งด้วย CraftedClarity ที่ทำจากแก้วคริสตัล, เบาะหน้าแบบ Comfort ปรับไฟฟ้า, ระบบไฟส่องสว่างทั้งภายในและภายนอกห้องโดยสาร, ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง, ชุดอุปกรณ์ Travel & Comfort เสริมความหรูหราและสะดวกสบายให้ทุกการเดินทาง

●   ด้านการตกแต่ง ห้องโดยสารของ i5 eDrive40 M Sport มากับสี Dark Silver M ประดับด้วยขอบ Aluminium Rhombicle ส่วน i5 M60 xDrive จะมาพร้อมสี Dark Silver M accent ที่ผสมผสานเข้ากับวัสดุ Carbon Fibre และขอบสีเงิน high-gloss silver นอกจากนี้ ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังจะมีระบบปรับอุณหภูมิ, ความแรงลม และการระบายอากาศแบบแยกโซน รวมไปถึงการตั้งโปรแกรมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 5 ระดับ, เซ็นเซอร์แสงอาทิตย์ที่ด้านหลัง และระบบกรองฝุ่นละอองระดับนาโนพาร์ทิเคิล (nano particulate filters)

●   อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในห้องโดยสารคือ แถบ BMW Interaction Bar ที่ประดับด้วยขอบคริสตัล ครอบคลุมทั้งแถบไปจนถึงบานประตู สามารถควบคุมการใช้งานได้ผ่านจอทัชสกรีน สามารถปรับแต่งได้ 6 แบบระหว่าง Personal, Efficient, Sport, Sport+, Expressive และ Relax

●   i5 M60 xDrive ใช้ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins ซึ่งนับเป็นการติดตั้งเป็นครั้งแรกใน BMW 5 Series ชุดลำโพงมีทั้งหมด 17 ตำแหน่ง กำลังขับ 655 วัทท์ ปรับรูปแบบเสียง 7 แบนด์ พร้อมลำโพงสำหรับเสียงเบสส์โดยเฉพาะที่ติดตั้งไว้ภายใต้ขอบโลหะบริเวณประตูรถ ส่วน i5 eDrive40 M Sport ใช้ชุดระบบเสียง hi-fi จาก Harman Kardon ลำโพง 12 ตำแหน่ง และแอมป์ดิจิทัลกำลังขับรวม 205 วัทท์

●   ด้านความปลอดภัย ชุดระบบ Driving Assistant Professional มีระบบ Steering and Lane Change Assist ช่วยควบคุมพวงมาลัยและการเปลี่ยนเลน, ระบบ Active Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ทำงานได้จนถึงความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม., ระบบ Parking Assistant รุ่น Plus ช่วยจอดรถอัจฉริยะ ใช้ความสามารถของกล้องคู่กับระบบคลื่นอัลตราซาวน์ เพิ่มความสะดวกในหลายสถานการณ์ ผ่านระบบช่วยจอด Parking Assistant, ระบบช่วยถอย Reversing Assistant, ระบบเตือนระยะห่าง Active Park Distance Control, ระบบการช่วยจอดแบบ Lateral Parking Aid และกล้องรอบทิศทาง Surround View ซึ่งสามารถดูสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยภาพแบบ 3D ผ่านแอพฯ My BMW รวมทั้งยังสามารถสั่งออปชั่นเพิ่มเติมเป็นฟังก์ชัน BMW Drive Recorder บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบความละเอียดสูงจากกล้องรอบทิศทางได้จาก BMW ConnectedDrive Store

ราคาจำหน่าย

●   บีเอ็มดับเบิลยู เปิดราคาจำหน่าย BMW i5 eDrive40 M Sport ที่ 4,999,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ส่วน BMW i5 M60 xDrive ราคาจำหน่าย 5,599,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

●   นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ BMW Proactive Care ที่นำข้อมูลและนวัตกรรม AI มายกระดับการดูแลลูกค้าไปอีกขั้น โดยระบบจะตรวจสอบและคาดการณ์ความจำเป็นในการเข้ารับบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับ และให้ข้อเสนอแนะก่อนนำรถยนต์เข้ารับบริการ

●   ระบบ Proactive Care จะสังเกตการณ์ข้อมูลของตัวรถในทุกด้าน นับตั้งแต่การวิเคราะห์การทำงานของยาง การแจ้งเตือนปัญหาต่างๆ ไปจนถึงรอบการเข้ารับบริการ จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ควบคู่ไปกับข้อมูลที่ผู้ขับกำหนด และแจ้งข้อความแนะนำหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางแอพฯ My BMW ผ่านระบบในตัวรถ, ทางอี-เมล ผ่านดีลเลอร์ที่กำหนด หรือโทรศัพท์จากบริการ Roadside Assistance ซึ่งระบบ Proactive Care ยังสามารถให้คำแนะนำในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดซอฟท์แวร์ของตัวรถด้วยตนเอง การขอรับบริการขณะเดินทาง หรือการแนะนำศูนย์บริการ เป็นต้น

●   บริการ Proactive Care พร้อมให้ใช้งานแล้วในรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7 ตั้งแต่เวอร์ชั่น 07/2019 หรือใหม่กว่า โดยผู้ที่ใช้บริการจะต้องมีสัญญาใช้งานบริการ BMW ConnectedDrive พร้อมบันทึกข้อมูลรถในแอพฯ My BMW หรือเว็บไซท์ My BMW Portal รวมถึง BMW ID รายละเอียดการติดต่อ และการยินยอมในเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว และการอนุญาตให้ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการสามารถติดต่อได้

●   สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.bmw.co.th หรือติดต่อ BMW Connected Drive โทร. 1397 หรือ facebook.com/bmwthailand หรือ ติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ         ●

Grand Opening : 2024 BMW i5 EV