McLaren ฉลอง 60 ปี พร้อมเปิดตัว McLaren 750S ครั้งแรกในไทย

505views

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

● นิช คาร์ กรุ๊ป ในนาม McLaren Bangkok เปิดตัว McLaren 750S รถซูเปอร์คาร์พลัง ICE หรือ Internal combustion engine รุ่นสุดท้ายของแบรนด์แมคลาเรน โดยจะมีให้เลือกทั้งรุ่นตัวถัง Coupe และรุ่นเปิดประทุน Spider ตัวรถพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำตลาดแทนที่ McLaren 720S และนับเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด มีแอร์โรไดนามิคที่ดีกว่ารุ่นเดิม และมีพละกำลังเป็นรองเพียง 765LT ในไลน์อัพ Super Series เท่านั้น

● ภายในงาน แมคลาเรน แบงคอก ได้จัดแสดง McLaren 750S รุ่นคูเป้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยังได้เชิญสื่อฯ พร้อมลูกค้ามาร่วมฉลองครบรอบ 60 ปีแบรนด์แมคลาเรน โดยมีการจัดนิทรรศการ McLaren Milestone บอกเล่าประวัติที่ผ่านมาของแบรนด์แมคลาเรน ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีที่ 60 ซึ่งรวบรวมทุกความสำเร็จ ไม่ว่าจะทางด้านการลงสนามแข่งหรือการพัฒนายานยนต์ โดยอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการโชว์รถ Hyper car อย่าง McLaren Speedtail ซึ่งมีการผลิตเพียง 106 คันในโลก และมีเพียง 1 คันในประเทศไทยเท่านั้น มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท

McLaren Speedtail

● โดยพื้นฐาน 750S คือรุ่นปรับโฉมของสปอร์ตขับหลัง 720S ทว่ามีการใช้ชิ้นส่วนใหม่มากกว่า 30% และมีการอัพเกรดประสิทธิภาพหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นด้านอากาศพลศาสตร์หรือพละกำลัง จุดเด่นยังคงเป็นแพลทฟอร์ม MonoCage II ที่ใช้โครงสร้างแบบคาร์บอน ไฟเบอร์ โมโนคอค ซึ่งทำให้ 750S มีน้ำหนักตัวแบบไม่รวมของเหลวเพียง 1,277 กก. เบากว่า 720S ราว -30 กก. อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักรถอยู่ที่ 540 แรงม้า/ตัน

● 750S ใหม่มากับจมูกรถต่ำลง, ช่องรับอากาศบริเวณไฟหน้าหรือ Eye Socket แคบลง, Sill Air Intake ออกแบบใหม่, ปรับช่องรับอากาศบริเวณซุ้มล้อหลังใหม่, ด้านหลังเพิ่มความยาวมากขึ้นเพื่อรีดอากาศไปยังปีกคาร์บอนไฟเบอร์หลัง, ปีกใหม่มีการออกแบบให้สูงขึ้นและยาวขึ้น ตำแหน่งติดตั้งอยู่เหนือชุดท่อไอเสียตรงกลางซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก McLaren P1 พร้อมการปรับแต่งโทนเสียงให้มีความแตกต่าง คมชัด และจะค่อยๆ ดังขึ้นในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์สูง

คุณแดน ฮอตชิน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

● ส่วนรุ่น Spider ไฮไลท์คือหลังคาแบบ RHT หรือ Retractable Hard Top เปิด/ปิดได้ภายใน 11 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. พร้อมเสริมความปลอดภัยในขณะพลิกคว่ำด้วย Rollover Protection System ซึ่งมีส่วนบนของโครงสร้างด้านหลังเชื่อมกับโครงสร้าง Monocoque อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักรถอยู่ที่ 566 แรงม้า/ตัน และมีน้ำหนักตัวแบบไม่รวมของเหลว 1,326 กก.

● ห้องโดยสารมีจอทัชสกรีนรุ่นใหม่ขนาด 8 นิ้วสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay พร้อมกล้อง Rear View และ Surround View Camera System อัพเกรดใหม่ อุปกรณ์มาตรฐานและออปชั่นมี มาตรวัดฟูลดิจิทัล, เบาะคาร์บอนไฟเบอร์ทรงบัคเก็ทหุ้ม Alcantara, ชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins, ชุดไฟแอมเบียนท์, พอร์ท USB-C และ USB-A

● พละกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซินรหัส M840T แบบ V8 ความจุ 4.0 ลิตร อัดอากาศด้วยทวิน-เทอร์โบชาร์จ ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะของ Graziano Trasmissioni กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 750 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 81.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที รุ่น Coupe อัตราเร่ง 0 – 200 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที ส่วนรุ่น Spider เพิ่มขึ้นเป็น 7.3 วินาที โหมดในการขับเลือกได้ 3 รูปแบบระหว่าง Comfort, Sport หรือ Track

คุณวิทวัส ชินบารมี ผู้บริหาร McLaren Bangkok

● หนึ่งในไฮไลท์ของ 750S คือ ฟังก์ชั่น McLaren Control Launcher หรือ MCL เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของแมคลาเรนที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้ ตัวระบบจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับสามารถบันทึกโหมดการขับตามความต้องการเฉพาะบุคคลผ่านปุ่ม MCL ทรง Speedmark ซึ่งสามารถควบคุมได้หลายฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบอากาศพลศาสตร์, การตั้งค่าระบบส่งกำลัง หรือระบบเกียร์

● ชุดช่วงล่างใหม่ล่าสุด PCC III หรือ McLaren’s Proactive Chassis Control linked-Hydraulic Suspension ใช้ชุดสปริงและชุดซับแรงกระแทกแบบน้ำหนักเบาที่คำนวณและออกแบบใหม่, ระบบ Vehicle-Lift รุ่นใหม่ สามารถยกความสูงด้านหน้าของรถด้วยการกดปุ่มได้ภายใน 4 วินาที เร็วกว่า McLaren รุ่นอื่นๆ และเร็วกว่า McLaren 720S ที่ใช้เวลา 10 วินาที และยังมีการปรับอัตราทดให้จัดขึ้นด้วย

● นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคเซรามิค, ปั๊มสุญญากาศใหม่, บูสเตอร์ชุดใหม่ และคาลิเปอร์เบรคแบบ Monobloc ที่พัฒนาต่อยอดมาจากระบบเบรคของ McLaren Senna พร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนคาลิเปอร์เบรคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถ Formula 1 ด้วย

● ไมเคิล ไลเธอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมคลาเรน ออโตโมทีฟ กล่าวว่า “เมื่อเราออกแบบและผลิตรถที่นักขับทั้งหลายต่างยอมรับว่ามันเป็นมาตรฐานของซูเปอร์คาร์ หากจะสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นไปอีก เราต้องศึกษารายละเอียดทุกแง่มุม ทั้งยังต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อพัฒนาและยกระดับให้เหนือกว่ามาตรฐานดังกล่าวอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่เรามุ่งมั่นจนมาเป็นแมคลาเรน 750เอส รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ด้วยความผสมผสานทั้งน้ำหนักที่เบายิ่งขึ้น สมรรถนะเครื่องยนต์ V8 และสัมผัสการขับที่ดีเยี่ยม ล้วนสร้างประสบการณ์การขับซูเปอร์คาร์ที่ดียิ่งขึ้น ล้ำหน้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยกระดับมาตรฐานใหม่ในวงการ ส่งผลให้ขับสนุกเร้าใจและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างนักขับและตัวรถอย่างแท้จริง”

● แมคลาเรน แบงคอก เปิดราคาจำหน่าย McLaren 750S เริ่มต้นที่ 32 ล้านบาทครับ

● แมคลาเรน แบงคอก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยโชว์รูมตั้งอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมบริการซ่อมบำรุง และบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยช่างเทคนิคมีความชำนาญ และผ่านการฝึกอบรมโดยตรงจากทีมวิศวกรของ McLaren Automotive

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : bangkok.mclaren.com หรือ Facebook : facebook.com/McLarenBKK หรืออินสตาแกรม : instagram.com/mclarenauto หรือยูทิวบ์ : youtube.com/@McLarenAutomotiveTV หรือโทร : 02-321-1111, 081-434-7777 หรืออี-เมล : [email protected] ●