Mercedes-Maybach S 580 e รถหรูพลังปลั๊ก-อินฯ รุ่นประกอบไทย

933views

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

● เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวรถหรูในกลุ่มอัลตร้าลักชัวรี่ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบไทย โดยนับเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production (สี Obsidian black / High-tech silver) และยังนับเป็นรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกของแบรนด์ที่มากับเครื่อง 6 สูบเรียง จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้าด้วย โดยราคาจำหน่ายในบ้านเราเปิดออกมาที่ 11,200,000 บาท

● หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ การนำเสนอ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service โดยผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก “Quinessentially” เพื่อเสริมความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach ตลอด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกรถ

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

● มร. มาร์ทิน ชเวงค์ (Martin Schwenk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัวของ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ มุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศให้กับแบรนด์ Mercedes-Maybach ภายใต้แนวคิดที่มาจากปรัชญาของ “วิลเฮล์ม มายบัค” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Maybach ด้วยการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งวิศวกรรมยานยนต์ระดับสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และทำให้ Mercedes-Maybach ได้รับการยกย่องจากคนดังระดับโลกมากมายที่เป็นเจ้าของ โดยหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของรถในตระกูล Mercedes-Maybach คือพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่พร้อมมอบประสบการณ์ระดับ First-Class ซึ่งถูกออกแบบอย่างพิถิพิถัน และใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกมิติ”

● “นอกจากความเป็นที่สุดที่ลูกค้าทุกคนจะได้รับจากการเป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach อีกหนึ่งความพิเศษคือประสบการณ์อันเหนือระดับของ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service โดยจับมือกับ ควินเทสเซ็นเชียลลี่ (Quintessentially) ผู้ให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอันเร่งด่วนและซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเดินทาง การจองร้านอาหารชั้นนำระดับโลก หรือการจัดงานเฉลิมฉลองสุดพิเศษ พร้อมให้สมาชิกได้ใช้เวลาอันมีค่ากับคนสำคัญอย่างไร้กังวล ซึ่งบริการสุดพิเศษนี้ยังสามารถสะท้อนไปถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ Mercedes-Maybach ด้วยเช่นกัน”

Mercedes-Maybach S 580 e

● Mercedes-Maybach S 580 e ใช้พื้นฐานของ Mercedes-Benz S-Class รุ่นปัจจุบันรหัสตัวถัง W223 ในการผลิต ตัวรถมากับกระจังหน้าโครเมียม Radiator grille พร้อมตราสัญลักษณ์ Maybach, กระจก Laminated glass ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟาเรดและเสียงสะท้อนจากภายนอก, ไฟท้ายใหม่แบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fibre-optic และล้อ Maybach ขึ้นรูปแบบฟอร์จ ขนาด 20 นิ้ว

● อุปกรณ์มาตรฐานมีชุดไฟหน้า DIGITAL LIGHT, ระบบ Adaptive Highbeam Assist Plus ปรับไฟสูงอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับระบบ Active Light System (ALS) ปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย, ระบบ Cornering light เพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวโค้ง, ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพการขับ, ความเร็ว และน้ำหนักบรรทุกสัมภาระแบบอัตโนมัติ

● ห้องโดยสารมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 3 ก้านหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, มาตรวัดดิจิทัลปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ, จอทัชสกรีนส่วนกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว, แผงคอนโซลกลางแบบ Black crystal-look finish, หลังคาตกแต่งด้วย DINAMICA microfibre, เบาะหุ้มหนัง Exclusive Nappa
ตกแต่งแบบ Diamond design, เบาะหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันนวด, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE, ฟังก์ชัน AIR BALANCE package ปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบฟอกอากาศ HEPA filter และระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM 2.5

● ชุดระบบอินโฟฯ มากับระบบผู้ช่วยเสมือน MBUX Interior Assistant สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงระบบปฏิบัติการมัลติมีเดีย MBUX ที่เชื่อมต่อ music streaming service, ระบบนำทาง และระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system ปิดท้ายด้วยชุดไฟ Ambient lighting สำหรับสร้างบรรยากาศรอบห้องโดยสารมากกว่า 64 เฉดสี และสามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ twinkle-star และ rosé gold ซึ่งเป็นสีเฉพาะตัวสำหรับ เมอร์เซเดส-มายบัค เท่านั้น

● ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย กำลังรวมทั้งระบบ 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 76.4 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

● ตัวระบบเก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคแรงดันสูงชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุ 28.6 กิโลวัทท์-ชม. โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 100 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป รองรับการชาร์จด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 กิโลวัทท์ ภายในเวลา 30 นาที ส่วนการชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัทท์ ชาร์จเต็มใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที

● ทั้งนี้ ช่วงล่างของรถรุ่นนี้จะถูกปรับจูนให้ผู้โดยสารด้านหลังได้รับความนุ่มนวลเป็นพิเศษตามแบบฉบับมายบัค โดยจะเน้นการไปที่การเคลื่อนไหวของระบบช่วงล่าง และการควบคุมแรงสั่นสะเทือนของรถ เพื่อให้มีความนุ่มสบายที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถปรับการควบคุมคันเร่งเพื่อการออกตัวอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้โปรแกรมการขับแบบ COMFORT ก็จะช่วยมอบสมดุลในการขับที่นุ่มสบาย สำหรับทั้งผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยยังคงมีโหมดในการขับให้เลือกอีกหลายรูปแบบด้วยการสั่งงานผ่านฟังก์ชั่น DYNAMIC SELECT

● ขุดระบบช่วยขับและระบบความปลอดภัย Driving Assistance package มีระบบ Active Steering Assist with hands-off warning ช่วยควบคุมพวงมาลัยพร้อมแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับปล่อยมือ, ระบบ Active Emergency Stop Assist ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน, ระบบเบรคแบบ ADAPTIVE BRAKE, ฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist, ระบบช่วยจอด Active Parking Assist with PARKTRONIC พร้อมกล้อง 360° ช่วยนำรถเข้าจอดได้ง่ายๆ ผ่านสัญญาณเสียง และการแสดงภาพรอบทิศทางผ่านกล้อง 360° ความแม่นยำสูง และระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

● สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข้อเสนอพิเศษต่างๆ ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือที่เว็บไซท์ : www.mercedes-benz.co.th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/MercedesBenzThailand หรืออี-เมล : [email protected] หรือติดต่อ Customer Contact Center (CCC) โทร : 1250 ●