TATA เปิดตัวรถบรรทุกพาณิชย์ 4 รุ่น พร้อมเปิดบริการครบวงจร

645views

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

● บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ในนาม ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น รองรับการขนส่งระยะสั้นไปจนถึงระยะไกล ประกอบด้วยรถบรรทุกขนาดเล็ก TATA Super Ace รุ่นปรับโฉม MY2023, รถบรรทุกขนาดกลาง TATA Ultra T.9 และ TATA Ultra T.14 ปิดท้ายด้วยรถบรรทุกหนัก TATA Prima 5038.S ทุกรุ่นจะจัดแสดงอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2023 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

● นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว TATA Protect แพคเกจบำรุงรักษาและช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องการซ่อมแซมที่รวดเร็ว พร้อมด้วย TATA Master Care + บริการ Service Package Maintenance ขยายการรับประกันอะไหล่รายการหลักเพิ่มเติม เสริมด้วย TATA OK บริการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถเพื่อการพาณิชย์มือสอง รับประกันด้วยการตรวจสอบคุณภาพ 120 รายการ

TATA Super Ace

● เวอร์ชั่นปรับโฉมของ TATA Super Ace รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กที่กลับมาทำตลาดบ้านเราอีกครั้งด้วยโฉมปี 2023 ตัวรถได้รับการอัพเกรดสมรรถนะด้วยการเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ และระบบหม้อน้ำใหม่ที่ระบายความร้อนได้ดีขึ้น เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่ใช้งานในเมือง

● ตัวรถมากับกระบะขนาดใหญ่ ความยาว 2,630 มม. ขนถ่ายสินค้าได้สะดวกด้วยกระบะแบบพื้นเรียบ เปิดได้ทั้ง 3 ด้าน รองรับการบรรทุกสินค้าสูงสุด 1 ตัน สามารถขึ้นทางลาดชันได้ 38 องศา วงเลี้ยวแคบสุด 5.1 เมตร เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แคบ หรือในเมืองที่มีพื้นที่การจราจรจำกัด

● TATA Super Ace ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 1.4 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคอมมอนเรล CRDI ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด กำลังสูงสุด 70 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.2 กก.-ม. ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง, ระบบเบรคหน้าแบบดิสค์ ด้านหลังแบบดรัม และปลอดภัยด้วยโครงสร้างแบบกึ่งโมโนคอค

● อุปกรณ์มาตรฐานมีพวงมาลัยพาวเวอร์ ปรับ 4 ทิศทาง, เบาะหุ้มหนัง PVC, กระจกไฟฟ้าคู่หน้า, ระบบปรับอากาศ และคอพวงมาลัยไฟฟ้ายังเป็นแบบยืดหดได้ ช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

● นอกจากนี้ TATA Super Ace ยังมีรูปแบบตัวถังที่ผ่านการตกแต่งมาแล้วให้เลือก 4 แบบ พร้อมเริ่มต้นทำธุรกิจได้ทันที ประกอบด้วยรุ่น Standard, Food Truck, Shuttle หรือ Cargo

● ราคาจำหน่ายรุ่นมาตรฐานเริ่มต้นที่ 385,000 – 395,000 บาท รุ่นตู้บรรทุก (Cargo) เริ่มต้นที่ 445,000 – 455,000 บาท รุ่นรับส่งผู้โดยสาร (Shuttle) เริ่มต้นที่ 505,000 – 515,000 บาท ส่วนเวอร์ชั่น Food Truck เริ่มต้นที่ 515,000 – 525,000 บาท

● ทุกรุ่นรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. นาน 1 ปี

TATA Ultra T.9

● ต่อด้วย TATA Ultra T.9 รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ขนาดกลาง พิกัดบรรทุก 8.9 ตัน ออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าที่คล่องตัว ห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับปลอดภัย และรู้สึกสบายตลอดการเดินทางไกล ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแหนบพาราโบลิค ช่วยเพิ่มความนุ่มนวล แหนบบรรทุกหนักด้านหลังแบบแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการบรรทุก และยังสามารถเดินทางได้ต่อเนื่องด้วยถังน้ำมันขนาด 120 ลิตร

● ตัวรถใช้เครื่องยนต์ดีเซลรหัส LNGD09 ความจุ 3.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ จ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น ระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา G550 6 สปีด กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 2,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. ที่ 1,400 รอบ/นาที เฟืองท้ายขนาด 4.125 มม. ระบบเบรค S-Cam แบบลมล้วน 2 วงจรแยกอิสระ Dual Circuit Full Air พร้อมระบบ ABS

TATA Ultra T.14

● TATA Ultra T.14 อีกหนึ่งรุ่นย่อยในไลน์อัพ Ultra series ออกแบบมาเพื่อรับมือกับงานที่ยากและมีน้ำหนักบรรทุกมากขึ้น ด้วยการเพิ่มพิกัดบรรทุกขึ้นเป็น 14.7 ตัน สามารถใช้ในการได้หลายประเภท เช่น การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค, ผักผลไม้ หรืออื่นๆ ตามแต่ละธุรกิจ

● เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 5LNGDICR17 เทอร์โบชาร์จ เพิ่มความจุเป็น 5.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 2,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60.1 กก.-ม. ที่ 1,000 รอบ/นาที เฟืองท้ายขนาด 4.11 มม. ระบบเบรคแบบลมล้วน 2 วงจรแยกอิสระ Dual Circuit Full Air พร้อม ABS ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและหลังแบบแหนบพาราโบลิค พร้อมแหนบบรรทุกหนักด้านหลัง

TATA Prima 5038.S

● ปิดท้ายด้วยรถบรรทุกหนักในกลุ่มเฮฟวี่-ดิวตี้ TATA Prima 5038.S รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่นับเป็นรุ่นเรือธงของ ทาทา มอเตอร์ส เหมาะสำหรับงานด้านโลจิสติกส์, อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง สามารถขนส่งสินค้าหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

● ตัวรถเป็นแบบหัวลาก 10 ล้อ 6×4 พิกัดลากจูง 50.5 ตัน ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซลของ CUMMINS รหัส ISLe 375 ความจุ 8,898 ซีซี. เทอร์โบชาร์จ จ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา Eaton เดินหน้า 9 สปีด พร้อม Crawler เกียร์ กำลังสูงสุด 370 แรงม้า ที่ 2,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 147.9 กก.-ม. ที่ 1,200 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.

● เฟืองท้ายขนาด 4.55 มม. และระบบเบรคลมล้วน All-Air Dual Circuit พร้อมระบบ ABS ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแหนบพาราโบลิค ด้านหลังเป็นแบบ TML Bogie Suspension ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในขณะใช้งานบนพื้นถนนที่มีความขรุขระ

นายนาเคศ สิงห์ (H.E. Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย

● มร. อนุรักษ์ เมห์โรทรา (Mr. Anurag Mehrotra) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ทาทา มอเตอร์ส กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ทาทา มอเตอร์ส เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ชั้นนำที่นำเสนอฟังก์ชันการทำงาน ความสามารถในการผลิต การเชื่อมต่อ ความปลอดภัยและสมรรถนะ ด้วยประสบการณ์เชิงลึกในการสร้างความ พึงพอใจให้กับลูกค้า ที่ใช้รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อให้สร้างผลกำไรและความน่าเชื่อถือสูงสุดแก่ลูกค้าและผู้ประกอบการ”

มร. อนุรักษ์ เมห์โรทรา หัวหน้าฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ทาทา มอเตอร์ส

● “โซลูชันเหล่านี้ไม่ใช่เพียงรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ แต่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเราในเรื่องความปลอดภัยและนวัตกรรม ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเราในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ ด้วยความร่วมมือกับ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด เรามั่นใจว่าจะมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าของเรา ด้วยศูนย์บริการที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของประเทศไทยและความเป็นผู้นำระดับโลกด้านการค้าปลีกยานยนต์ของอินช์เคป เราพร้อมที่จะสร้างมาตรฐานใหม่และขับเคลื่อนความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมการขนส่งของประเทศไทย”

นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จํากัด

● นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือของ ทาทา มอเตอร์สและอินช์เคป ประเทศไทย เรามีความเชื่อมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรม การขนส่งและตลาดรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ของไทย ด้วยความที่ ทาทา มอเตอร์ส มีชื่อเสียงทั่วโลกในด้านความน่าเชื่อถือ ความหลากหลายของกลุ่มยานยนต์ในตลาด คุณภาพของตัวรถที่มีความคุ้มค่า ทนทาน ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ตั้งแต่การขนส่งระยะสั้นด้วยรถบรรทุกขนาดเล็ก ไปจนถึงการขนส่งระยะไกลด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ ประกอบกับความเข้าใจในธุรกิจรถยนต์และประสบการณ์ของอินช์เคปทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ รวมถึงความเชี่ยวชาญระดับโลกของอินช์เคป ในด้านยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ ทาทา มอเตอร์ส เรามั่นใจว่าจะสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการขนส่ง และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

● “สำหรับด้านความพร้อมนั้น อินช์เคปได้มีการแต่งตั้งผู้แทนจำหน่าย 13 แห่ง ครอบคลุมเครือข่ายทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย รองรับด้านการขาย การบริการและอะไหล่ อีกทั้งเรายังคำนึงถึงต้นทุนในการเป็นเจ้าของรถเพื่อการพาณิชย์ของ ทาทา มอเตอร์ส พร้อมกันนี้ยังได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจนได้ข้อสรุปว่า รถยนต์ของ ทาทา มอเตอร์ส นั้น มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา อีกทั้งลูกค้ายังสามารถซื้อแพ็กเกจเซอร์วิสเพิ่มเติมได้อีกด้วย”

● “ขณะเดียวกันเรายังสร้างช่องทางให้กับผู้ประกอบการต่างๆ สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ TATA ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยบริษัทพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างสถาบันการเงินและบริษัทไฟแนนซ์ คอยให้คำปรึกษาในด้านสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเงินเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและด้วยตัวเลือกอย่าง TATA Super Ace ที่มีรูปแบบตัวถังผ่านการตกแต่งมาแล้ว ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Standard, Food Truck, Shuttle และ Cargo ลูกค้าที่ซื้อรถกับเราจึงสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ทันที”

TATA Protect และ TATA OK

● ด้านบริการหลังการขาย ทาทา มอเตอร์ส พร้อมเปิดศูนย์บริการ 13 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ถนนลำลูกกา คลอง 6 จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วยพื้นที่โชว์รูม, ศูนย์บริการ, ศูนย์จำหน่ายอะไหล่, ศูนย์ฝึกอบรม Training Center และเพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้าตลอดอายุการใช้งานด้วย TATA Protect แพคเกจบำรุงรักษาและช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องการซ่อมแซมที่รวดเร็ว ประกอบด้วยบริการ 6 รายการหลัก ประกอบด้วย :

● 1. Customer Help Line : สายด่วนรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ พร้อมรับฟังปัญหาหรือสามารถให้คำแนะนำด้านบริการกับทางลูกค้าได้ พร้อมทั้งนำข้อมูลมาแก้ไขและปรับปรุงงานบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับความ พึงพอใจสูงสุด

● 2. Express Service : สามารถรับรถได้ภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง เมื่อนำรถเข้ามารับบริการเช็กระยะที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ

● 3. TATA Alert : ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์กับ ทาทา มอเตอร์ส แล้วเกิดปัญหาการใช้งานระหว่างทาง สามารถเรียกใช้บริการ Roadside Assistance ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทางลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือภายใน 1 ชั่วโมง

● 4. Wide Network Coverage : มีศูนย์บริการ 13 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคอีสาน และภาคใต้

● 5. TATA Master Care+ : บริการ Service Package Maintenance และขยายการรับประกันอะไหล่รายการหลักเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจเรื่องการใช้งานรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของ ทาทา มอเตอร์ส

● 6. Fleet Edge Telematics : แพลตฟอร์มการติดตามยานพาหนะ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการแจ้งเตือน ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่ติดตั้งในรถยนต์ TATA สำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบรายละเอียดการขับขี่ของคนขับ รวมถึงสมรรถนะของรถ และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Real Time เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้วางแผนการเดินทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ

● นอกจากนี้ยังมี TATA OK บริการ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถเพื่อการพาณิชย์มือสองแบบไม่ยุ่งยาก โดยเป็นบริการแบบครบวงจรที่จะช่วยค้นหารถมือสองที่เหมาะกับธุรกิจ นำเสนอโซลูชันตั้งแต่ต้นจนจบสำหรับการ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รับประกันความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถบรรทุกมือสอง, ขายรถคันเก่า หรือเปลี่ยนรถเป็นคันใหม่ให้เหมาะกับธุรกิจและงบประมาณ พร้อมตรวจสอบคุณภาพ 120 รายการ และยังมีแพคเกจการรับประกัน และการบริการที่หลากหลาย, การโอนเอกสาร 100% ตลอดจนตัวเลือกทางการเงินที่ง่ายและสะดวก

● สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TATA MOTORS Contact Center โทร. 02-098-6000 หรืออี-เมล : [email protected] ●