EV Primus จัดตั้งคณะบอร์ดบริหารเดินหน้าโรงงานประกอบ EV
ประชาสัมพันธ์
● บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์โวลท์ (Volt) และ วู่หลิง (Wuling) แต่ผู้เดียวในประเทศไทย (Sole Distributor) รุกสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง ด้วยการเชิญบอร์ดบริหารและมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ร่วมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านตลาดรถยนต์สันดาปภายในมาเป็นตลาดรถยนต์อีวี
● นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มมีผู้เล่นที่มากขึ้น มีการแข่งขันที่สูงขึ้น และเนื่องด้วยเป็นตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่เรื่อย ๆ บริษัทที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้จึงต้องพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ อีวี ไพรมัส จึงได้มีการจัดตั้งกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อรุกตลาดอีวีได้อย่างมั่นคง และ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลากหลายได้อย่างทันท่วงที รวมถึงในการบริหารจัดการนั้น ต้องยกระดับให้มีความเป็นสากลมากขึ้น จึงมีการเชิญพันธมิตรและบอร์ดบริหารที่มีประสบการณ์เข้ามาร่วมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
● ภายใต้โครงสร้างการบริหารองค์กรชุดใหม่ บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ประกอบด้วย
- นายสุรพล สุประดิษฐ์ ประธานบอร์ด
- นายแพทย์ฆนัท ครุธกูล รองประธานบอร์ด
- นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- นางสาวภัทร์ลดานันท์ ธนาวิชญะนันท์ กรรมการผู้จัดการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
- นายเฉลิมศักดิ์ ศิริกุล ที่ปรึกษาคณะบอร์ด และ ผู้จัดการโรงงานประกอบ
- มร. เฉิน เฉาจุน ตัวแทนกลุ่มบริษัท Lesso Group และ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจใหม่
● นายพิทยา กล่าวว่าคณะบอร์ดบริหารชุดใหม่ ได้พัฒนาแนววิสัยทัศน์ สร้างธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจได้แก่
- EV Distribution: ธุรกิจประกอบและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า
- EV B2C Solution: ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าสำหรับบุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยว
- EV B2B Solution: ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับลูกค้าแบบธุรกิจ
● นายสุรพล สุประดิษฐ์ ประธานบอร์ด บริษัทฯ กล่าวว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้ โดยเติบโตจากปีที่แล้วที่มียอดขายเพียงหลัก 10,000 คัน มาเป็น กว่า 70,000 คันในช่วง 10 เดือนของปีนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้ ยอดขายจะเติบโตไปถึง 80,000 – 90,000 คัน ทั้งนี้เป็นเพราะนโยบายการสนับสนุนการเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าของกรมสรรพสามิตที่เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว
● “จากนโยบายสนันสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของกรมสรรพสามิต รวมถึงการลงทุนของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหลายค่าย ทำให้ประชาชนมั่นใจและเลือกใช้อีวีมากขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือ Supply Chain ของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเริ่มเกิดขึ้นอย่างมีนัยยะ ส่งเสริมให้ไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน” นายสุรพล กล่าวและเสริมว่า โอกาสของรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact และ City EV จะสดใสมากเพราะเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ในราคาที่เหมาะสม ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับยุคเปลี่ยนถ่ายที่คนเริ่มเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
● นายแพทย์ฆนัท รองประธานบอร์ด บริษัทฯ เสริมว่า โอกาสของการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่การขายเท่านั้น แต่การประยุกต์เอารถยนต์ไฟฟ้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะเปรียบเสมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ทุกบ้านจะต้องมีในอนาคต
● อย่างไรก็ตาม ในยุคสังคมแบบ Sharing Economy ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งอาจจะไม่นิยมการซื้อทรัพย์สินอย่างรถยนต์ไฟฟ้า แต่จะวางแผนทางการเงินด้วยการเช่าใช้แทน กล่าวคือ การถือครองรถยนต์ในยุคใหม่จะมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น อีวี ไพรมัส จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ด้วยการสร้าง Business Model ที่เปิดให้ลูกค้าใช้รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทในลักษณะเช่าใช้ ซึ่งจะมีทั้งแบบ B2C และ B2B เป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจได้อย่างตรงจุด
● “Business Model ของ B2C เรายังได้แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ บุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยวที่เน้นการเช่าระยะสั้น ๆ ซึ่งรถประเภท Compact และ City EV มีข้อได้เปรียบเรื่องราคา อีกทั้งพฤติกรรมลูกค้ากลุ่มนี้เน้นการขับระยะสั้น ๆ เท่านั้น ทั้ง VOLT CITY EV และ WULING AIR EV มีราคาที่ต่ำกว่ารถสันดาปถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถกดราคาค่าเช่าให้เป็นทางเลือกที่ดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างมาก และที่สำคัญคนรุ่นใหม่เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม Solution นี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” นายแพทย์ฆนัท กล่าว
● นายแพทย์ฆนัท กล่าวอีกว่า ในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่จะให้เช่าใช้แบบ B2B นั้น ขณะนี้ อีวี ไพรมัส อยู่ระหว่างการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่มีระบบ Battery Swap เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการไม่ต้องจอดรอชาร์จ ซึ่งถือเป็นการแก้ Paint Point ของธุรกิจในสาขาต่าง ๆ ที่กำลังประสบปัญหาค่าขนส่งที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
● นายเฉลิมศักดิ์ ที่ปรึกษาคณะบอร์ดและผู้จัดการโรงงานประกอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ อีวี ไพรมัส กำลังดำเนินการสร้างไลน์ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัทฯ ให้เสร็จพร้อมประกอบรถยนต์ไฟฟ้าป้อนให้กับตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของการขอรับเงินสนับสนุนจากกรมสรรพสามิต โดยโรงงานประกอบจะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ในเขตประกอบการเสรี ด้วยงบประมาณการลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท และมีกำลังการผลิต 6,000 คันต่อปี โดยจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นที่ 2 แบรนด์คือ VOLT CITY EV และ WULING และในอนาคตจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์อีกด้วย
● “โรงงานนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่เช่าที่อยู่ในเขตปลอดอากรใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้เป็นฐานการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปในอนาคต โรงงานแห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก SGMW บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า WULING ในการออกแบบไลน์ประกอบ ไลน์ทดสอบคุณภาพ ทำให้เราได้เป็นโรงงานประกอบอย่างเป็นทางการของ SGMW ที่มีระบบบริหารจัดการและควบคุมคุณภาพในระดับสากล อีกทั้งยังทำให้เรามีโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าประกอบสำเร็จจากประเทศไทยไปต่างประเทศอีกด้วย” นายเฉลิมศักดิ์ กล่าว
● นางสาวภัทร์ลดานันท์ กรรมการผู้จัดการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกล่าวว่าจากการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ อีวี ไพรมัส ภายใต้แบรนด์ VOLT CITY EV และ WULING ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยเฉพาะ Segment ของ Compact และ City EV ที่ยังมีช่องว่างให้ อีวี ไพรมัส เป็นผู้ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อเป็นคันที่ 2 หรือคันที่ 3 ของบ้านและนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันที่เดินทางระยะสั้น ๆ เพื่อทำธุระประจำวัน เช่น ไปตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ไปรับส่งลูกไปโรงเรียน เป็นต้น
● “ในการสื่อสารทางการตลาดของแบรนด์ VOLT และ WULING นั้น เราไม่ได้วางตำแหน่งตนเองเป็น Economic Choice แต่เป็น Smart Choice ของผู้ที่ต้องการเข้าสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้า และต้องการแสดงวิถีชีวิตที่แตกต่าง ซึ่งลูกค้าของเราส่วนใหญ่แล้ว เป็นกลุ่มคนที่ทันสมัย และมีรายได้สูง มีความต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีและอยากใช้ อีวี แบบ Smart Usage ที่เป็นรถเสริมที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน” นางสาวภัทร์ลดานันท์ กล่าว
● นางสาวภัทร์ลดานันท์ กล่าวถึง SGMW หรือ WULING นั้น เป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact และ City EV ในจีนและยังเป็นผู้ริเริ่มในการปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้าในจีน เมื่อหลายปีที่แล้ว ด้วยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในคุณภาพสูง ในราคาจับต้องได้ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายและสามารถกวาดยอดขายในประเทศจีนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคันในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง WULING AIR EV นี้ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของ WULING ที่พัฒนามาจากรุ่นก่อน ๆ ที่เน้นคุณภาพและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ทำให้ยอดขาย WULING AIR EV ในประเทศไทยทะลุ 1,000 คันในช่วงระยะเวลาเพียง 4 เดือนของการเปิดตัว
● “เรายืนยันว่าเราจะดูแลลูกค้ากว่า 1,000 คันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อให้เกิดกระแสแบบปากต่อปาก ซึ่งจะส่งผลระยะยาวกับแบรนด์ WULING ในประเทศไทย ดังนั้นในปีหน้าเราจะจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การบอกต่อจากลูกค้าที่ใช้จริง และรวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความพึงพอใจในสินค้าและบริการของ WULING ซึ่งจะส่งผลต่อแบรนด์ให้แข็งแรงและเติบโตในระยะยาว” นางสาวภัทร์ลดานันท์ กล่าว
● นายพิทยา กล่าวเสริมว่าในอนาคต อีวี ไพรมัส จะยังคงให้ความสำคัญในการนำรถ WULING รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าของ WULING ให้กว้างขึ้นโดยได้มีการเจรจากับ SGMW แล้วว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า อีวี ไพรมัส จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า WULING เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 รุ่นเพื่อให้ WULING สามารถเป็นผู้นำในตลาด Compact และ City EV ได้อย่างแท้จริง
● นายเฉิน เฉาจุน ผู้แทนจากกลุ่มบริษัท Lesso Group และ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจใหม่ กล่าวว่า “Lesso Group เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง และเป็นผู้นำทางด้านการผลิตท่อน้ำ PVC และ แผงโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์ชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าและ Power Storage ระดับแนวหน้าของประเทศจีน ซึ่งธุรกิจของ อีวี ไพรมัส ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ WULING ให้เป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน จึงทำให้ Lesso Group มีความสนใจที่จะร่วมธุรกิจกับ อีวี ไพรมัส ด้วยเงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะกลยุทธ์ระยะยาวของ อีวี ไพรมัส มีความสอดคล้องกับธุรกิจที่ Lesso Group ตั้งใจจะทำในภูมิภาคอาเซียน”
● “ธุรกิจของ Lesso Group มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่สอดคล้องกับแนวธุรกิจของ อีวี ไพรมัส ซึ่งสินค้าของเรานั้นมีส่วนที่เกี่ยวข้องและสามารถเดินหน้าไปกับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าได้ ตัวอย่างเช่นแผงโซลาร์ เซลล์ และชุด Power Storage ติดตั้งในโรงงานหรือที่จอดรถ เพื่อชารจ์ไฟให้รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิขย์ จะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้ธุรกิจได้ ดังนั้น Lesso Group ได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพในการขยายตลาดเข้าสู่ตลาดประเทศไทยโดยการร่วมมือกับ อีวี ไพรมัส ซึ่งเราสามารถสร้าง Concept ของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการสำรองไฟผ่าน Power Storage ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัยหรือโรงงาน และนำไฟฟ้ากลับมาใช้ได้เมื่อต้องการ ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดต้นทุนให้คนไทยได้เป็นอย่างดี”
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ voltthailand.com หรือ wulingthai.com ●