2024 Honda City Hatchback ปรับโฉม เพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV

726views

motortrivia

● ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว Honda City Hatchback รุ่นปรับโฉม MY2024 ปรับไลน์อัพใหม่ เพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV โดยทุกรุ่นพร้อมให้ทดลองขับแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ เบื้องต้นการจำหน่ายรุ่น VTEC TURBO จะมี 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 599,000 บาท ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 729,000 บาท

● ตัวรถมากับกันชนหน้า/หลังใหม่, กระจังหน้าโครเมียมใหม่ (S+, SV และ e:HEV SV), ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (S+, SV และ e:HEV SV) พร้อมไฟ LED วื่งกลางวัน, ไฟท้าย LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบด้วยสีฟ้า, โลโก้ e:HEV ที่ด้านท้ายเฉพาะรุ่น e:HEV, มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว (SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (S+, SV และ e:HEV SV), เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (S+, SV และ e:HEV SV) และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว (S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (SV) และขนาด 16 นิ้วแบบทูโทน (e:HEV SV)

2024 Honda City Hatchback e:HEV SV

● รุ่น RS และ e:HEV RS ตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำแบบใหม่, กันชนหน้า/หลังใหม่, สเกิร์ทข้างใหม่ และสปอยเลอร์หลัง อุปกรณ์มาตรฐานใหม่มีไฟหน้า LED, ไฟวิ่งกลางวัน LED, ไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED, ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา และล้ออัลลอยลายใหม่สีดำขนาด 16 นิ้ว

● ห้องโดยสารตกแต่งใหม่ด้วยเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (SV และ e:HEV SV), วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black, มือเปิดประตูโครเมียม (SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), เบาะ ULTR แยกพับ 60:40 สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ 4 โหมดระหว่าง Utility Mode, Long Mode, Tall Mode หรือ Refresh Mode

● อุปกรณ์มาตรฐานมี มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (e:HEV SV และ e:HEV RS), จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย การแสดงผลสีของหน้าจอคมชัดขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง, เพิ่มพอร์ท USB Type-C ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, ระบบ Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท

2024 Honda City Hatchback e:HEV SV

● ต่อด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับระดับ 4 ทิศทาง, Paddle Shift (รุ่น RS), ระบบ Deceleration Paddle Selectors ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย(e:HEV SV และ e:HEV RS), ปุ่ม ECON, ลำโพง 8 ตำแหน่ง (RS และ e:HEV RS), กระจกมองหลังแบบตัดแสง, แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (RS และ e:HEV RS), ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร, ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย, พนักเท้าแขนด้านหน้า (SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (RS และ e:HEV RS), ช่องเก็บของหลังเบาะคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก (e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบ One Push Ignition System สตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ, ระบบ Honda Smart Key System ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ

● เทคโนโลยี Honda CONNECT (RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน รองรับการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ประกอบด้วย My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น, Car Log ข้อมูลพฤติกรรมการขับ, WiFi สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ทจากรถ ใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด 5 อุปกรณ์ ระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง, Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบผ่านแอพฯ พร้อมส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น, Car Status แจ้งเตือนสถานะรถเมื่อเกิดความผิดปกติ, Remote Vehicle Control ล็อค / ปลดล็อค / สตาร์ทเครื่องยนต์ / ดับเครื่องยนต์ พร้อมตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถ, Geo Fence & Speed Alert กำหนดขอบเขตการขับ ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้ ปิดท้ายด้วย Find My Car ตรวจสอบพิกัดรถยนต์

2024 Honda City Hatchback e:HEV SV

● รุ่น VTEC TURBO ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 100 กรัม/กม. และรองรับน้ำมัน E20

● รุ่นไฮบริด e:HEV ใช้เครื่องยนต์ Atkinson Cycle แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 27.8 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 85 กรัม/กม. และรองรับน้ำมัน E20 โหมดในการขับเลือกได้ 3 โหมดระหว่าง EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode หรือ Engine Drive Mode

● ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ Lead Car Departure Notification System: LCDN ช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ และเพิ่มระบบ with Low-Speed Follow: LSF ปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) เสริมด้วยระบบ Honda LaneWatch แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Walk Away Auto Lock ล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, กล้องส่องภาพด้านหลังแบบปรับมุมมอง 3 ระดับ Multi-Angle Rearview Camera (SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)

2024 Honda City Hatchback e:HEV RS

● และทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมเทคโนโลยีกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถ, คนเดินถนน, จักรยาน และมอเตอร์ไซค์ ประกอบด้วย 6 ฟังก์ชันหลักๆ ได้แก่ ระบบ Collision Mitigation Braking System: CMBS เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค, ระบบ Lane Keeping Assist System: LKAS ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Auto High-Beam: AHB ปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Adaptive Cruise Control: ACC ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (S+, SV และ RS)

● นอกจากนี้ยังมี เบรคมือไฟฟ้า (e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบ Auto Brake Hold (e:HEV SV และ e:HEV RS), ถุงลมคู่หน้า, ถุงลมด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมด้านข้าง (RS และ e:HEV RS), ระบบ Auto Door Lock by Speed ล็อคประตูรถอัตโนมัติ, ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (e:HEV RS), ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า, ระบบเบรค ABS / EBD, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ, เข็มขัดนิรภัยหน้า/หลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง, กุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย, ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder, จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS

● นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของฮอนด้า โดย ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เป็นยนตรกรรมภายใต้ไลน์อัป City Series ที่เป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคนที่ชอบซิตี้คาร์ในสไตล์รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู โดยเป็นรถที่ครองใจลูกค้าด้วยจุดเด่นทั้งด้านดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเบาะนั่งอัลตราซีทอันเป็นเอกลักษณ์ด้านความอเนกประสงค์ของฮอนด้าที่ลูกค้าชื่นชอบ มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO ที่ขับสนุกตอบสนองไลฟ์สไตล์ในทุกวัน และระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่เป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบันและชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นจากการผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และในวันนี้เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับเทคโนโลยี e:HEV จากฮอนด้าได้ง่ายขึ้น ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมราคาพิเศษ ทั้งรุ่น e:HEV RS 799,000 บาท และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV ราคา 729,000 บาท และรุ่นเทอร์โบ เพิ่มเติมฟังก์ชันพร้อมอัปเกรดความปลอดภัยกับ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ด้วยราคา 599,000 – 749,000 บาท”

2024 Honda City Hatchback e:HEV RS

ราคาจำหน่าย

● สีภายนอกของ City ใหม่ เลือกได้ 7 สีระหว่าง Brilliant Sporty Blue Metallic หลังคาสีดำ (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), แดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS), ขาว Platinum White Pearl (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), ดำ Crystal Black Pearl, เทา Meteoroid Gray Metallic, เทา Sonic Gray Pearl หรือ ขาว Taffeta White (เฉพาะรุ่น S+)

e:HEV RS ราคา 799,000 บาท
e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
RS ราคา 749,000 บาท
SV ราคา 679,000 บาท
S+ ราคา 599,000 บาท

● อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมมี ชุดแต่ง Modulo รอบคัน อาทิ ชุดโลโก้สีดำ หน้า-หลัง ราคา 1,200 บาท, คิ้วแต่งซุ้มล้อหน้า ราคา 1,700 บาท, ชุดป้องกันรอยบริเวณที่เปิดประตู ราคา 1,100 บาท, ชุดแต่งสปอยเลอร์หลัง ราคา 5,500 บาท, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ราคา 3,900 บาท, ปลอกท่อไอเสีย (e:HEV SV และ e:HEV RS) ราคา 1,275 บาท, ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง ราคา 2,400 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง ราคา 1,700 บาท

● นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็คเกจอีก 2 แพ็คเกจ ประกอบด้วย Black Package ราคา 16,000 บาท ในชุดมีล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และชุดโลโก้สีดำ หน้า-หลัง และ Modulo Aero Sport Package ราคา 23,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ทหน้าแบบ 2 ชิ้น, สเกิร์ทข้าง, สเกิร์ทหลังแบบ 2 ชิ้น และชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hondaaccess.co.th/products/cityHatchback

ชุดแต่ง Modulo

● ข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 – 30 เมษายน 2567 เริ่มที่รุ่น VTEC TURBO เลือกรับข้อเสนออย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ดอกเบี้ย 0%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care (ฮอนด้า อัลติเมท แคร์) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ต่อจากการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สิ้นสุด รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

● หรือ Double Smile Plus ดาวน์เริ่มต้น 5% เพียง 29,950 บาท หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 5,484 บาท พิเศษ รับสิทธิ์ Honda Free Drive ขับฟรี 6 เดือน พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี เพิ่มเติมเฉพาะลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า (Honda Loyalty), ลูกค้า You’re the One, ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มอาชีพพิเศษ และลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่เข้าร่วมรายการ

● ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV เลือกรับข้อเสนออย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี o Double Smile Plus ดาวน์เริ่มต้น 5% เพียง 36,450 บาท หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 6,674 บาท พิเศษ รับสิทธิ์ Honda Free Drive ขับฟรี 3 เดือน เพิ่มเติมเฉพาะลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า (Honda Loyalty), ลูกค้า You’re the One, ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มอาชีพพิเศษ และลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่เข้าร่วมรายการ

● หรือ ทุกทางเลือก มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

● สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร. 02-341-7777 หรืออ่านรายละเอียดทาง www.honda.co.th/cityhatchback ผู้ที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 – 30 เมษายน 2567 จะได้รับฟรี Happy Puffy Bag มูลค่า 250 บาท ●