Maserati GranCabrio Folgore ถึงวาระของรุ่นเปิดประทุน

235views

เรื่อง : AREA 54

● หลังเปิดตัว Maserati GranTurismo ใหม่รุ่นปี 2023 (รวมทั้งเปิดตัวในไปบ้านเราไปเมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา) ก็ถึงวาระของการเผยโฉมรุ่นเปิดประทุนพลังไฟฟ้า Maserati GranCabrio Folgore (กรันคาบริโอ โฟลกอเร) การเปิดตัวอย่างเป็นทางการมีขึ้นในอีเวนท์เฉพาะกิจ ‘Made in Thunder’ ซึ่งนับเป็นการเฉลิมฉลอง 110 ปีแบรนด์มาเซราติ และการผลิตแบบ ‘Made in Italy’ ไปด้วยในคราวเดียวกัน

● โดยพื้นฐาน GranCabrio ใหม่ใช้พื้นฐานเดียวกับรุ่นคูเป้ GranTurismo ทั้งคู่ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม Giorgio Sport ขนาดตัวเท่าๆ กัน ความยาวอยู่ที่ 4,959 มม. กว้าง 1,957 มม. สูง 1,353 มม. ระยะฐานล้อจากหน้าถึงหลัง 2,929 มม. ไฮไลท์อยู่ที่หลังคาซอฟท์ท๊อป ซึ่งสามารถทำงานได้ตั้งแต่จุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็วสูงสุดไม่เกิน 50 กม./ชม. โดยการเปิดจะใช้เวลา 14 วินาที และปิดได้ภายใน 16 วินาที

● ทั้งนี้ สีของหลังคาสามารถเลือกได้ 5 สีระหว่าง Nero, Blue Marine, Titan Grey, Greige หรือ Granata

● อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารประกอบด้วยจอ Heads-up display, นาฬิกา Maserati Digital Clock บนแผงแดชบอร์ด, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.2 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว, จอทัชสกรีนใต้จอกลางขนาด 8.8 นิ้วสำหรับควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ระบบปรับอากาศ และชุดซาวด์ซิสเต็มของ Sonus Faber กำลังขับ 1,195 วัทท์ พร้อมชุดลำโพง 16 ตำแหน่ง

● ชุดระบบเชื่อมต่อภายใต้โปรแกรม Maserati Connect เหมือนกับรุ่น GranTurismo ตัวระบบทำงานร่วมกับชุดระบบมัลติมีเดีย MIA หรือ Maserati Intelligent Assistant ซึ่งใช้พื้นฐานของ Android Automotive รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto, Apple CarPlay หรือ Baidu CarLife และรองรับการใช้งานผู้ช่วยเสมือน Amazon Alexa และ Google Assistant

● ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว หมุนล้อแบบ All-wheel drive ส่งกำลังด้วยเกียร์ ซิงเกิล สปีด กำลังสูงสุดผลิตได้ 761 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 137.5 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอเอิน เทคโนโลยี 800 โวลท์ ความจุ 92.5 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 445 กม. (รุ่น GranTurismo ประมาณ 450 กม.) ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป

● โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมดระหว่าง Max Range, GT, Sport หรือ Corsa และแน่นอนว่าผู้ขับยังคงสามารถเลือกเสียงกระหึ่มที่เร้าใจได้จากระบบเสียงสังเคราะห์เลียนเสียงของเครื่องยนต์ V8

● นอกจากนี้ ชุดระบบควบคุมการทรงตัว Vehicle Dynamic Control Module (VDCM) ยังมีออปชั่นซึ่งสามารถเลือกปรับค่าได้หลายรูปแบบ เพื่อให้การตอบสนองตัวรถเหมาะสมกับการขับของแต่ละบุคคล โดย ระบบ Traction Control สำหรับป้องกันล้อหมุนฟรีจะสามารถเลือกได้ 3 ระดับ และระบบ Torque Vectoring สำหรับกระจายแรงบิดก็สามารถเลือกได้ 3 ระดับเช่นกัน

● ชุดระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมีอาทิ ระบบ Maserati Active Driving Assist ผสานการทำงานระหว่างระบบ Active Lane Assist รักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping ควบคุมรถให้อยู่ในเลนแบบแอคทีฟขณะฉุกเฉิน พร้อมปกป้องด้วยการป้องกันการหักเลี้ยวแบบกระทันหันเมื่อเกิดการชน

● ต่อด้วยระบบ Dynamic Road View แสดงผลภาพรถรอบๆ คันแบบ 3 มิติขณะขับบนมาตรวัดดิจิทัล, ระบบ Surround View Camera 2D แสดงผลภาพมุมสูงรอบคัน 360° แบบ 2 มิติ, ระบบ Virtual Wall แสดงภาพสิ่งกีดขวางทางด้านหลังเป็นรูปบล็อค ซึ่งจะเปลี่ยนสีไปตามระยะห่างของรถและสิ่งขีดขวาง, ระบบ Rear Emergency Braking ช่วยเบรคอัตโนมัติขณะถอย

● ปิดท้ายด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก HomeLink® ซึ่งสามารถพ่วงกับประตูโรงจอดรถ, ประตูรั้วระบบไฟฟ้า หรือระบบไฟส่องสว่างต่างๆ ได้ตามต้องการ

● มาเซราติยังไม่ระบุราคาจำหน่าย GranCabrio Folgore ในเวลานี้ ทว่าเว็บไซท์ต่างประเทศหลายแห่งคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 210,000 ยูโร หรือราวๆ 8.3 ล้านบาท แฟนๆ ในบ้านเราที่สนใจรอลุ้นราคากันได้ครับ มาเซราติ ประเทศไทย น่าจะนำเข้ามาตามปกติ ●