2024 Isuzu MU-X ปรับโฉม พร้อมเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่เกรด RS

759views

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

● อีซูซุ ประเทศไทย เปิดตัวรถ SUV ขนาดกลาง Isuzu MU-X รุ่นปรับโฉมพร้อมแนะนำรุ่นย่อยเกรดใหม่ MU-X RS เป็นครั้งแรก ตัวรถยังคงอยู่ในวงจรชีวิตของ MU-X เจนเนอเรชั่น 2 ซึ่งเริ่มทำตลาดในบ้านเราตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 เบื้องต้น MU-X ใหม่จะทำตลาดภายใต้สโลกแกน “MU-X The Next Peak” การเปิดตัวอย่างเป็นทางการมีขึ้นที่ Plenary Hall ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

● มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคเลือกซื้อรถโดยพิจารณาจากอรรถประโยชน์ของรถที่สามารถตอบสนอง ไลฟ์สไตล์และการใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงทำให้รถอเนกประสงค์เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกด้าน ตลอดจนความสะดวกสบาย เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ที่มากกว่า อีซูซุจึงขอแนะนำ MU-X “The Next Peak” โดยมีเป้าหมายให้ MU-X เป็นรถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในคลาส ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่าในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ MU-X รุ่น RS ที่ออกแบบพลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น”

● “MU-X รุ่น RS มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน ผ่านเส้นสายที่มีความ Dynamic สปอร์ต หรูหรา กับสีใหม่ เทา Eiger Gray Opaque พร้อมอัพเกรดระบบความปลอดภัยที่เหนือไปอีกขั้นกับ ADAS Generation ล่าสุด ด้วยราคาคุ้มค่าเงิน ตั้งแต่ 1,184,000 – 1,771,000 บาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา อีซูซุสามารถสร้างยอดขายที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า MU-X “The Next Peak” รุ่นใหม่นี้จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน และสามารถครองใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี”

Isuzu MU-X RS

● รุ่นย่อย MU-X RS ใหม่ ตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยกระจังหน้า Black Diamond Grille, ตราสัญลักษณ์ RS วัสดุ Black Chrome, ไฟหน้าใหม่ Dynamic Blade, ไฟท้ายใหม่เพิ่มเส้น Embrace Line, กันชนหน้าใหม่แบบ Fighter Jet พร้อม Air Curtain, ล้ออัลลอยลายใหม่แบบ RS Design ขนาด 20 นิ้ว เสริมความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ, Side Garnish พร้อมตราสัญลักษณ์ RS และสีใหม่ Eiger Gray Opaque ตัดหลังคาดำ Black Roof

● ห้องโดยสารตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยโทนสีดำ, คอนโซลสีดำตกแต่งด้วย Matte Silver, เบาะสีดำพร้อมตราสัญลักษณ์ RS เดินด้ายด้วยสี Lime Green, ไฟ Red Ambient Light สร้างบรรยากาศ อุปกรณ์มาตรฐานมีพวงมาลัยไฟฟ้า EPS, มาตรวัด Integrated MID รุ่นใหม่ขนาด 7 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาทโฟนผ่าน Android Auto แบบไร้สาย และ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมฟังก์ชั่น Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับจอ Integrated MID แสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน, ระบบแสดงองศามุมปีนไต่, มุมลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ฯลฯ

● นอกจากนี้ยังมีกล้องรอบคัน 360° Surround View Camera แสดงผลแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ, ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate with Step Sensor พร้อมฟังก์ชั่น Jam Protection หยุดอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวาง, เลย์เอาท์เบาะแบบ 7 ที่นั่ง, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับปรับ 8 ทิศทาง เบาะตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท และฟังก์ชั่นเข้า/ออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

● ชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS หรือ Advanced Driver Assistance System มากับกล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน… ตัวระบบเพิ่มเติมใหม่มี 5 ระบบ ประกอบด้วย ระบบ Lane Keep Assist System ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนแบบฉุกเฉิน, ระบบ Traffic Jam Assist ช่วยเบรคและเร่งความเร็วขณะขับท่ามกลางการจราจรติดขัด หรือตามรถคันหน้า, ระบบ Lane Departure Prevention ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน หร้อมฟังก์ชั่น Lane Departure Warning แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบ (Rear Cross Traffic Brake ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย พร้อมฟังก์ชั่น Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนขณะถอย

● ระบบความปลอดภัยอื่นๆ มีระบบ Automatic High Beam ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Full Speed Range Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO, ระบบ Manual Speed Limiter ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุด, ระบบ Blind Spot Monitoring แจ้งเตือนจุดอับสายตา, ระบบ Forward Collision Warning แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า, ระบบ Autonomous Emergency Braking ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบ Multi-Collision Brake ช่วยเบรคอัตโนมัติหลังเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการชนซ้ำ

● ระบบ Turn Assist with Autonomous Emergency Braking ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา, ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Hill Descent Control ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบ Trailer Sway Control ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย, ระบบ Pedal Misapplication Mitigation ช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด, ระบบ Brake Override System ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรค และ Parking Aid System เซ็นเซอร์ช่วยจอด

● นอกจากนี้ยังมีชุดระบบ Professional 4WD สำหรับลุยเส้นทางออฟ-โรด ประกอบด้วย ระบบ Terrain Command สามารถเลือกโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อแบบ Shift-on-the-Fly ได้ตามต้องการ, ระบบ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรคให้เหมาะสม สามารถใช้งานได้ทั้งโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อ

● Isuzu MU-X RS ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power มาตรฐาน Euro 5 ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ระหว่างรุ่นขับหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม.

Isuzu MU-X Ultimate

● ส่วน Isuzu MU-X Ultimate ตกแต่งแบบหรูด้วยกระจังหน้าใหม่แบบ Dynamic Grille วัสดุสีดำ Titanium Carbide, ไฟหน้า Dynamic Blade, ไฟท้าย Embrace Line และล้ออัลลอยลายใหม่แบบ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านแม็กแบบ 3D

● ห้องโดยสารยังคงตกแต่งด้วยธีมหรู โทนสี Truffle Brown – Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น, เบาะสี Truffle Brown พร้อมวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน, คอนโซลใหม่สี Truffle Brown เสริมความพรีเมียมด้วยวัสดุ Piano Black – Satin Silver และไฟสร้างบรรยากาศ White Ambient Light

● รุ่นเครื่องยนต์มีทั้งดีเซล 4 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power มาตรฐาน Euro 5 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. และรุ่น 4 สูบ ความจุ 1.9 ลิตร Ddi Blue Power มาตรฐาน Euro 5 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม.

Isuzu MU-X Elegant

● Isuzu MU-X Elegant มากับกระจังหน้าใหม่แบบ Dynamic Grille วัสดุสีดำ Titanium Carbide, ไฟหน้า Dynamic Blade, ไฟท้าย Embrace Line, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารติดตั้งเบาะหนังสังเคราะห์ Coolmax สี Truffle Brown เครื่องยนต์เลือกได้ทั้งรุ่น 3.0 Ddi Blue Power Euro 5 และ 1.9 Ddi Blue Power Euro 5 พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ

Isuzu MU-X Active

● ปิดท้ายด้วยรุ่นมาตรฐาน Isuzu MU-X Active กระจังหน้าใหม่แบบ Dynamic Grille วัสดุสีดำ Dark Gray, ไฟหน้า Dynamic Blade, ไฟท้าย Embrace Line และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนห้องโดยสารใช้เบาะผ้าสีดำ รุ่นเครื่องยนต์มีทางเลือกเดียว คือ 1.9 Ddi Blue Power Euro 5 พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ

ราคาจำหน่าย

● นอกจาก 2 สีใหม่ Eiger Gray Opaque แล้ว MU-X ยังสีมาตรฐานอีก 5 สี (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ประกอบด้วยสีขาวมุก Dolomite White Pearl, สีแดง Etna Mica, สีดำ Bavarian Black Mica, สีเงิน Iceberg Silver Mica และสีเงิน Bohemian Silver Metallic

3.0 RS 4WD สีขาวมุก 1,771,000 บาท
3.0 RS 4WD สีเมทาลิค 1,759,000 บาท
3.0 RS สีขาวมุก 1,671,000 บาท
3.0 RS สีเมทาลิค 1,659,000 บาท
3.0 Ultimate สีขาวมุก 1,601,000 บาท
3.0 Ultimate สีเมทาลิค 1,589,000 บาท
1.9 Ultimate สีขาวมุก 1,556,000 บาท
1.9 Ultimate สีเมทาลิค 1,544,000 บาท
3.0 Elegant สีขาวมุก 1,476,000 บาท
3.0 Elegant สีเมทาลิค 1,464,000 บาท
1.9 Elegant สีขาวมุก 1,431,000 บาท
1.9 Elegant สีเมทาลิค 1,419,000 บาท
1.9 Active สีขาวมุก 1,196,000 บาท
1.9 Active สีเมทาลิค 1,184,000 บาท

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.isuzu-tis.com หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/isuzumuxthailand หรือแอด LINE Official : Isuzu Thailand หรืออินสตาแกรม : instagram.com/isuzuthailandofficial หรือติ๊กต่อก : tiktok.com/@isuzuthailandofficial หรืออี-เมล : [email protected] หรือติดต่อ Isuzu Hotline โทร. 02-118-0777 ●