MC20 Icona และ Leggenda รุ่นพิเศษฉลอง 20 ปี MC12

76views

motortrivia

● มาเซราติ เผยโฉมรถสปอร์ต 2 รุ่นพิเศษ Maserati MC20 Icona (ไอคอนา) และ Maserati MC20 Leggenda (เลจเจนดา) เพื่อฉลองครบ 20 ปี ของการคืนสู่สนามแข่งรถระดับโลกของค่ายตรีศูลในปี 2004 หลังจากห่างหายไปนานถึง 37 ปีโดย Maserati MC12 หนึ่งในรถสปอร์ตระดับตำนานของแบรนด์มาเซราติ

● Maserati MC12 เปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชั่นรถถนนปกติ ก่อนสร้างตำนานบนสนามแข่งในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการแข่ง GT Championship อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตรถซูเปอร์สปอร์ต Maserati MC20 (หมายถึง Maserati Corse + 2020) ที่ได้รับการผลิตขึ้นในอิตาลี 100% และเป็นเสมือนตัวแทนแห่งการเริ่มต้นของมาเซราติยุคใหม่ในช่วงปี 2020 จากการเป็นรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ตระกูล Nettuno

● MC20 ทั้ง 2 รุ่นพิเศษนี้ จะผลิตแบบจำกัดจำนวนเพียงรุ่นละ 20 คันเท่านั้น ตัวรถมาพร้อมสีตัวถังและการตกแต่งด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่ดูคล้ายคลึงกับ Maserati MC12 Stradale (สตราดาเล่) และ Maserati MC12 GT1 Vitaphone (ไวทาโฟน) ตามลำดับ

Maserati MC20 Leggenda

● สีสันของ MC20 Icona ชวนให้ระลึกถึงหนึ่งในสุดยอดรถในระดับตำนานของมาเซราติ นั่นคือ Maserati MC12 Stradale ที่เปิดตัวช่วงปี 2004 รวมถึง Maserati Trofeo Light (โทรเฟโอ ไลท์) ตัวแข่งรายการเอนดูรานซ์ 24 Hours of Daytona ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Maserati Birdcage Type 61 (เบิร์ดเคจ ไทป์ 61) ที่ผลิตขึ้นระหว่างช่วงปี 1959 – 1961

● Maserati MC20 Icona ได้รับการตกแต่งเป็นพิเศษแบบเฉพาะรุ่นภายใต้โปรแกรม Fuoriserie Personalization Program (ฟูออริเซรี) เริ่มด้วยพื้นตัวถังสีขาว Bianco Audace Matte ตัดกับสีฟ้า Blu Stradale ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ตรีศูลของ Maserati Fuoriserie สีขาว Bianco Audace บริเวณตัวถังด้านล่างใกล้กับล้อหลัง และมีลวดลายธงชาติอิตาลีบริเวณประตูใต้ตัวอักษร MC20

● ล้ออัลลอยลายตรีศูล ผ่านกระบวนการชุบโครเมียม มาพร้อมฝาครอบดุมล้อสีเงิน ตัดกับโลโก้ตรีศูลสีน้ำเงิน, คาลิเปอร์เบรคพ่นสีน้ำเงิน และกระจกมองข้างพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ ปิดท้ายด้วยฝาครอบเครื่องยนต์ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีเพลทโลหะที่ระบุรุ่นรถระหว่าง Icona. UNA DI 20 หรือ Leggenda. UNA DI 20

Maserati MC20 Icona

● ส่วน Maserati MC20 Leggenda มากับตัวถังสีดำ Nero Essenza ตัดกับฝาประโปรงหน้าและหลังคาสีเขียว Mint Matte แรงบันดาลใจจาก Maserati MC12 GT1 ตัวแข่งของทีม Vitaphone Racing เจ้าของแชมป์ 3 สมัยในรายการเอนดูรานซ์สุดคลาสสิคอย่าง 24 Hours of Spa และรองอันดับ 2 อีก 2 สมัย

● แน่นอนว่า MC20 Leggenda ก็ได้รับการตกแต่งพิเศษภายใต้โปรแกรม Fuoriserie Personalization เช่นกัน อุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วย ล้ออัลลอยลายตรีศูลพ่นสีดำ Nero Lucido, ฝาครอบดุมล้อสีดำ Nero Opaco ตัดด้วยสีเขียว Trident Digital Mint พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์ตรีศูลสีเหลืองบริเวณกระจังหน้า, ประตู และเสา C ขณะที่คาลิเปอร์เบรคพ่นสีดำ

● ห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น ผ่านการตกแต่งพิเศษภายใต้โปรแกรม Fuoriserie Personalization ให้มีภาพลักษณ์ที่ดุดันสไตล์รถแข่ง อุปกรณ์มาตรฐานมี เบาะทรงบัคเก็ทน้ำหนักเบา ปรับได้ 4 ทิศทาง บริเวณกลางเบาะเป็นสีน้ำเงิน Nero/Blu บนพื้นสีเงินในรุ่น Icona และสีดำ Nero บนพื้นสีเงินในรุ่น Leggenda พร้อมปักสัญลักษณ์ตรีศูลบนพนักพิงศีรษะและคำว่า Icona หรือ Leggenda สำหรับรถแต่ละรุ่น

Maserati MC20 Icona

● นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการตกแต่งห้องโดยสารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดระบบเสียงพิเศษจาก Sonus Faber, เฟืองท้ายลิมิเต็ด สลิป ควบคุมด้วยอิเลคทรอนิคส์ (E-LSD), ระบบยกช่วงล่างด้านหน้าอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา และขณะถอยหลัง (Blind spot และ Rear cross path system) รวมไปถึงชุดพรมปูพื้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบเฉพาะรุ่น

● MC20 Icona และ MC20 Leggenda ได้ร่วมฉลอง 20 ปียุคทองในสนามแข่งของค่ายตรีศูลที่มี Maserati MC12 GT1 เป็นผู้บุกเบิกระหว่างปี 2004 – 2010 ซึ่งมาเซราติสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 27 ครั้ง ในการแข่งขันรายการ FIA GT Championship รวมทั้งได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ 24 Hours of Spa ถึง 3 ครั้ง พร้อมคว้าชัยชนะ 6 ครั้งในการแข่งขันแบบทีมภายใต้ฝีมือการขับของทีม Vitaphone Racing และยังเก็บชัยชนะประเภทนักแข่งอีก 5 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการแข่งขัน FIA GT Championship อีก 2 ครั้ง และยังได้รับรางวัลประเภททีมผู้ผลิตอีก 2 รางวัลด้วย

● ในช่วงปี 2004 Maserati MC12 Stradale ได้จุดประกายในการแข่งขันให้กับมาเซราติอีกครั้ง ด้วยยนตรกรรมที่ออกแบบโดย Giorgetto Giugiaro (จิออเจตโต จิวจิอาโร) ตัวรถติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V12 ซึ่งพัฒนาจากเครื่องยนต์ของเฟอร์รารี่… แน่นอนว่ารหัส MC นั้นมาจากคำว่า Maserati Corse ส่วนหมายเลข 12 ก็มาจากเครื่องยนต์ 12 สูบนั่นเอง รถรุ่นนี้นับเป็นรถที่เร็วที่สุดในประวัติศาสของมาเซราติ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผลิตจำกัดจำนวนเพียง 50 คันเท่านั้น

● สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆ ของมาเซราติในประเทศไทย เชิญได้ที่โชว์รูมสุขุมวิท 26 โทร. 02-663-2233 หรือโชว์รูมสยามพารากอน โทร. 02-610-9441 หรือโชว์รูมไอคอนสยาม โทร. 02-117-4666 หรือเว็บไซต์: Thailand.Maserati.com หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : Maserati Thailand ●