December 30, 2021
Motortrivia Team (10223 articles)

Lamborghini ‘The Fighting Bull’ ทำไมต้องโลโก้วัวกระทิง?

เรื่อง : Panda Trueno

●   จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ไม่ค่อยเมคเซนส์เท่าไร ถ้าพวกเขาใช้ม้าเป็นโลโก้เหมือนกับเฟอร์รารี่ (Prancing Horse) หรือปอร์เช่ ก็น่าจะสื่อให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์รถสปอร์ตพลังแรงที่มีฝีเท้าจัดจ้านได้ชัดเจนกว่าวัวกระทิงที่วิ่งบุกตะลุยไล่ขวิดมาธาดอร์เป็นงานหลัก หรือถ้ายังดื้อจะเอาเรื่องนี้เป็นหลักในการออกแบบโลโก้ ทำไมไม่ใช้มาธาดอร์? เพราะหลายครั้งที่ดาบหลุดมือ นักสู้วัวกระทิงดูจะวิ่งหนีเร็วกว่าเจ้าวัวที่วิ่งไล่หลายเท่านัก

●   “สงสัยเพราะผลิตรถไถมาก่อน ก็เลยอยากโชว์ความอึด” ความเห็นหนึ่งแว่วมา… อืมม์ มีเหตุผลเหมือนกันแฮะ เพราะก่อนที่จะเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อก้องโลก แลมบอร์กินีเคยผลิตรถไถสำหรับใช้ในงานเกษตรมาก่อน และตั้งบริษัทในชื่อ Lamborghini Trattori S.p.A. มาแล้ว

●   และตรงนี้ก็เป็นประวัติที่แลมบอร์กินีถูกคู่กัดอย่าง เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ (Enzo Anselmo Ferrari) นำมาแขวะอยู่เสมอ

Ferruccio Lamborghini

●   เอาเถิด… เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดโลโก้กระทิงเปลี่ยวแห่ง Sant’ Agata เมืองโบโลญญ่า บ้านเกิดของแลมบอร์กินีคือ เฟอร์รุชชิโอ แลมบอร์กินี (Ferruccio Lamborghini) ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งเกิดในวันที่ 28 เมษายน 1916 อยู่ในราศี Taurus หรือวัวกระทิงพอดิบพอดี เขาก็เลยชื่นชอบอะไรที่เกี่ยวกับวัวกระทิง รวมถึงกีฬาสู้วัวกระทิงนั่นเอง

●   นั่นคือเหตุผลที่แท้จริงสำหรับคำตอบที่ว่า ทำไมชื่อรถสปอร์ตของแลมบอร์กินีส่วนใหญ่จะต้องเป็นชื่อวัว หรือไม่ก็อุปกรณ์ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการสู้วัวกระทิง… เหตุผลเรียบง่ายจนเหลือเชื่อเลยใช่ไหมครับ

●   ในปี 1962 แลมบอร์กินีได้เดินทางไปพบกับ เอดูอาร์โด มิอูระ (Eduardo Miura) นักผสมพันธุ์วัวฝีมือดีที่อยู่ในเมืองเซบีญ่า ประเทศสเปน ซึ่งทำให้เขาหลงใหลในเรื่องนี้มากขึ้น และตัดสินใจนำจุดนี้มาเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทผลิตรถสปอร์ตของตัวเอง โดยสปอร์ตรุ่นก่อนหน้านี้ 2 รุ่น ใช้ตัวเลขในการตั้งชื่อรุ่นก็คือ 350GTV และ 400GTV

1963 Lamborghini 350 GTV

●   และชื่อ Lamborghini Miura สปอร์ตสุดคลาสสิค ก็เป็นชื่อของ ดอน เอดูอาร์โด มิอูระ ซึ่งแลมบอร์กินีเคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำ จากนั้น ไอเซโร (Isero) สปอร์ตรุ่นต่อมา ก็เป็นชื่อวัวกระทิงของมิอูระ ที่ถูกพิชิตลงในการต่อสู้กับ Manolete ในปี 1947 หรือ เอสปาดา (Espada) และต้นแบบรุ่น เอสทอร์ค (ออกเสียง เอสโทเก้ ในแบบเสปน – Estoque) ก็เป็นชื่อของดาบยาวสำหรับใช้ในการสู้กับวัวกระทิง

●   ส่วนชื่อ จารามา (Jarama) นอกจากจะเป็นชื่อของแคว้นในสเปน ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการสู้วัวกระทิงแล้ว ยังหมายถึงสนามแข่งรถ F1 ที่สร้างขึ้นในปี 1967 ด้วย

●   อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 2 ครั้งที่แลมบอร์กินีทำลายธรรมเนียมในการตั้งชื่อรถของตัวเอง นั่นคือสปอร์ตในตำนานอย่าง คูนทัช (Countach) ในปี 1974 ซึ่งเป็นคำอุทานแสดงความโรแมนติกของคนในเมือง Piedmont ทางภาคเหนือของอิตาลี เมื่อพวกเขาได้พบกับสาวสวย ซึ่งเป็นคำที่สื่อให้เห็นถึงความน่าตื่นตาตื่นใจของคูนทัช ส่วนอีกรุ่นคือ รถ SUV รุ่น LM002 หรือ Project 112

1986 Lamborghini LM

●   หลังจากนั้นชื่อรถสปอร์ตของแลมบอร์กินีก็ไม่มีการแยกตัวออกจากเรื่อของงวัวๆ อีกเลย ไม่ว่าจะเป็น จัลปา (Jalpa) ในปี 1982 ชื่อสายพันธุ์ของวัวกระทิง ดิอาโบล (Diablo) เป็นชื่อวัวสุดดุของท่าน ดุ๊ก ออฟ เวอรากัว (Duke of Veragua) ที่สร้างตำนานการสู้วัวสุดอึดกับ El Chicorro บนสังเวียนในเมืองมาดริดเมื่อปี 1989

●   หรือชื่อ เมอซิเอลาโก้ (Murcielago) ก็เป็นชื่อวัวที่ถูกปลิดชีพโดย El Lagartijo เมื่อปี 1879 และเป็นคำในภาษาสเปนที่หมายถึง ค้างคาว, กัลญาร์โด (Gallardo) ชื่อของ 1 ใน 5 สายพันธุ์ดั้งเดิมที่ถูกแตกยอดออกมาเป็นสายพันธุ์สู้วัวกระทิงของสเปน รวมทั้ง เรเบนตัน (Reventon) ก็เป็นชื่อของวัวที่พลาดท่าพ่ายแก่นักสู้วัวรุ่นหนุ่มชาวเม็กซิกันเมื่อปี 1943

●   และนี่คือเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไมเมื่อเราคิดถึงสปอร์ตสุดดุจากปบรนด์แลมบอร์กินี เราจะต้องนึกถึงวัวกระทิงเป็นลำดับแรก ซึ่งธรรมเนียมนี้ก็ถูกยึดถือในการปฏิบัติมาจนถึงยุคปัจจุบันนั่นเอง     ●