FCA ประกาศผลิตรถไฟฟ้าไซส์คอมแพคท์หาก Tesla Model 3 ทำกำไรได้จริง
Posted by : AREA 54
● เว็บไซท์ Automotive News มีรายงานว่า Sergio Marchionne CEO ของ FCA หรือ Fiat Chrysler Automobiles ออกมาประกาศว่า ในอนาคตบริษัทฯ อาจจะพิจารณาผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดคอมแพคท์สักรุ่น เพื่อต่อสู้กับ Tesla Model 3 หากมันมีความสมเหตุสมผลในด้านธุรกิจ
● Marchionne ให้ความเห็นว่า “ผมไม่แปลกใจอะไรเลยกับตัวเลขยอดจองที่สูงลิบขนาดนั้น แต่ปัญหาคือคุณต้องทำการผลิตมันเพื่อส่งมอบให้กับพวกเขา แลัวก็ต้องทำกำไรให้บริษัทด้วยนะ”
● “ถ้าเขา (Elon Musk) สามารถแสดงให้ผมเห็นว่า รถคันนั้น (Tesla Model 3) ขายได้กำไรด้วยราคานั้น ผมก็จะทำการก๊อปปี้สูตรนั้น ใส่ดีไซน์ที่มีรสนิยมตามสไตล์อิตาเลียน แล้วจับมันลงตลาดภายใน 12 เดือน”
● หากมองในแง่ของการตลาด Marchionne ไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใด แม้ว่าความเห็นของเขาจะค่อนข้างแข็งกร้าวไปสักหน่อยก็ตามที ทว่าสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เทสล่าแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาประสบความสำเร็จกับการจำหน่ายรถไฟฟ้าราคาแพงอย่าง Tesla Model S ในตลาดสหรัฐฯ เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา และ Model 3 ก็น่าจะขึ้นแท่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอย่างแน่นอน
● อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่เทสล่าจะต้องประสบปัญหาจากการผลิตรถเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เนื่องจากยอดจอง Model 3 ในปัจจุบันพุ่งสูงไปกว่า 400,000 คันแล้ว แม้ว่าเทสล่าจะจำกัดปริมาณการจองให้ลูกค้า 1 คนจองรถได้ไม่เกิน 2 คันก็ตาม
● ยอดจอง Model 3 นั้นยังคงสูงขึ้นเป็นลำดับ และทำลายทุกสถิติเท่าที่เคยมีมา นับจากอีเวนท์เปิดตัวกับตัวเลขยอดจอง 115,000 คันภายในเวลาที่น้อยกว่า 24 ชม. และจบลงด้วยยอดจองที่สูงที่สุด 180,000 คันภายใน 24 ชม. แรกนับจากการเปิดตัว… นั่นเป็นที่มาของปัญหาที่ Marchionne ให้ความเห็นเอาไว้ และเป็นสิ่งที่เทสล่าจะต้องหาทางจัดการกับปริมาณการผลิตที่ดูแล้วไม่น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ
● ย้อนกลับมาที่เฟียต… ปี 2015 ที่ผ่านมา Fiat 500e ไม่ได้กลายเป็นรถที่อยู่นอกสายตาคู่แข่งในคลาสไฟฟ้าอีกต่อไป ในปี 2013 Fiat 500e ขายได้เพียง 645 คันจากการจำกัดพื้นที่การจำหน่าย จากนั้นในปี 2014 ยอดจำหน่าย 500e พุ่งขึ้นจากท้ายตารางมาจบที่อันดับ 10 กับตัวเลข 1,678 คัน และล่าสุดในปี 2015 ที่ผ่านมา 500e ได้ไต่ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 7 พร้อมตัวเลขยอดจำหน่าย 5,929 คัน อย่างไรก็ตาม 500e เป็นหนึ่งในรุ่นรถที่สร้างปัญหาให้กับเฟียต-ไครสเลอร์เป็นอย่างมาก จากการที่ต้องมีการ Recall รถลอทแรกทั้งหมด รวมถึงรถที่ยังจอดอยู่ในโชว์รูมด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาการสูญเสียอัตราเร่งในบางขณะ และปัญหาทางด้านกลไกของเพลาขับเสียหาย
● เห็นได้ชัดว่า FCA กลายเป็นผู้เล่นในคลาสไฟฟ้าที่ค่อนข้างระมัดระวังตัวจนกลายเป็นความล่าช้า แนวคิดนี้มีมาตั้งแต่ช่วงปี 2013 เมื่อเฟียตประกาศท่าทีอย่างชัดเจนว่า FCA จะยังไม่มีการพัฒนารถพลังไฟฟ้าหรือรถไฮบริด จนกว่าผู้ซื้อรถจะยอมจ่ายเพื่อซื้อเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน FCA ก็ยังคงอนุรักษ์แนวคิดในลักษณะนี้เอาไว้ คือ หากไม่ได้กำไรแน่ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงทุนอะไร
● เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า FCA จะช้าไปหรือไม่ สำหรับการแข่งขันทางด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า? Marchionne ให้ความเห็นสั้นๆ ว่า “ช้าก็ยังดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง” ●
