F1 Italian GP 2016 Preview : มอนซ่า รังของม้าป่าลำพอง
• สนามที่ 14 ประจำฤดูกาล 2016 ไปกันที่บ้านของม้าป่าลำพองสีแดงอย่างเฟอร์รารี กับสนามมอนซ่าอันโด่งดัง
• ออโต้โดรโม่ นาซิโอนาเล่ มอนซ่า เป็นแทร็คที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองมอนซ่า ทางเหนือของมิลาน มันถูกสร้างในปี 1922 และเป็นสนามแข่งแห่งที่ 3 ของโลกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ อิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ได้ใช้บริการสนามมอนซ่าเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดแข่งฟอร์มูล่าวัน ยกเว้นปี 1980 เพียงปีเดียวที่ย้ายไปจัดแข่งที่สนามอิโมล่า
• มอนซ่าเป็นสนามที่โดดเด่นด้วยรูปแบบความเร็วสูงและแทร็ค 2 รูปแบบในสนามเดียว มันรวมรูปแบบแทร็คอินดี้วงรีเข้ากับแทร็คแข่งขัน ซึ่งแทร็ควงรีจะมีแบงค์ขนาดใหญ่เทโค้งรองรับรถแข่งที่ทำความเร็วมาอย่างดุดัน นับเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำสนามมอนซ่าแม้ปัจจุบันจะไม่ใช้แล้วก็ตาม นอกจากนั้นมอนซ่ายังมีโค้งที่มีชื่อเสียงและท้าทายความสามารถนักแข่งอยู่เช่นกัน โดยพาราโบลิก้าเป็นโค้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
ใครมีโอกาสชนะมากที่สุด?
• มอนซ่าเป็นสนามที่นักแข่งจะต้องกดคันเร่งเต็มสูงที่สุดในบรรดาสนามทั้งหมดหรือเกือบๆ 80 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ต้องรับภาระอย่างหนักหน่วง ที่สำคัญระบบ ERS ต้องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นแรงม้าอาจหายไปดื้อๆ เหมือนอย่างที่ฮอนด้าประสบในปีที่ผ่านมา
• ถึงแม้มันจะมีแต่ทางตรงยาว แต่มอนซ่าก็มีการใช้ยางพอสมควรเช่นกันจากการที่นักแข่งต้องเบรกหนัก ปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ด้วยความที่สนามมีทางตรงยาวมากมาย ความร้อนในยางจะสลายไปเมื่ออยู่บนทางตรง ยังผลให้การเข้าโค้งยางไม่ร้อนพอที่จะยึดเกาะเต็มประสิทธิภาพ นักแข่งจำเป็นจะต้องบริหารยางให้ดีในจุดนี้
• การที่สนามมีทางตรงยาวไม่ใช่ว่าจะสามารถตัดความสำคัญของแอโรไดนามิกส์ออกไปได้เลยเสียทีเดียว กลับกลายเป็นว่าการลดดาวน์ฟอร์ซและแดรกฟอร์ซมีผลมากกับการแข่งขันที่นี่ การบาลานซ์ระหว่างการลดแดรกฟอร์ซและกำลังเครื่องยนต์บนทางตรงคือกุญแจสำคัญในการทำเวลาต่อรอบที่มอนซ่า
• สนามที่แล้ว เราเห็นเรดบูลล์ยังสามารถทำผลงานไล่บี้เฟอร์รารีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่สนามนี้จะเป็นบททดสอบที่หนักหนาที่สุดสำหรับเรดบูลล์ รถของพวกเขามีคาแร็คเตอร์สร้างดาวน์ฟอร์ซสูง ดังนั้นแดรกฟอร์ซจึงสูงตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมารวมกับกำลังเครื่องยนต์เรโนลต์ที่ยังเป็นรองเมอร์เซเดสและเฟอร์รารีอยู่ เรดบูลล์อาจจะสูญเสียอันดับ 2 ให้กับเฟอร์รารีในสนามนี้ แต่ถ้าพวกเขายังรักษาอันดับ 2 ไว้ได้ นั่นหมายความว่าแพ็คเกจแอโรของพวกเขาก็ปรับปรุงขึ้นมามากจนน่ากลัวทีเดียว ส่วนอันดับ 1 คงไม่ต้องพูดถึงกับรถที่เพอร์เฟ็คขนาดนั้น จะมีก็แต่เหตุสุดวิสัยเท่านั้นที่จะหยุดไม่ให้เมอร์เซเดสคว้าชัยชนะในสนามนี้ได้
• ที่น่าจับตาวันนี้นอกจากเรดบูลล์แล้วเห็นจะเป็นแม็คลาเรน อย่างที่เราทราบกันดีว่ากำลังเครื่องยนต์ของฮอนด้านั้นด้อยที่สุดในบรรดา 4 ค่าย ทั้งหมด แต่จากการอัพเกรดโทเค่นมาในสนามที่แล้ว ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ของพวกเขาดูจะปรับปรุงขึ้นมากทีเดียว เราคงไม่เห็นพวกเขาเป็นเป้านิ่งถูกสอยบนทางตรงในปีนี้ แต่พวกเขาจะทำได้ดีขนาดไหนยังคงเป็นคำถามที่รอทางทีมมาตอบ
บันทึกความทรงจำ
• เซบาสเตียน เวทเทล และ เฟอร์นันโด อลองโซ มีการแบทเทิลที่น่าจดจำที่นี่ในปี 2011 และ 2012 มาดูจังหวะของทั้งคู่ในแต่ละปีกันครับ •
รายละเอียดสนามเพิ่มเติม
• สนาม : ออโต้โดรโม่ นาซิโอนาเล่ มอนซ่า
• ความยาวสนามต่อรอบ : 5.793 กิโลเมตร
• จำนวนรอบการแข่งขัน : 53 รอบ
• ความจุผู้ชม : 115,000 คน
• ผู้ออกแบบ : –
• ทุนในการก่อสร้าง : –
• เปิดใช้งานครั้งแรก : ปี 1922
• จำนวนครั้งที่ถูกใช้งาน : 66
• ความเร็วสูงสุด : 362 กิโลเมตร/ชั่วโมง
• แรง G สูงสุด : 3.7
• การใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ : 76%
• ช่วงทางตรงยาวที่สุด : 1,120 เมตร (ยาวเป็นอันดับ 3 บนปฏิทิน)
• ช่วงกดคันเร่งยาวที่สุด : 1,520 เมตร
• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : สูง
• อัตราสิ้นเปลืองเบรก : สูง
• อัตราสิ้นเปลืองยาง : ปานกลาง
• ต้องการดาวน์ฟอร์ซ : ต่ำ
• โอกาสในการแซง : ปานกลาง
• จุดแซงสำคัญ : โค้ง 1
• จุดทำเวลาสำคัญ : โค้ง 11 (พาราโบลิก้า)
• ยางที่สามารถใช้ได้ : ซุปเปอร์ซอฟต์, ซอฟต์, มีเดียม
• DRS Zone : โซนแรกอยู่บนทางตรงหน้าพิทเลน 115 เมตร หลังผ่านเส้นสตาร์ท จุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 20 เมตร ก่อนโค้งสุดท้าย
• โซนที่ 2 อยู่ที่ระยะ 210 เมตร หลังผ่านโค้ง 7 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 95 เมตร ก่อนเข้าโค้ง 7
• ผู้ชนะคนล่าสุด : ลูอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลคนล่าสุด : ลูอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ชนะมากที่สุดในสนามนี้บนกริด : เซบาสเตียน เวทเทล (2008, 2011, 2013), ลูอิส แฮมิลตัน (2012, 2014, 2015)
• สถิติสนาม : รูเบน บาร์ริเคลโล่ – เฟอร์รารี – 1.21.046 – 2004
• espnf1.com.
• f1fanatic.co.uk.
• en.wikipedia.org/wiki/Autodromo_Nazionale_Monza.