Volkswagen โชว์ไอเดียการพัฒนา Power Bank สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

658views

เรื่อง : AREA 54

● ก่อนที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่นในตระกูล Volkswagen I.D. (Identity, Idea, Individual และ Intelligent) ของโฟล์คสวาเกนจะเริ่มทยอยทำตลาดในปี 2020 การขยายและเชื่อมโยงเครือข่ายสถานีชาร์จแบตเตอรี่ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ซึ่งล่าสุดโฟล์คฯ ได้โชว์ไอเดียการออกแบบ Power Bank สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับ

● โฟล์คฯ เรียกชื่อมันอย่างเรียบง่ายว่า Volkswagen mobile charging station งานออกแบบเป็นทรงแท่งเหลี่ยมสไตล์มินิมอล ตัวสถานีเคลื่อนที่นี้มีความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องภายใน 1 ชม. ถึง 360 กิโลวัทท์-ชม. ซึ่งเพียงพอกับการรีชาร์จแบตเตอรี่ให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนแบบแบตเตอรี่ (รุ่นพื้นฐานที่มีความจุแบตเตอรี่เฉลี่ย 20+ จนถึง 30+ kWh ในปัจจุบัน) ถึง 15 คัน

● จุดเด่นคือ ตัวสถานีสามารถเคลื่อนย้ายได้ การติดตั้งก็เพียงแค่นำไปจัดวางในพื้นที่ว่างๆ ที่รถยนต์สามารถเข้าจอดเทียบได้ แต่ละสถานีสามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้รถยนต์ได้พร้อมกัน 4 คัน พอร์ทชาร์จเป็นแบบ AC 2 หัว (หัวชาร์จที่จ่ายไฟแบบกระแสสลับในลักษณะเดียวกับไฟบ้าน แต่โดยพื้นฐานสามารถจ่ายไฟได้มากกว่าโดยมีตัวเลขสูงสุด 19.2 กิโลวัทท์) และ DC 2 หัว (หัวชาร์จไฟกระแสตรงแบบชาร์จเร็ว โดยพื้นฐานสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 120 กิโลวัทท์)

● อย่างไรก็ตาม โฟล์คฯ ไม่ได้ระบุปริมาณในการจ่ายไฟสูงสุดไว้ในข่าวนี้ แต่ให้ข้อมูลว่าตัวสถานียังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับกริดไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลว่ากระแสไฟที่สำรองไว้จะหมด โดยเมื่อเชื่อมต่อสถานีเข้ากับกริด ฝั่งหัวจ่าย AC จะสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 30 กิโลวัทท์

● นอกจากนี้ Mark Moller หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโฟล์คฯ ยังคาดว่า ในอนาคตสถานีชาร์จต้นแบบที่เห็นนี้น่าจะใช้งานร่วมกับแหล่งกำเนิดพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ หรือกังหันลม

● ในเบื้องต้น Volkswagen mobile charging station จะเริ่มติดตั้งเพื่อใช้งานจริงในเยอรมนีที่เมืองโวล์ฟบวร์กเป็นที่แรก ภายในไตรมาสแรกของปี 2019 นี้ โดยจะมีการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่องในเขตเมือง จากนั้นในปี 2020 จึงจะมีการขยับขยายไปยังเมืองอื่นๆ พร้อมๆ กับการเพิ่มพินหรืออัพเดทจุดติดตั้งให้ผู้ขับสามารถเช็คได้จากแอพฯ บนสมาร์ทโฟน ส่วนการผลิตในเชิงปริมาณจะมีขึ้นภายในปี 2020 หลังพ้นช่วงทดลองใช้งานในเฟสแรก ●