2019 MG Extender ทางเลือกใหม่ในกลุ่มปิคอัพสำหรับประเทศไทย

2.1Kviews

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

● บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดศักราชใหม่ด้วยการลงลุยตลาดปิคอัพในไทย เปิดตัวปิคอัพรุ่นแรก MG Extender ภายใต้แบรนด์เอ็มจี โดยหลังจากการเปิดตัวกับสื่อในวันนี้ จะมีการเปิดตัวและจัดแสดงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการภายในงาน BIG Motor Sale 2019 ระหว่างวันที่ 16 – 25 สิงหาคม 2562 นี้ที่ไบเทค บางนา รวมทั้งที่โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศด้วย

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

● นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ผ่านมา เราทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และแนะนำผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มรถยนต์นั่งเป็นหลัก ด้วยการชูจุดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์เอ็มจี ทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบบังคับควบคุม ระบบความปลอดภัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย สำหรับการเปิดตัวรถกระบะ New MG Extender ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหม่สำหรับเรา และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีในประเทศไทย ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง”

● “เราตั้งเป้าให้ New MG Extender เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าที่กำลังมองหารถสำหรับการใช้งาน และใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว โดยจะทำตลาดในกลุ่มรถกระบะแบบตอนครึ่ง หรือ Giant Cab และแบบ 2 ตอน หรือ Double Cab ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ ด้วยขนาดมิติตัวถังขนาดใหญ่จึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกและภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย สมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร ซึ่งให้ทั้งการประหยัดน้ำมันและประหยัดค่าบำรุงรักษา นอกจากนี้ ยังให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน รวมทั้งยังเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบร8 4 ล้อ และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์เอ็มจี”

New MG Extender

● MG Extender เป็นรถที่รีแบรนด์มาจาก Maxus T60 (หรือ LDV T60 ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ของบริษัทแม่ SAIC Motor เผยโฉมเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2016 ที่งาน Guangzhou International Motor Show ตัวรถอยู่ในกลุ่มรถปิคอัพขนาดกลาง บ้านเราจะทำตลาดด้วยตัวถังตอนครึ่ง ซึ่งเอ็มจีใช้ชื่อทางการค้าว่า ‘Giant Cab’ ความยาวกระบะท้าย 1,900 มม. และแบบตัวถัง 4 ประตู Double Cab

● เทียบกับ Maxus งานออกแบบภายนอกของ MG Extender ดูเนียนตากว่าด้วยกระจังหน้าแบบรังผึ้ง ล้อมกรอบด้วยวัสดุสีโครเมียม, ชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Lights สำหรับวิ่งกลางวัน, ไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยว ปรับ-พับไฟฟ้า, ขึ้น-ลงสะดวกด้วยบันไดข้างทรงแนบลำตัว, กล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ช่วยถอยติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นย่อย Giant Cab แบบยกสูง ชุดระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่ ด้านหลังแบบแหนบซ้อน

● ห้องโดยสารมีความกว้าง เน้นการเก็บเสียงด้วยการบุฉนวนกันเสียง 9 จุด วัสดุตกแต่งเป็นแบบ Soft Touch ผิวสัมผัสนุ่ม อุปกรณ์พื้นฐานมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, จอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว, กุญแจระบบ Smart Key, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า (รุ่น Double Cab), เบาะหลังพับได้ และมีช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

● ชุดระบบ i-SMART มีให้ใช้งานแบบเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ของเอ็มจี ตัวระบบทำงานได้ในแบบเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Smart Command, สั่งการโทรออก, เปิด-ปิด หรือควบคุมระบบปรับอากาศ, หน้าต่างฝั่งคนขับ, วิทยุ, รวมถึงการค้นหาจุดสนใจในระหว่างเดินทาง

● ส่วนการควบคุมหรือสั่งงานระบบต่างๆ ผ่านจอ สามารถทำได้แบบปกติ หรือจะเลือกสั่งงานด้วยสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application พร้อมการเชื่อมต่อ Smart Connect ซึ่งผู้ขับสามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music, ค้นหาร้านอาหาร, ที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซท์ต่างๆ ได้บนหน้าจอ ปิดท้ายด้วยฟังก์ชั่นการตรวจเช็ครถ หรือ Smart Check ซึ่งตัวระบบสามารถสั่งล็อค-ปลดล็อคประตู, ตรวจสอบตำแหน่งรถ, แจ้งความผิดปกติ, แจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ, นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

● Extender ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ จ่ายเชื้อเพลิงแบบผสม คอมมอนเรล และไดเร็คอินเจ็คชั่น ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดผลิตได้ 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.2 กก.-ม. (375 นิวตัน-ม.) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ หรือธรรมดา 6 จังหวะ โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง Eco และ Power รุ่น Double Cab เลือกได้ระหว่างขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

● ชุดระบบความปลอดภัยพื้นฐานประกอบด้วย โครงสร้างตัวถัง FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ผลิตด้วยเทคโนโลยีอัดขึ้นรูปแบบ Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A และเสา B โครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel และดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ

● ส่วนชุดระบบความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกชั้นสูง Advanced Synchronized Protection System ประกอบด้วย : ระบบ Lane Departure Warning System ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Blind Spot Detection ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบ Hill Descend Control ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC

● เสริมด้วยระบบมาตรฐานในยุคปัคจุบัน ประกอบด้วย ระบบเบรค ABS พร้อมตัวตัวช่วย EBA และ EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว Stability Control System, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล Traction Control System), ระบบตรวจสอบความดันลมยาง Tire Pressure Monitor System, กุญแจนิรภัย Immobilizer, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย ทั้งหมดรวม 6 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า-หลัง และกล้องมองหลังสำหรับช่วยถอย

ราคาจำหน่าย

● MG Extender จะเริ่มจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป บริการหลังการขาย Passion Service มีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง, จัดส่งอะไหล่ภายใน 1 วันทำการ, บริการรถสำรองระหว่างซ่อม นอกจากนี้เอ็มจียังระบุว่า Extender มีค่าบำรุงรักษาทั้งรุ่น 2WD และ 4WD เฉลี่ยแล้วน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน คือ ระยะทาง 100,000 กิโลเมตร คิดเป็นเงินไม่เกิน 20,000 บาท

● สีภายนอกมีให้เลือก 5 สี ประกอบด้วย สีขาว Artic White, ดำ Black Knight, เงิน Silver Metallic, แดง Scarlet Red และเทา Metal Ash Grey รุ่นย่อยมีทั้งหมด 9 รุ่น แบ่งเป็น:

MG Extender Giant Cab : กระบะตอนครึ่ง