November 26, 2019
Motortrivia Team (10203 articles)

Formula One News : อัพเดทความเคลื่อนไหว 22-11-2019

Posted by : FascinatorFJ

อัลฟ่ายังคงเก็บโจวินาซซีไว้อีกปี

●   อัลฟ่า โรเมโอ ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า อันโตนิโอ โจวินาซซี จะยังคงอยู่กับต้นสังกัดต่อไปในปี 2020 คู่กับ คิมี ไรค์โคเนน

●   โจวินาซซีนั้นมีการเริ่มต้นฤดูกาลที่ขลุกขลักอยู่พอสมควร แต่เขาปรับปรุงการขับเรื่อยมาและดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่ครึ่งหลังซีซั่น และมีผลงานที่ดีที่สุดของตัวเองเมื่อสนามที่แล้ว ซึ่งเขาจบการแข่งขันในอันดับ 5 และเมื่อไม่มีตัวเลือกจากนักขับในโปรแกรมเยาวชนของเฟอร์รารีคนอื่น เก้าอี้ของโจวินาซซีก็ยังคงปลอดภัยไปอีก 1 ปี

●   เฟรเดอลิค แวสเซอร์ : “อันโตนิโอทำได้ดีในปีนี้ และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ยืนยันว่า เขาจะยังคงอยู่กับ อัลฟ่า โรเมโอ เรซซิ่ง ต่อไปในปี 2020 แนวทางที่เขาทำงานเข้ากับทีมและปรับปรุงตัวเองตลอดในฤดูกาลแรกนั้นเป็นไปด้วยดีมาก และเราอดใจรอไม่ไหวที่จะได้ปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของเขาในการเดินทางร่วมกันครั้งนี้”

●   “อันโตนิโอได้กลายมาเป็นนักขับที่เร็ว ถึงแม้ว่าจะอยู่เคียงข้างกับมาตรฐานที่หินอย่างคิมี และเราคาดหวังว่าเขาจะพัฒนาตัวเองต่อไปเมื่อประสบการณ์ของเขามีมากขึ้น การฟีตแบ็คด้านเทคนิคของเขา การทำงาน และความคิดในเชิงบวก จะช่วยให้เราผลักดันทีมให้มุ่งต่อไปข้างหน้า”

●   การยืนยันของโจวินาซซีทำให้ดูเหมือนประตูใน F1 ได้ถูกปิดลงไปเรียบร้อยสำหรับ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก โดยถึงแม้ว่าจะมีวิลเลียมส์อีกทีมที่ยังไม่ได้ยืนยันนักขับอีกคน แต่คาดการณ์กันว่าเก้าอี้ตัวนั้นจะตกเป็นของ นิโคลาส์ ลาติฟี นักขับ F2

●   ฮูลเคนเบิร์กนั้นได้ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ในการลงแข่ง FE และ อินดี้คาร์ แต่กับ DTM นั้นดูจะเป็นตัวเลือกที่เขาเล็งเอาไว้อยู่ นอกจากนั้นเขายังได้ปฏิเสธถึงความต้องการในการเป็นนักขับทดสอบหรือนักขับสำรองอีกด้วย

●   นักขับเยอรมันได้เดินทางมาถึง F1 ด้วยความสำเร็จตุงกระเป๋าเลยทีเดียว เขาเป็นแชมป์ GP2 นับตั้งแต่ฤดูกาลรูกี้และเป็นแชมป์ A1 GP กับทีมเยอรมนี อย่างไรก็ตามนักขับวัย 32 ปี ไม่เคยได้สัมผัสค็อกพิทรถในท็อปทีมเลย และทำให้เขาทำสถิติเป็นนักขับ F1 ที่ขับมานานที่สุดโดยยังไม่เคยสัมผัสโพเดียม

พรอสต์รับตำแหน่งคณะกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารของเรโนลต์ F1

●   อแลง พรอสต์ แชมป์โลก F1 4 สมัย ชาวฝรั่งเศส ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารของเรโนลต์ F1 ประจำฐานสหราชอาณาจักรฯ

●   ก่อนหน้านี้พรอสต์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหาร ซึ่งเป็นผลพวงลูกโซ่มาจากการลาออกของ คาร์ลอส โกส์น จากคดีอื้อฉาว โดยพรอสต์นั้นเป็นทั้งทูตประจำแบรนด์และที่ปรึกษาของโปรเจ็คต์เรโนลต์ F1 อีกด้วย

●   สำหรับกรรมการภายในองค์กรคนอื่นๆ นั้นประกอบด้วย ทีมบอสและกรรมการผู้จัดการ ซีริล อะบิทบูล, ประธานบริษัท เจโรม สโตล, หัวหน้าแผนกการเงิน เทียรี โคเญต์ และ บอสใหญ่ของจีนี เจอราร์ด โลเปซ ผู้ซึ่งยังคงมีหุ้นอยู่ภายในทีมแม้จะเปลี่ยนมือจากโลตัสมาแล้ว

●   โฆษกของเรโนลต์ได้อธิบายหน้าที่ของทีมกรรมการบริหารว่า จะเป็นผู้ที่กำหนด วิสัยทัศน์ เป้าหมาย และ คุณค่า, จัดตั้งกลยุทธ์และโครงสร้าง, มอบหมายงานให้กับฝ่ายบริหาร และ รับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ควบคู่ไปกับการตัดสินใจที่สำคัญต่อบริษัท เช่น การอนุมัติงบประมาณประจำปีและบัญชีการเงิน และการอนุมัติในด้านสัญญาสำคัญกับผู้สนับสนุน, พันธมิตร และ นักขับ

●   ตำแหน่งของพรอสต์ที่รับไปนั้นเป็นตำแหน่งหน้าที่เดียวกันกับ นิกิ เลาด้า อดีตเพื่อนร่วมทีมผู้ล่วงลับของเขา ซึ่งได้เคยทำหน้าที่ในเมอร์เซเดส

ฝ่ายบัญชีเมอร์เซเดสเปิดเผยค่าใช้จ่ายปีแชมป์โลก 2018

●   ทางฝ่ายบัญชีของเมอร์เซเดสได้ออกมาเปิดเผยค่าใช้จ่ายที่พวกเขาใช้ไประหว่างปี 2018 ซึ่งตัวเลขนั้นแทบไม่แตกต่างจากปี 2017 ซึ่งเป็นปีแรกของกฎแอโรใหม่

●   รายรับของทีมที่ได้จากส่วนแบ่ง F1, สปอนเซอร์ และ บริษัทแม่อย่าง เดมเลอร์ AG นั้น เพิ่มขึ้นจาก 337.2 ล้าน ปอนด์ ในปี 2017 ไปเป็น 338.4 ล้าน ปอนด์ ในปีที่แล้ว ส่วนรายจ่ายนั้นเพิ่มขึ้นจาก 309.7 ล้าน ปอนด์ ไปเป็น 311.4 ล้าน ปอนด์ ซึ่งเป็นผลจากเงินได้หลังหักภาษี 13.3 ล้าน ปอนด์

●   จะสังเกตได้ว่าเมอร์เซเดสนั้นยังคงมีรายจ่ายอยู่ที่ระดับเดิม แม้ว่ากฎจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก นั่นแปลว่าเมอร์เซเดสยังคงไว้ซึ่งการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ได้ใส่ใจในส่วนของการจำกัดงบประมาณซึ่งมีแผนที่จะนำมาใช้ในปี 2021

●   อย่างไรก็ตามในช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมงานของเมอร์เซเดสนั้นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นจาก 849 คน ในปี 2016 เป็น 912 คน ในปี 2017 และ 968 คน ในปี 2018 โดย 38 คน ที่เพิ่มมาในปีที่แล้วนั้นจะอยู่ในส่วนของฝ่ายออกแบบ, ฝ่ายผลิต และ ฝ่ายวิศวกรรม ส่วนอีก 18 คน นั้นจะอยู่ในฝ่ายบริหาร นั่นทำให้ค่าจ้างทีมงานในปี 2018 เพิ่มขึ้น 6.5 ล้าน ปอนด์ จาก 87.2 ล้าน ปอนด์ ไปเป็น 93.7 ล้าน ปอนด์

●   ในส่วนของส่วนแบ่งรายได้ทางการตลาดของ เดมเลอร์ AG ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณทีมนั้นเพิ่มขึ้น 4 ล้าน ปอนด์ จากปีก่อนหน้ามาเป็น 64.3 ล้าน ปอนด์ ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามทางทีมจะต้องคืนเงินเป็นจำนวน 25.3 ล้าน ปอนด์ ซึ่งเป็นในส่วนของการเช่าพาวเวอร์ยูนิตจาก HPP บริษัทในเครือ นั่นทำให้เดมเลอร์มีส่วนร่วมตรงนี้เหลือ 39 ล้าน ปอนด์

●   เมื่อปีที่แล้วเมอร์เซเดสได้รับส่วนแบ่งถึง 24% ของการออกอากาศทางทีวี F1 ซึ่งเป็นมูลค่าเทียบเท่ากับการโฆษณาที่ 3,700 ล้าน เหรียญสหรัฐ สำหรับพันธมิตรทางการค้า

●   นอกจากนั้นจากความสำเร็จของทีมแข่งเมอร์เซเดสในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา นั่นทำให้มูลค่าของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มขึ้นจาก 31,900 ล้าน เหรียญสหรัฐ ในปี 2013 ไปเป็น 48,600 ล้าน เหรียญสหรัฐ ในปี 2018 ซึ่งทำให้ทางแบรนด์นั้นขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก


ที่มา :
•  www.motorsport.com.