May 20, 2020
Motortrivia Team (10196 articles)

Mitsubishi Xpander Cross ซ่อนความกว้างในเรือนร่างกะทัดรัด

เรื่อง-ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●  ทีมงานมอเตอร์ทริเวียเคยทดลองขับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นมาตรฐานมาแล้วในการจัดทดสอบแบบกลุ่ม ล่าสุดในช่วงโควิดปิดเมือง ก็มีโอกาสได้ทดลองขับเดี่ยวๆ ในรุ่น ครอส ตกแต่งรอบคันสไตล์ออฟโรด ใส่ล้อแม็ก 17 นิ้ว เพิ่มระยะต่ำสุดจาก 205 (ในรุ่น GT) เป็น 225 มิลลิเมตร เครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง เบนซิน MIVEC DOHC 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ราคา 899,000 บาท

ภายนอกลงตัวกับสไตล์ออฟโรด

●  รูปลักษณ์ของรุ่นมาตรฐานก็สวยสะดุดตาอยู่แล้ว เมื่อได้รับการตกแต่งในสไตล์ออฟโรด ก็ยิ่งสวยลงตัว ตั้งแต่กระจังหน้าลายแกร่งสีดำเงา ซุ้มล้อและกาบข้างสีดำด้าน ช่วยเน้นความแกร่งของตัวรถ ขยับขนาดล้อและยางเป็น 205/55/17 ประกบล้อแม็กลายแกร่งเข้ากับบุคลิกรถ เพิ่มแร็คบนหลังคาสำหรับยึดสิ่งของ ด้านท้ายเพิ่มการตกแต่งสไตล์ออฟโรดบริเวณกันชน ในรุ่นมาตรฐาน ขนาดล้อและยางดูเล็กไปนิดเมื่อเทียบกับตัวรถ แต่ในรุ่นครอส มีโป่งซุ้มล้อเพิ่มเติมขึ้นมา และใช้ล้อใหญ่ขึ้นอีก 1 นิ้ว ทำให้ดูลงตัวกว่าเดิม

●  มิติตัวรถมีความยาว 4,500 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร สูง 1,750 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,520/1,510 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 225 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,280 กิโลกรัม

ห้องโดยสารกว้างขวางเกินตัว

●  ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ-น้ำตาล ช่วยให้ดูไม่อับทึบเกินไป และยังคงดูแลรักษาง่าย ซึ่งเหมาะกับรถที่ใช้งานแบบเอนกประสงค์หรือแบบครอบครัว ที่มีโอกาสเปรอะเปื้อนได้ง่าย รายละเอียดไม่ต้องบรรยายกันมาก เพราะไม่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานที่เคยทดลองขับมาแล้ว จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือ พื้นที่ภายในกว้างขวาง ในขณะที่ภายนอกไม่ใหญ่เทอะทะ เบาะนั่งปรับได้หลายรูปแบบ แต่ยังคงมีความแน่นหนาแข็งแรง

●  เบาะแถว 2 น่าจะเป็นตำแหน่งที่สบายที่สุด เพราะมีช่องแอร์ให้บนเพดาน พนักพิงปรับเอนได้ และเบาะรองนั่งก็เลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ด้วย ขาดก็แต่ช่องจ่ายไฟฟ้าและที่เท้าแขน ตัวเบาะสามารถพับพร้อมกระดกไปแนบด้านหลังของพนักพิงเบาะหน้าด้วยการดึงคันโยกเพียงครั้งเดียว เพื่อเปิดทางให้ผู้โดยสารแถวหลังเข้า-ออกได้สะดวกขึ้น เบาะแถว 3 นั่งได้จริง แต่ต้องเลื่อนเบาะแถว 2 ช่วยบ้าง เมื่อพับพนักพิงเบาะแถว 2 และ 3 ราบลง ก็จะได้พื้นที่บรรทุกของน้องๆ รถกระบะ แต่ถ้าเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกัน 7 คน คงต้องใช้แร็คหลังคาในการบรรทุกสัมภาระ

●  อีกเรื่องที่น่าชื่นชมคือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ที่ทำได้ดี ใช้ความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบทั้งเสียงจากลมปะทะ เสียงยาง และเสียงเครื่องยนต์เวลาเร่งรอบสูง ที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารไม่มากนัก ถือว่าทำได้ดีเกินคาดสำหรับรถประเภทนี้และในระดับราคานี้ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานก็รองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วน แต่ไม่ถีงกับฟู่ฟ่าหรูหรา

กลางๆ ทั้งความประหยัดและความแรง

●  ขับเคลื่อนความเอนกประสงค์ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์วไอดี MIVEC ความจุ 1,499 ซีซี 77 กิโลวัตต์ หรือ 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับ E20 ถังน้ำมันจุ 45 ลิตร ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติมาตรฐาน 4 จังหวะ ไม่ใช่ CVT

●  ในช่วงรอบต่ำขับช้าๆ ในเมือง ถ้ารู้จังหวะในการกดคันเร่ง รถก็ให้การตอบสนองที่ดีกว่าที่คิด โดยไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งลึกๆ หรือลากรอบสูงแต่อย่างใด เกียร์ทำงานได้รวดเร็วราบเรียบและนุ่มนวลไม่แพ้ CVT แต่ที่สำคัญคือ ให้ความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ที่คุ้นเคย การไต่ไปถึงความเร็วกลางๆ ก็ยังทำได้ค่อนข้างทันใจสำหรับการขับคนเดียว ไม่มีผู้โดยสารหรือน้ำหนักบรรทุก จะรู้สึกว่าต้องเติมคันเร่งบ่อยๆ ก็ในช่วงความเร็วสูงหรือไต่เนินชัน ที่เมื่อลดความเร็วแล้วต้องการจะเพิ่มความเร็วขึ้นไปใหม่ จะต้องใช้คันเร่งค่อนข้างเยอะ กับจังหวะเร่งแซงฉุกเฉินที่ความเร็วช่วง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ต้องคิ๊กดาวน์ใช้อัตราทดและรอบเครื่องยนต์ในการสร้างแรงบิด จึงพอจะมีความกระฉับกระเฉงบ้าง เดินทางที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้รอบประมาณ 2,400 รอบต่อนาที ขับใช้งานในเมืองช่วงโควิด 2-3 วัน มีรถติดบ้างเล็กน้อย ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12.2 กิโลเมตรต่อลิตร

ช่วงล่างหนึบพอตัว

●  เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวโช้ก ด้านหลังคานบิดทอร์ชั่นบีม ขับเส้นทางเดียวกับที่ใช้ประจำ ทั้งบนทางด่วนและโค้งกว้างๆ ตัวรถหนึบแน่นเกินคาด ลองใช้ความเร็วในโค้งสูงเกินปกติไปบ้าง ก็ยังควบคุมได้ง่าย รถจิกเกาะไปตามโค้งได้อย่างมั่นคง พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้ามีการผ่อนแรงที่พอเหมาะ ค่อนไปทางตึงมือในแบบที่ชอบ วงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร จังหวะเข้าโค้งตัวรถหนักแน่นไปเป็นก้อนเดียวกัน ไม่รู้สึกถึงการบิดตัวหรือการถ่วงที่ด้านหลัง

●  ระยะต่ำสุดที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน 20 มิลลิเมตร (205 เป็น 225 มิลลิเมตร) น่าจะมาจากการใช้ยางขนาดใหญ่ขึ้น ลองคำนวณดูแล้วยาง 205/55/17 มีความสูงกว่ายาง 205/55/16 ในรุ่นจีที ประมาณ 25.4 มม. ตามเส้นผ่าศูนย์กลางล้อที่เพิ่มขึ้น 1 นิ้ว ความสูงที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้ตัวรถโคลงหรือยวบยาบ ยังคงมีความมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูงบนทางเรียบ และลุยทางขรุขระได้อย่างสบายใจขึ้นอีกนิด แต่คงไม่สามารถลุยทางวิบากมากๆ ได้ด้วยข้อจำกัดของระบบขับเคลื่อนและประเภทของยาง

●  ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ดูแล้วไม่ค่อยหล่อ แต่ความประพฤติดีงาม สร้างแรงเบรกได้สมน้ำสมเนื้อกับกำลังของเครื่องยนต์และขนาดของตัวรถ ให้แรงเบรกที่สัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่เหยียบแป้นเบรก ทำให้ควบคุมการเบรกได้ง่าย เบรกได้นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เบรกหนักๆ ตัวรถไม่มีอาการปัดเป๋ และมีอาการหน้าทิ่มท้ายยกไม่มากนักแม้ไม่มีผู้โดยสารแถว 2 และ 3

●  มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส แต่งออฟโรฟรอบคัน หล่อบึกบึนกว่ารุ่นมาตรฐาน ใต้ท้องสูง 225 มิลลิเมตร ลุยได้มากกว่าเก๋งแต่ยังไม่ถึงขั้นเอสยูวีแท้ๆ เด่นสุดด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง รองรับได้ 7 ที่นั่งจริงๆ เบาะแถว 2 และ 3 แยกพับได้ รองรับการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถที่ภายในกว้างขวาง แต่ภายนอกไม่ใหญ่เทอะทะ ใช้งานในเมืองได้คล่องตัว อุ่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพพร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร   ●

Test Drive : 2020 Mitsubishi Xpander Cross