July 10, 2020
Motortrivia Team (10019 articles)

Toyota Corolla Cross เปิดตัวพร้อมทดลองขับใน TDEX

เรื่อง-ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●  โตโยต้า รุกตลาดคอมแพกต์เอสยูวีครั้งใหม่ ด้วยการเปิดตัว โคโรลล่า ครอส ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย รถยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัว ห้องโดยสารด้านหลังเน้นความสะดวกสบาย อุกรณ์มมาตรฐานครบครัน ทั้งเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย หลังเสร็จสิ้นการเปิดตัว ทางโตโยต้าได้จัดเตรียม โคโรลล่า ครอส ไว้ให้สื่อมวลชนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกิจกรรมทดลองขับด้วยรถรุ่นสูงสุด Hybrid Premium Safety ภายใน Toyota Driving Experience Park

ภายนอกสุขุมสไตล์ผู้ใหญ่

●  รูปลักษณ์ภายนอกของ โคโรลล่า ครอส ออกแนวสปอร์ตหนักแน่นและดูสุขุม เส้นตัวถังหลักเน้นความโค้งมน ตกแต่งด้วยลายเส้นที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ดูปราดเปรียวลงตัวไม่เทอะทะ กับมิติตัวรถที่มีความยาว 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,825 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 161 มิลลิเมตร สูงกว่า C-HR ที่มีระยะต่ำสุด 154 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับอัลติสรุ่นสูงสุด ที่มีระยะต่ำสุด 155 มิลลิเมตร ทำให้ โคโรลล่า ครอส ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

●  ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ LED อยู่ในโคมทรงเพรียวแบบชิ้นเดียว พร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ กระจังหน้าให้อารมณ์ดุดันคล้ายออฟโรดรุ่นเดอะอย่าง โตโยต้า ทาโคม่า กันชนเป็นพลาสติกสีดำด้านสไตล์ตัวลุย ต่อเนื่องไปถึงโป่งล้อหน้าหลัง และกันชนหลัง ล้อแม็ก 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50/18 เป็นยางทางเรียบไม่ใช่ยางลุย ภารกิจหลักของรถรุ่นนี้จึงเป็นการขับบนทางเรียบ หรือทางออฟโรดเบาๆ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ในโคมแนวยาว ช่วยเสริมให้ตัวรถดูแบนกว้างมั่นคง ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Kick activated เปิดฝาท้ายจะพบกับพื้นที่จุสัมภาระขนาด 487 ลิตร

เพื่อการเดินทางอย่างผ่อนคลาย

●  ห้องโดยสารของ โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ออกแบบโดยเน้นความสะดวกสบาย และลดความเหนื่อยล้า เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ T-Connect ความคมชัดของหน้าจออยู่ในเกณฑ์ดี พึ่งพาได้เมื่อต้องการตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบคันผ่านระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic view monitor) หน้าจอสัมผัสตอบสนองรวดเร็วรองรับการสั่งงานได้อย่างไหลลื่นรวดเร็ว รับลมด้วยหลังคามูนรูฟเปิดปิดด้วยไฟฟ้า

●  เบาะหลังเป็นความตั้งใจในการออกแบบเพื่อให้นั่งสบาย พนักพิงเบาะหลังปรับความเอนได้ 2 ระดับ 6 องศา ลองนั่งดูแล้วแบบปรับตั้งก็กำลังเหมาะ ปรับเอนก็กำลังสบาย ไม่เอนมากเกินไป มีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำในตัว มีข่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ติดตั้งด้านหลังของี่เท้าแขนระหว่างเบาะหน้า พร้อมช่องจ่ายไฟฟ้าแบบ USB อีก 2 ช่อง พื้นที่กระจกประตูคู่หลังกว้างขวาง ให้ทัศนวิสัยที่ปลอดโปร่งไม่อับทึบ การเก็บเสียงที่ความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ดี ทั้งเสียงจากเครื่องยนต์ เสียงลมปะทะ และเสียงยาง สีภายในมีทั้งแบบดำล้วนและทูโทนดำ/แดง Terra Rossa ขึ้นอยู่กับสีตัวรถ

ประทับใจในความกว้างขวางนั่งสบาย

●  เครื่องยนต์ใช้ร่วมกับ C-HR และอัลติส รุ่นไฮบริดที่ทดลองขับ มีกำลังสูงสุดรวมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที การทดสอบแบ่งเป็นสถานีย่อย เริ่มด้วยสลาลมความเร็วต่ำเพื่อดูความคล่องแคล่วและทัศนวิสัย ซึ่งทำได้ดี พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าเบาแรงพอเหมาะ หมุนได้ราบเรียบต่อเนื่อง ทัศนวิสัยรอบคันที่ดี ทำให้ขับในทางแคบได้อย่างมั่นใจ

●  จากนั้นเพิ่มความเร็วเป็น 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลองระบบ LDA หรือ Lane Departure Alert เตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว พร้อมเสียงสัญญาณเตือนและดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนให้อย่างนุ่มนวลแผ่วเบา ต่อเนื่องด้วยการสลาลมความเร็วสูงระดับ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับไพลอนที่วางไว้ห่างกัน 25 เมตร เมื่อเป็นผู้ขับ ตัวรถนิ่งแทบไม่รู้สึกถึงการเหวี่ยง ควบคุมรถได้ง่ายเมื่อใช้ความเร็วตามกำหนด แต่ถ้านั่งเบาะหลังตำแหน่งกลางจะรู้สึกเหวี่ยงนิดๆ แม้คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะเบาะไม่โอบรับสรีระเท่าตำแหน่งซ้ายขวา ออกจากสลาลมเข้าสู่การหลบหลีกสิ่งกีดขวางโดยไม่เบรก รถก็ไปได้ตามคำสั่งจากพวงมาลัย ไม่มีอาการว่าจะสูญเสียการทรงตัว

●  ช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริง อาจจะเป็นจุดด้อยด้านการตลาด แต่ในการใช้งานจริงแทบไม่รู้สึกแตกต่าง ยกเว้นการขับความเร็วสูงบนพื้นต่างระดับซ้าย-ขวา ที่อาจเห็นความแตกต่างได้ชัดขึ้น โดยรวมทอร์ชั่นบีมทำงานได้ดี ทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน สำหรับรถที่เน้นการขับใช้งานแบบครอบครัว ไม่เน้นความเร็วจัดจ้าน ซึ่งทอร์ชั่นบีมก็มีข้อดีคือ ชิ้นส่วนน้อย ทนทานไม่ซับซ้อน และใช้พื้นที่ติดตั้งไม่มากนัก จึงไม่เบียดบังพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง และที่เก็บสัมภาระ

●  ตั้งลำตรง ความเร็วไหลๆ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กดคันเร่งสุดก่อนถึงจุดเบรกได้ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่งไม่อืดแต่ก็ไม่หวือหวา อยากไปเร็วต้องใช้รอบช่วย ถึงจุดเบรกแล้วกดเบรกหนักแบบเน้นๆ แต่ไม่กระทืบ ลดความเร็วลงแล้วโค้งขวาเกาะแนวรัศมีวงกลม ช่วงล่างมั่นคง พวงมาลัยหนืดมือพอเหมาะ สามารถคาพวงมาลัยไว้ในองศาที่เข้าโค้งไปได้ตลอดทาง ไม่ต้องแต่งพวงมาลัยเพิ่ม จากนั้นลดความเร็วลงเหลือ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลองความนุ่มนวลและการดูดซับแรงกระแทกเมื่อขับผ่านคอสะพานที่ทรุด และผิวถนนที่จำลองความเสียหายทั้งแบบเป็นเนินสลับเตี้ยๆ และถนนขรุขระ

●  สิ่งที่ชอบในรถรุ่นนี้คือ รูปลักษณ์ที่ให้ทั้งความสปอร์ต ดูแข็งแกร่ง และเงียบขรึมสไตล์ผู้ใหญ่ มิติตัวรถไม่ใหญ่ เมื่อเทียบกับความกว้างของห้องโดยสาร จึงขับได้คล่องและปรับตัวเข้ากับรถได้ง่าย ช่วงล่างเซตมาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการออกแบบรถ คือ นุ่มหนึบมั่นคง ตอบสนองเร็วและผ่อนคลาย

●  ชอบภายในที่กว้างขวาง โดยเฉพาะที่นั่งด้านหลัง ที่ได้รับการเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ทั้งความโปร่งสบายตาและความกว้างขวาง ทั้งพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ มาพร้อมความนุ่มนวลและเสียงรบกวนต่ำ เป็นรถที่เหมาะกับการโดยสารด้านหลังอย่างแท้จริง   ●

2020 Toyota Corolla Cross : First impression