October 23, 2020
Motortrivia Team (10199 articles)

2022 GMC Hummer EV ปิคอัพฮาร์ดคอร์พลังงานไฟฟ้าจาก GM

เรื่อง : AREA 54

●  เจนเนอรัล มอเตอร์ส ในนาม GMC หรือ General Motors Truck Company เปิดตัวปิคอัพขนาดฟูลไซส์รุ่นที่สำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของบริษัท นั่นคือ GMC Hummer EV ซึ่งนับเป็นการกลับมาอีกครั้งของ “Humvee” เวอร์ชั่นพลเรือน นับจากที่ Hummer H3 ได้ยุติสายการผลิตไปในปี 2009

●  ข้อมูลเบื้องต้นตรงกับข่าวที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า Hummer EV หรือ “HEV” พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ GM BT1 platform ซึ่งเจนเนอรัล มอเตอร์ส ออกแบบมาเพื่อใช้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเครือโดยเฉพาะ เช่น Hummer EV ใหม่ที่เราเห็นนี้, Cadillac Escalade ใหม่เวอร์ชั่นแบตเตอรี่ หรือปิคอัพไฟฟ้า Chevrolet Silverado และ GMC Sirrra เป็นต้น

●  รูปแบบตัวถังมีให้เลือก 2 แบบคือ (1) ปิคอัพ 4 ประตู และ (2) SUV ซึ่งจะเปิดตัวตามออกมาภายในช่วงปี 2021 การทำตลาดจะเริ่มด้วยรุ่นจำกัดจำนวน GMC Hummer EV Edition 1 ซึ่งทำสถิติใหม่ด้วยการเก็บยอดจองหมดเกลี้ยงภายในเวลาราวๆ 10 นาทีหลังเปิดจองเท่านั้น

●  รุ่นตัวถังปิคอัพมากับอุปกรณ์ออฟ-โรดเต็มรูปแบบ เสริมความสะดวกด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ กระจกบานหลังแบบเลื่อนไฟฟ้า และฝาคลุมกระบะแบบเลื่อนด้วยไฟฟ้า เป็นต้น ตัวรถมากับความยาวรวม 5,507 มม. กว้าง 2,202 มม. ฐานล้อหน้า-หลัง 3,444 มม. ส่วนความสูง ผู้ขับสามารถปรับระยะเคลียร์ใต้ท้องรถได้ด้วยระบบไฟฟ้าผ่านการสั่งงานในห้องโดยสาร ช่วยให้การปีนไต่ทางต่างระดับผ่านเส้นทางที่มีโขดหินปลอดภัยสูงสุด โดยช่วงล่าง Adaptive Air Suspension พร้อมโหมด Extract จะเพิ่มระยะเคลียร์ใต้ท้องรถให้อีก +6 นิ้ว

●  ด้านการใช้งานบนถนนหลวง Hummer EV จะมีชุดระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ Super Cruise semi-autonomous driving system อนุญาตให้ผู้ขับละมือจากพวงมาลัยได้ตามเส้นทางที่กำหนด เช่น ฟรีเวย์หรือไฮเวย์ที่เป็นเส้นทางแบบตายตัว ไม่มีความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพมากนัก (ไม่ใช่ถนนหนทางที่ซับซ้อนในเมือง) ตัวระบบอาศัยข้อมูลจากแผนที่ รองรับเส้นทางในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมแล้วมากกว่า 3.2 แสนกิโลเมตร

●  ห้องโดยสารมีมาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว จัดวางแบบลอยตัว วางคู่กับจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 13.4 นิ้ว จัดวางแบบลอยตัวเช่นกัน รองรับการแสดงภาพรอบทิศทางด้วยระบบ UltraVision ซึ่งสามารถแสดงภาพต่างมุมมองได้ถึง 18 รูปแบบ รวมถึงโหมดจำลอง Virtual Spotter ใต้ท้องรถ ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นอุปสรรคต่างๆ เช่นแง่หินได้ชัดเจน

●  นอกจากนี้ ระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ใน Hummer EV จะเชื่อมโยงกับข้อมูลสำคัญทุกระบบของตัวรถด้วย โดยเฉพาะฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานแบบออฟ-โรด ไม่ว่าจะเป็นมุมมองรอบคัน, แรงดันลมยางที่เหมาะสม หรือการกระจายแรงบิด เป็นต้น

●  หนึ่งในไฮไลท์ใหม่ของระบบช่วงล่างคือ ฟังก์ชั่น “CrabWalk” เมื่อผู้ขับพบอุปสรรคในลักษณะช่องทางแคบที่ไม่สามารถหักพวงมาลัยเพื่อตีวงหลบได้พ้น ชุดระบบจะปรับองศาของล้อหน้า-หลังให้หมุนไปในทิศทางเดียวกัน (สูงสุด 10 องศา) เพื่อให้รถเคลื่อนตัวได้ในแนวทแยงมุมแบบปูเดิน ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะใช้งานได้ในช่วงความเร็วต่ำเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย… ใครนึกภาพไม่ออกดูได้จากวีดิโอทางด้านล่างครับ

●  นอกจากฟังก์ชั่น CrabWalk แล้ว Hummer ยังมีระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง four-wheel steering เป็นอุปกรณ์พื้นฐานด้วย ยังผลให้ Hummer EV มีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 11.3 เมตร มากกว่ารถเล็กอย่าง Chevrolet Sonic เพียง 0.3 เมตรเท่านั้น

●  เบื้องต้นชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ AWD และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว หมุนล้อแบบ AWD โดยรุ่นแรก Edition 1 นั้นจะเป็นรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว กำลังรวมทั้งระบบ 1,014 แรงม้า (PS หรือ 1,000 HP) แรงบิดสูงสุด 1,588 กก.-ม. มากที่สุดในกลุ่มปิคอัพฟูลไซส์ ณ วันปัจจุบัน อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 3 วินาที และมีฟังก์ชั่น “Watts to Freedom” หรือระบบลอนช์ คอนโทรล ช่วยในการออกตัว

●  การเก็บประจุไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่แพคแบบลิเธียมที่ GM ออกแบบโครงสร้างใหม่ ใช้ชื่อทางการค้าว่า “Ultium battery” ซึ่งมีความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องใน 1 ชม. เท่ากับ 200 กิโลวัทท์-ชม.

●  แบตเตอรี่แพคชุดนี้ช่วยให้ Hummer EV วิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 563 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ชุดระบบชาร์จไฟรองรับกำลังไฟแรงดันสูงได้สูงสุดถึง 350 กิโลวัทท์ เฉลี่ยแล้วระยะเวลาในการชาร์จ 10 นาทีจะได้ระยะทางราว 161 กม.

4 รุ่นย่อย ต่างรุ่นปี รุ่นพื้นฐานต้องรอถึงปี 2024

●  ในเบื้องต้น ราคาจำหน่ายของรุ่นพิเศษในช่วงเปิดตัว Hummer EV Edition 1 อยู่ที่ 112,595 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.6 ล้านบาทครับ ทว่ารุ่นนี้ถูกจองไปจนหมดแล้ว ดังนั้นผู้ที่สนใจจะต้องรอไปจนถึงปีหน้า จึงจะเป็นคิวของรุ่นท๊อปเกรด 3X

●  รุ่นย่อยที่จะเปิดตัวในปีหน้าคือรุ่นท๊อป Hummer EV 3X ซึ่งใช้พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเช่นกัน กำลังสูงสุดผลิตได้ 811 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,312 กก.-ม. ระยะทางในการวิ่งมากกว่า 483 กม./ชาร์จ GMC จะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงปี 2022 ราคาจำหน่าย 99,995 ดอลลาร์ หรือราว 3.2 ล้านบาท

●  ต่อด้วย Hummer EV 2X ตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 634 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,022 กก.-ม. ระยะทางในการวิ่งประมาณ 483 กม./ชาร์จ เริ่มส่งมอบได้ในช่วงปี 2023 ราคาจำหน่าย 89,995 ดอลลาร์ หรือราว 2.9 ล้านบาท

●  ปิดท้ายด้วยรุ่นพื้นฐานในไลน์อัพ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ระยะทางในการวิ่งประมาณ 402 กม./ชาร์จ อื่นๆ ยังไม่ระบุ ตัวรถจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงปี 2024 ราคาจำหน่าย 79,995 ดอลลาร์ หรือราว 2.6 ล้านบาท ฐานการผลิตหลักอยู่ที่โรงงาน Detroit-Hamtramck Assembly รัฐมิชิแกนครับ   ●

2022 GMC Hummer EV