February 16, 2021
Motortrivia Team (10203 articles)

BMW Group ประเทศไทย เปิดตัวรถครบทุกแบรนด์รับปี 2564

motortrivia

●  บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แถลงข่าวแบบออนไลน์ เปิดตัวรถใหม่ในเครือครบทุกแบรนด์รับปี 2564 ภายในงาน 2021 BMW Thailand Annual Press Conference ประกอบด้วย BMW X7 xDrive30d M Sport รุ่นประกอบในประเทศไทยซึ่งนับเป็นครั้งแรก, BMW 330Li M Sport (BMW 3 Series Gran Sedan) รุ่นฐานล้อยาว, MINI Cooper S Countryman โฉมใหม่, MINI John Cooper Works GP Inspired Edition ตัวแรง 231 แรงม้า ปิดท้ายด้วย BMW R 18 Classic First Edition มอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์ในกลุ่มทัวริ่งรุ่นล่าสุดจาก บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

●  มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (Alexander Baraka) ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่อนาคตมาโดยตลอดในทุกระดับ และสำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา วิสัยทัศน์นี้ก็ได้นำพาเราให้ฟันฝ่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายมาได้ ไม่ว่าจะด้วยการมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ครบครันมากขึ้น หรือความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกความต้องการในโลกยานยนต์สำหรับทั้งปัจจุบันและอนาคต ด้วยทางเลือกที่หลากหลายจากแนวคิด Power of Choice”

●  “แน่นอนว่าสำหรับปี 2564 นี้ เรายังคงรุดหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความสำเร็จในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เร้าใจและสะดุดตายิ่งกว่าเดิม ทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกความต้องการ นับตั้งแต่ที่สุดของความหรูหราและความสง่างามในสไตล์สปอร์ต ไปจนถึงความตื่นตาตื่นใจจากสนามแข่งและความเพลิดเพลินจากการดื่มด่ำบรรยากาศของทุกการเดินทาง นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าต่อไป เพื่อสานต่อนวัตกรรมมากมายที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ให้ครอบคลุมหลากหลายความสนใจของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากโครงการ BMW Motorrad Tour Experience เพื่อนำเหล่าไบค์เกอร์ออกสัมผัสความสวยงามจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยในมุมมองใหม่ ๆ ตลอดทั้งปีนี้”

BMW X7 xDrive30d M Sport

●  BMW X7 xDrive30d M Sport รุ่นประกอบในประเทศ มากับกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่, ชุดไฟหน้า BMW Laserlight, ชุดแต่ง M Sport, ล้ออัลลอย BMW Individual ลาย Y-spoke แบบสลับสีขนาด 22 นิ้ว และชุดเบรค M Sport สีภายนอกเลือกได้ 5 สี ประกอบด้วย สีเทา Arctic Grey Brilliant Effect, ดำ Black Sapphire Metallic, ดำ Carbon Black Metallic, ขาว Mineral White Metallic หรือน้ำเงิน Phytonic Blue

●  ห้องโดยสารตกแต่งด้วยลายไม้สีดำเงา Fineline แบบ metal effect, ผลึกแก้ว CraftedClarity พร้อมชุดไฟ Ambient light สร้างบรรยากาศ, หลังคา Panorama glass roof Sky Lounge, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 5 โซน, จอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรุ่น Professional จำนวน 2 จอ, เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ทุกตำแหน่งปรับได้ด้วยไฟฟ้า, ตัวเบาะหุ้มหนังแท้ Merino เนื้อละเอียดจาก BMW Individual, พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายความจุ 300 ลิตร และเพิ่มได้สูงสุด 2,120 ลิตรเมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ

●  มาตรวัดฟูลดิจิทัล BMW Live Cockpit Professional, จอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบ BMW ConnectedDrive และระบบ BMW Intelligent Personal Assistant รองรับการสั่งงานด้วยเสียง

●  พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ กำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 63.1 กก.-ม. ที่ 2,000 – 2,500 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 227 กกม./ชม. ช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive พร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro และระบบไอเสีย M Sport เพิ่มเสียงกังวานของเครื่องยนต์

●  ชุดระบบอำนวยความสะดวกประกอบด้วย ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assistant Plus, ฟังก์ชั่น Reversing Assistant ช่วยถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นนี้จะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบที่ความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม. จากนั้นจะถอยออกมาตามเส้นทางเดิมโดยอัตโนมัติ ระยะทางสูงสุด 50 เมตร ซึ่งระบบจะสามารถจดจำองศาการเลี้ยวได้แม้จะจอดทิ้งไว้ข้ามคืน หรือเป็นระยะเวลาหลายวัน

●  ราคาจำหน่าย 5,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW 330Li M Sport

●  BMW 3 Series Gran Sedan กับครั้งแรกของรุ่นฐานล้อยาวในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายด้วยรุ่น 330Li M Sport ใหม่ ตัวรถมากับฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นพื้นฐาน 110 มม. ความยาวรวมเพิ่มเป็น 4,819 มม. ความกว้างเท่าเดิม 1,827 มม. ความสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1,441 มม. ทั้งนี้ความยาวที่เพิ่มขึ้นบริเวณประตูหลัง จะช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังเข้า-ออกรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่ห้องโดยสารด้านจะเพิ่มขึ้น 43 มม.

●  อุปกรณ์มาตรฐานมี กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ ล้อมด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว, ชุดไฟหน้า LED, กรอบหน้าต่างแบบไร้ขอบ Hofmeister Kink ออกแบบเป็นหนึ่งเดียวกับเสา C, กรอบไฟท้ายใหม่พร้อมไฟท้าย LED ทรง L และท่อไอเสียแบบคู่, ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี

●  ห้องโดยสารมีจอ Head-up display, ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0, ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant และ Live Cockpit Professional, ระบบ BMW ConnectedDrive, จอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับฟังก์ชั่น BMW Gesture Control สั่งการด้วยท่าทาง, ระบบสั่งงานด้วยเสียง, พวงมาลัย M Sport, คอนโซลด้านบนบุหนัง Sensatec ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon สะดวกด้วยปุ่มควบคุม iDrive, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assistant Plus, เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง

●  เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ที่ 1,550 – 4,400 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ระบบ Driving Experience Control เลือกโหมดการขับได้ระหว่าง Comfort, Sport หรือ Eco Pro

●  ราคาจำหน่าย 2,899,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

MINI Cooper S Countryman Entry และ Hightrim

●  MINI Cooper S Countryman ใหม่ แยกจำหน่ายเป็น 2 เกรด ประกอบด้วย Entry และ Hightrim ทั้งคู่จะเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้แคมเปญ #MeAndMINI48Hours

●  ทั้งคู่มากับระจังหน้าใหม่, ครอบกันชนสีเดียวกับตัวถัง, สัญลักษณ์ S สีแดง ล้อมด้วยขอบโครเมียม, ชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟวงแหวนที่ทำหน้าที่ทั้งไฟ DRL และไฟเลี้ยว, ไฟตัดหมอก LED, กันชนท้ายใหม่พร้อมแผงใต้กันชน, ไฟท้ายแนวตั้งในกรอบโครเมียม พร้อมลวดลายธงยูเนียนแจ็ค, รุ่น Entry ใช้ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลาย Pair Spoke ส่วนรุ่น Hightrim ใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ลาย Black Pin Spoke

●  ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black, รุ่น Hightrim เพิ่ม Chrome Line สีเงิน, ชุดแต่ง MINI Excitement Package, ไฟโลโก้ MINI ฉายออกจากกระจกมองข้างลงพื้น, ฟังก์ชั่น MINI Head-Up Display, จอทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้ว, ระบบเชื่อมต่อ MINI Connected, เบาะแถว 2 ปรับ/พับได้แบบ 40 : 20 : 40, เบาะหลังแบบกว้างเต็ม 3 ที่นั่ง, พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 450 ลิตร สูงสุด 1,390 ลิตรเมื่อพับเบาะ

●  เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง เทอร์โบชาร์จ แรงดันสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 200 เป็น 350 บาร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ Steptronic 7 จังหวะ พร้อมแบบ Paddle Shift (รุ่น Hightrim) กำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. ที่ 1,350 – 4,600 รอบ/นาที

●  MINI Cooper S Countryman Entry ราคาจำหน่าย 1,999,000 บาท ส่วน MINI Cooper S Countryman Hightrim ราคาจำหน่าย 2,529,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

MINI John Cooper Works GP Inspired Edition

●  MINI JCW GP Inspired Edition รถสมรรถนะสูงรุ่นล่าสุด จำกัดจำนวนการผลิตเพียง 19 คันเท่านั้น ตัวรถตกแต่งแบบเฉพาะรุ่นโดยใช้แรงบันดาลใจจาก MINI JCW GP โดยตรง อาทิ ตัวถังสีเทา Racing Grey metallic ตัดกับหลังคา, สปอยเลอร์ท้าย และฝาครอบกระจกสีเงิน Melting Silver metallic ส่วนช่องดักอากาศบนกระโปรงหน้า, มือจับประตู และฝาถังน้ำมันสีดำ, กรอบไฟหน้าสีดำ Piano Black, กรอบด้านในไฟหน้า-ไฟท้ายสีดำ, โลโก้มินิสีดำ, ตราสัญลักษณ์ GP Inspired บนขอบประตู, ล้ออัลลอย JCW ลาย Cup Spoke ขนาด 18 นิ้ว และโลโก้ GP บนดุมล้อ

●  ห้องโดยสารมากับเบาะสปอร์ตหุ้มหนัง Dinamica ปักโลโก้ GP, ชุดพรมด้านหน้าปักโลโก้ GP เดินตะเข็บสีแดง, พวงมาลัยหุ้มหนัง Walknappa เดินตะเข็บสีแดง ตรงกลางมีชิ้นส่วนเหล็กบอกตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เช่นเดียวกับแป้นเปลี่ยนเกียร์และฝาครอบกุญแจ

●  พละกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ กำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 246 กม./ชม.

●  ใครสนใจ มินิจะเปิดให้จองแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซท์ www.mini.co.th เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ที่สั่งจองสามารถเป็นเจ้าได้ภายใน 60 วินาที พร้อมของขวัญพิเศษภายใต้กิจกรรม MINI Always-on โดยผู้ที่จองรถมินิทุกรุ่นที่ร่วมรายการ 100 คันแรกจะได้รับชุดของขวัญพิเศษจาก MINI Lifestyle Collection มูลค่า 9,287 บาท

●  ราคาจำหน่าย 3,448,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

BMW R 18 Classic First Edition

●  BMW R 18 Classic First Edition รถครูสเซอร์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมจากโรงงาน อาทิ ชุดไฟหน้า LED เสริม, กระจกบังลมขนาดใหญ่, เบาะผู้โดยสาร, กระเป๋าข้าง และล้อหน้าขนาด 16 นิ้ว ตัวรถใช้โครงสร้างเหล็กกล้า 2 ชั้น, ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ, เพลาแบบเปลือย ตกแต่งแบบเฉพาะรุ่นด้วยตัวถังสีดำ Black Storm Metallic ตัดกับลายเส้นสีขาว, ชิ้นส่วนโครเมียม, ป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม First Edition ข้างตัวถัง

●  อุปกรณ์มาตรฐานมี มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม, จอแสดงสถานะการขี่ แสดงผลเฉพาะเวลาเปิดไฟ, ไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบ Daytime Riding light และ Headlight Pro, ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า คานรับน้ำหนักกลางสามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้, ล้อหน้าดิสค์เบรคคู่, ล้อหลังดิสค์เบรคเดี่ยว, คาลิเปอร์เบรคแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และล้อแบบซี่ลวด

●  เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ความจุ 1,802 ซีซี. กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.1 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที โดยแรงบิดมากกว่า 15.2 กก.-ม. จะมีให้ใช้งานตั้งแต่ช่วง 2,000 – 4,000 รอบ/นาที โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง Rain, Roll และ Rock เสริมด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ฝาถังน้ำมันพร้อมระบบล็อค, ระบบ ASC ควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ, ระบบ MSR ป้องกันล้อหลังลื่นไถลจากการชะลอตัวหรือลดเกียร์, ระบบ Hill Start Control ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ฟังก์ชั่นสตาร์ทแบบไร้กุญแจ Keyless Ride, ฟังก์ชั่นเกียร์ถอยหลัง Reverse Gear, ระบบ Anti-hopping Clutch ป้องกันรถกระชาก และระบบ Electronic cruise control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

●  ราคาจำหน่าย 1,250,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

●  พิเศษ… กิจกรรม BMW Motorrad Tour Experience ท่องเที่ยวทั่วไทยกับโปรแกรม Discoveride โดยปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จะจัดทริปตลอดทั้งปี 2564 เจ้าของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สามารถร่วมทริปเอ็กซ์คลูซีฟทั่วไทย พร้อมประสบการณ์พิเศษในการเยี่ยมชมสายการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ณ โรงงานที่ จ. ระยอง โดยระหว่างทริป Discoveride ผู้เข้าร่วมจะได้พัฒนาทักษะการขี่ทั้งออน-โรด และออฟ-โรด โดยมีมาร์แชลระดับมืออาชีพที่ได้รับการรับรองจากบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมผู้นำเที่ยวคอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง

●  ผู้ที่สนใจสามารถเลือกเส้นทางที่ต้องการร่วมทริปได้จากทั้งหมด 10 เส้นทาง ซึ่งครอบคลุมระดับการขี่, เส้นทาง, สภาพพื้นผิว และระยะเวลาที่หลากหลาย

จุดมุ่งหมายข้อมูลทักษะการขี่
ทีลอซู4 วัน / 1,400 กม.ระดับเริ่มต้น
น่าน4 วัน / 1,200 กม.ระดับเริ่มต้น
ปาย6 วัน / 750 กม.ระดับเริ่มต้น
ดอยอ่างขาง8 วัน / 1,200 กม.ระดับเริ่มต้น
เกาะเสม็ด2 วัน / 250 กม.ระดับเริ่มต้น
เกาะพีพี2 วัน / 300 กม.ระดับเริ่มต้น
เขื่อนรัชชประภา6 วัน / 645 กม.ระดับเริ่มต้น
กาญจนบุรี3 วัน / 650 กม.ระดับเริ่มต้น
เกาะช้าง3 วัน / 600 กม.ระดับกลาง
เชียงใหม่ (ออฟโร้ด)8 วัน / 1,108 กม.ระดับกลาง

●  สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ www.bmw-motorrad.co.th หรือแอดไลน์ @bmwmotorradowners หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ facebook.com/BMWMotorradTH

สรุปการดำเนินงานของ BMW Group ประเทศไทย ในปี 2563

●  ในปี 2563 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมขึ้นมาที่ 51.2% ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวม 12,426 คัน นอกจากนี้ ส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมที่เติบโตขึ้นถึง 7.3% ยังนับเป็นสถิติอัตราการเติบโตสูงสุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ยอดการส่งมอบรถยนต์ของทั้ง 2 แบรนด์นับว่าเป็นผลงานที่แข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งมียอดขายลดลง 31% ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาระดับยอดการส่งมอบไว้ได้ที่ 1,224 คัน

●  “สถานะผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมของเรา ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความรวดเร็วของเราในการปรับตัวรับมือเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และความมุ่งมั่นทุ่มเทของเหล่าพันธมิตรในเครือข่ายผู้จำหน่ายของเรา เพื่อตอบสนองต่อทั้งความต้องการของลูกค้าและปัจจัยความเปลี่ยนแปลงจากภายนอก” มร. บารากา กล่าว

●  “เมื่อชีวิตประจำวันในหลายด้านต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะ เราจึงขยายการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้นจากปีก่อนๆ โดยรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลในสองงานใหญ่ประจำปี ทั้งบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 และมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 ควบคู่ไปกับการจัดแสดงรถยนต์หน้างานจริงและข้อเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายเช่นเคย ส่วนงาน BMW Xpo ของเราก็ได้ปรับรูปแบบให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยการจัดงานในหลายสถานที่ทั่วกรุงเทพฯ”

●  ด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ยังคงเดินหน้าเช่นเดียวกับในประเทศไทย เช่น การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE ในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถยนต์ PHEV อีกสี่รุ่นในตระกูล 3 Series, 7 Series, X3 และ X5 ขณะที่เครือข่ายสถานีชาร์จสาธารณะ ChargeNow ก็มีจำนวนหัวจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 111 หัวจ่ายใน 67 จุดบริการทั่วประเทศ

●  ด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถต้านทานแรงกดดันจากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวม รวมถึงสถานการณ์ที่พลิกผันในห่วงโซ่อุปทานของชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยยอดการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรวมกว่า 32,052 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปี 2562 แบ่งเป็นยอดการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 23,177 คัน ลดลง 10% ยอดประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 8,875 คัน เพิ่มขึ้น 43%

●  ด้านการส่งออก มีการส่งออกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 23,143 คัน เพิ่มขึ้น 24% แบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูกว่า 15,079 คัน เพิ่มขึ้น 3% มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กว่า 8,064 คัน เพิ่มขึ้น 97% นับเป็นสถิติการส่งออกที่สูงที่สุดสำหรับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ การเปิดตัว BMW X7 xDrive30d M Sport รุ่นประกอบในประเทศ ก็ทำให้โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศได้ถึง 17 รุ่น โดยรวมถึงรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด 5 รุ่น และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อีก 9 รุ่น

●  ส่วน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังคงเติบโตด้วยสถิติใหม่ในหลายด้านตลอดปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัทในปี 2564 นี้ โดยยอดสินเชื่อใหม่กว่า 16,770 ล้านบาทในปี 2563 นับเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจาก COVID-19

●  ด้วยเหตุนี้ ยอดสินเชื่อรวมในพอร์ตของบริษัทจึงทะยานสู่หลัก 50,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติใหม่อีกเช่นกัน ส่วนโปรแกรมทางการเงินอย่าง Freedom Choice ที่มอบทางเลือกและอิสรภาพสูงสุดให้กับลูกค้า มีจำนวนสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะที่ข้อเสนอในช่องทางดิจิทัลของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้ขยายตัวและเพิ่มความหลากหลายขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบของบริการค้นหารถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่สุด (Preference Finder) การสัมผัส BMW 2 Series และ 3 Series แบบเสมือนจริงผ่านระบบ Augmented Reality และการร่วมนำเสนอบริการผ่านช่องทางออนไลน์ในงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์ เอ็กซ์โป กับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 1397 หรือเว็บไซท์ (1) www.bmw.co.th, (2) www.mini.co.th หรือ (3) www.bmw-motorrad.co.th   ●

2021 BMW Thailand Annual Press Conference