September 5, 2021
Motortrivia Team (10203 articles)

Test Drive : Honda Accord ปรับโฉม เติมความคุ้มค่า

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ

●   หลังเปิดตัว แอคคอร์ด รุ่นปรับโฉมไปไม่นาน ฮอนด้าก็จัดกิจกรรมทดลองขับแบบ New Normal ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้นด้วยการตรวจหาเชื้อก่อนเป็นอันดับแรก แยกตัวเพื่อฟังผล ถ้าไม่มีเชื้อจึงรวมตัวกันได้ไม่เกิน 5 คน แบบรักษาระยะห่าง ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีการทำความสะอาดรถพร้อมฆ่าเชื้อก่อนส่งมอบรถ ลุ้นกว่าโดนแหย่จมูกเพื่อทำ Swab Test ก็คือการรอฟังผล

●   โล่งอกเมื่อไม่พบเชื้อจึงได้ขับ แอคคอร์ด ไมเนอร์เชนจ์ 2 รุ่นแบบฟรีรัน ช่วงเช้าลองตะลุยฝ่ารถติดกับรุ่นท๊อป e:HEV TECH ไฮบริด 215 แรงม้า ราคา 1.799 ล้านบาท ช่วงบ่ายลองฟิลลิ่งของระบบอัดอากาศในรุ่นสุดคุ้ม EL เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า ราคา 1.499 ล้านบาท

Honda Accord e:HEV

●   รูปลักษณ์ภายนอกและรายละเอียดของการปรับเปลี่ยน อ่านได้จาก motortrivia.com/2021/08/honda-accord-2021-lineup หลักๆ คือ การเพิ่มระบบความปลอดภัยในกลุ่ม Honda SENSING หลายรายการให้รุ่น EL แต่ปรับราคาเพิ่มแค่ 2 หมื่นกว่าบาท ทำให้มีความคุ้มค่าน่าสนใจมากขึ้น ส่วนรุ่น e:HEV ก็มีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานด้วยเช่นกัน โดยนอกจาก 2 รุ่นที่ได้ทดลองขับแล้ว ยังมีอีกรุ่นที่ทำตลาดเป็นรุ่นกลาง e:HEV EL ราคา 1.639 ล้านบาท ถูกกว่ารุ่นท๊อป 1.6 แสนบาท และแพงกว่ารุ่นเริ่มต้น 1.4 แสนบาท เป็นอีกทางเลือกของผู้ที่อยากใช้รถไฮบริด แต่ไม่อยากจ่ายแพง

Honda Accord e:HEV

e:HEV TECH จุดสมดุลของความแรงและความประหยัด

●   รุ่น e:HEV ใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive หรือ i-MMD ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผลิตกระแสไฟฟ้า 1 ตัว และหมุนล้อ 1 ตัว จ่ายไฟฟ้าให้มอเตอร์ด้วยแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฟฟ้า E-CVT กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 32 กก.-ม. กินน้ำมัน 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร คาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 97 กรัมต่อกิโลเมตร

●   ออกเดินทางก่อนกำหนดการเล็กน้อย ตั้งใจไว้ว่าจะหาทางโล่งๆ ลองขับความเร็วคงที่เพื่อดูอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบคร่าวๆ แต่ความหวังพังทลายเพราะหลงทางเข้าไปในโซนก่อสร้างรถไฟฟ้า เลยได้ลองขับฝ่ารถติดโดยไม่ตั้งใจ ลองระบบครูสคอนโทรลปรับความเร็วตามรถคันหน้าเมื่อใช้ความเร็วต่ำ ก็ทำงานได้สอดคล้องกับการขับและดูปลอดภัยดี แต่เพราะไม่ใช่รถตัวเองจึงลองแค่พอหอมปากหอมคอ ระบบอำนวยความสะดวกในการขับต่างๆ ทำงานได้นุ่มนวลตามระดับรถ ทั้งการปลดเบรกของระบบ Auto Brake Hold รวมทั้งการสตาร์ทและดับของเครื่องยนต์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติของระบบไฮบริด ก็แทบจะไร้ความสั่นสะเทือน

●   ขลุกขลักควานหาเส้นทางอยู่พักใหญ่กว่าจะเจอทางโล่ง จึงได้ลองระบบไฮบริดของแอคคอร์ดซึ่งมีจุดเด่นที่ความสนุกในการขับ สมชื่อ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive เพราะมีการตอบสนองที่ทันใจ ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะใช้เครื่องยนต์ต้นกำลังขนาด 2.0 ลิตร 145 แรงม้า แม้ไม่ใช่คนที่ขับรถเร็วยังรู้สึกว่าขับสนุก อดไม่ได้ที่จะกดคันเร่งลึกๆ ลากรอบสูงอยู่หลายครั้ง ปล่อยให้การสลับการทำงานหรือช่วยกันทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของระบบ ซึ่งก็ทำงานได้อย่างราบเรียบต่อเนื่องและนุ่มนวลไม่มีอาการสะดุด ลองกดปุ่มที่คอนโซลเกียร์เพื่อเปิดใช้โหมด EV ถ้าทุกอย่างเข้าเงื่อนไข ก็สามารถทำความเร็วได้สูงพอสมควร เท่าที่ลองขับได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากชุดมาตรวัดของทริปสั้นๆ ทำได้ 18 กิโลเมตรต่อลิตร หรูมากสำหรับรถคันใหญ่ ลักษณะการขับ และสภาพการจราจร

Honda Accord e:HEV

ได้ทั้งนั่งหลังหรือขับเอง

●   มิติตัวรถไม่ใหญ่มาก ยาว 4,894 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ปรับตัวสักพักเมื่อคุ้นรถแล้วก็ขับได้อย่างมั่นใจ การถอยหลังหรือจอดในที่แคบไม่ใช่ปัญหาเพราะรุ่นนี้มีกล้องมองรอบคันพร้อมเส้นกะระยะแบบแปรผันตามการหมุนพวงมาลัย และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ภายในตกแต่งด้วยลายไม้ดูมีความผสมผสานระหว่างความสปอร์ตกับความหรูหรา เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง มีระบบเลื่อนถอยหลังให้เมื่อดับเครื่องยนต์ ช่วยให้เข้า-ออกจากรถได้สะดวกขึ้น อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ก็ครบครัน ระหว่างการขับไม่รู้สึกว่าขาดอะไร

●   ด้วยฐานล้อที่ยาว 2,830 มิลลิเมตร เมื่อปรับเบาะผู้ขับให้ถูกต้องและพอดีกับความสูง 169 เซนติเมตรแล้ว ลองย้ายไปนั่งเบาะหลังฝั่งผู้ขับ พบว่ามีพื้นที่วางขาเหลือเฟือ ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะก็ไม่ได้บีบคับแคบ ดูจากสาธารณูปโภคด้านหลังแล้ว ก็เป็นรถที่เอาใจคนนั่งหลังอยู่ไม่น้อย ทั้งช่องแอร์ ช่องจ่ายไฟฟ้า ม่านบังแดด ที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ รถรุ่นนี้จึงเอนกประสงค์ทั้งการขับเอง มีคนขับให้นั่ง หรือเป็นรถครอบครัวขนาดเล็ก

Honda Accord EL

เติมความคุ้มค่าให้รุ่น VTEC TURBO

●   รุ่นย่อย EL เป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของแอคคอร์ดรุ่นปรับโฉมก็จริง แต่ไม่ใช่รุ่นล่างที่ขาดแคลนอุปกรณ์ เพราะเป็นรุ่นท๊อปหนึ่งเดียวของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ที่ในรุ่นปรับโฉมนี้มีความคุ้มค่ายิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานโดยเฉพาะในส่วนของระบบความปลอดภัย Honda SENSING หลายรายการ กับราคาที่ขยับเพิ่มมาแค่ 24,000 บาท แลกกับอุปกรณ์มาตรฐานและการปรับโฉมที่สดใหม่ขึ้น บอดี้หรูหรา ห้องโดยสารขนาดใหญ่ โดยส่วนตัวจึงคิดว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดของแอคคอร์ดในปัจจุบัน และเป็นอีกทางเลือกของผู้ที่อยากได้ระบบความปลอดภัย แต่ยังไม่สบายใจที่จะใช้รถไฮบริด

●   ถ้าเทียบกับรุ่นสูงสุด e:HEV TECH อุปกรณ์มาตรฐานที่ไม่มีในรุ่น EL ประกอบด้วยระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า HUD, ซันรูฟไฟฟ้า, กระจกมองข้างปรับมุมลงต่ำอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง, สปอยเลอร์หลัง, ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าที่พนักพิงเบาะผู้โดยสารข้างผู้ขับ, ระบบฟอกอากาศ Plasmacluster, เครื่องเสียงแบบพรีเมียมพร้อมซัฟวูฟเฟอร์, กล้องมองรอบทิศทางพร้อมระบบช่วยถอยจอด, ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง และกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ และเซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด พร้อมระบบเตือนเมื่อมีรถขับผ่านขณะถอยหลัง ซึ่งรายการสุดท้ายเป็นอย่างเดียวที่คิดว่าน่าจะมีในรุ่น EL นอกนั้นไม่มีก็ไม่เป็นไร

●   ส่วนอุปกรณ์หลักที่เพิ่มเติมเข้ามาในรุ่น EL ก็เช่น ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ประกอบด้วย ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชน พร้อมช่วยเบรก, ครูสคอนโทรลแบบแปรผัน และปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแลกบางระบบอย่างการรักษารถให้อยู่ในเลน กับเซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน เพราะน่าจะได้ใช้งานบ่อยกว่า แต่โดยรวมอุปกรณ์ที่ให้เพิ่มมาในรุ่นปรับโฉมกับราคาที่เพิ่มมาเล็กน้อยก็ถือว่าคุ้มค่า ส่วนอุปกรณ์ที่คิดว่าจำเป็นจริงๆ แต่ขาดหายไปเมื่อเทียบกับรุ่นท๊อปก็มีไม่กี่รายการ กับส่วนต่างของราคามากถึง 3 แสนบาท ยิ่งตอกย้ำให้รุ่น EL มีความคุ้มค่าน่าใช้มากขึ้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ขนาดกลางกึ่งใหญ่ อุปกรณ์มาตรฐานครบ

Honda Accord EL

แรงหรือประหยัดขึ้นอยู่กับเท้าขวา

●   ในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อชดเชยสมรรถนะที่ขาดหายไปจากการลดความจุของเครื่องยนต์ เป็นเรื่องที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ประสิทธิภาพ อัตราสิ้นเปลือง มลพิษ และความทนทาน รถคันใหญ่ใช้เครื่องยนต์ความจุไม่มากนักแล้วพ่วงระบบอัดอากาศ ขับดีกว่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ให้แรงม้าแรงบิดใกล้เคียกันด้วยซ้ำ และเมื่อใช้งานในเมืองที่การจราจรติดขัด เครื่องยนต์ขนาดเล็กจะประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าและปล่อยมลพิษน้อยกว่า

●   แอคคอร์ด EL ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 24.8 กก.-ม. ที่ 1,500-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

Honda Accord EL

●   แม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเล็กพ่วงเทอร์โบ วางในตัวรถขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ด้วยแรงบิดสูงสุดที่มีในรอบต่ำและช่วงกว้าง ทำให้การขับไม่ต้องลากรอบสูงก็ให้อัตราเร่งที่ดี ขับในเมืองได้อย่างราบเรียบไม่กระชาก ทางโล่งเร่งทันใจโดยไม่จำเป็นต้องลากรอบสูง ขับด้วยความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รู้สึกว่ามีกำลังสำรองเหลือเฟือ เร่งติดเท้าแม้ไม่คิ๊กดาวน์ ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับการขับเครื่องยนต์เบนซินไม่เทอร์โบระดับความจุ 2,500-3,000 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ CVT ยุคใหม่ ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ผ่านเท้าขวาได้ง่ายๆ คล้ายเกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟือง แต่ดีกว่าที่ความราบเรียบขณะเปลี่ยนเกียร์ ไม่มีช่วงรอบตก ขับครึ่งวันบ่ายแถวมอเตอร์เวย์ ไม่ค่อยเจอรถติดเท่าไร ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14 กิโลเมตรต่อลิตร

●   หลังการขับทั้ง 2 รุ่นในเวลาต่อเนื่องกัน ด้านสมรรถนะการขับ เทใจให้รุ่น e:HEV ด้วยแรงม้าแรงบิดทั้งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า มีโหมด EV ให้ขับ ช่วยลดมลพิษได้เล็กน้อยก็ยังดี อุปกรณ์มาตรฐานเกินพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า รุ่น EL ชนะแบบลอยลำ ด้วยราคาที่ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยจากรุ่นเดิม กับอุปกรณ์ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมา เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ แรงเหลือเฟือ ใช้งานได้ยาวๆ เพราะไม่มีชิ้นส่วนซับซ้อน ภายในกว้างขวางหรูหราสะดวกสบาย เป็นทางเลือกที่น่าสนใจจริงๆ     ●

ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

Test Drive : 2021 Honda Accord