July 31, 2023
Motortrivia Team (10236 articles)

Mazda 2 Hatchback XD SPORTS ขับสนุก ประหยัด ช่วงล่างดี

เรื่อง – ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

●   ทิ้งช่วงจากการปรับโฉมได้ประมาณ 1 เดือน ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ก็มีโอกาสได้ทดลองขับ มาสด้า 2 ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นย่อยแฮทช์แบ็ก 5 ประตู XD SPORTS ราคา 720,000 บาท ลองมาดูกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ส่วนเครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขึ้นชื่อเรื่องขับสนุกและประหยัด

เติมความสดให้รูปลักษณ์

●   คันที่ทางมาสด้าจัดมาให้ ภายนอกเป็นสีเทาโพลี เมทัลเกรย์ ดูไม่วัยรุ่นเกินไป ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนอยู่ที่กระจังหน้า New Wave Design มีแซมสีเหลืองสดบนกรอบกระจังสีดำเงา รุ่น XD SPORTS เป็นรุ่นเริ่มต้นของเครื่องยนต์​ดีเซล ถ้าอยากได้เซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุดด้านหน้า ต้องขยับไปรุ่น XDL SPORTS ซึ่งเป็นรุ่นท๊อป ไฟหน้าแบบ LED โคมโปรเจ็คเตอร์เลนส์รวมแสงเข้มข้น ตัดขอบชัดเจนไม่ฟุ้งกระจาย มีระบบปรับระดับอัตโนมัติ และเปิด-ปิดอัตโนมัติ ขับกลางคืนสบายตาส่วนหนึ่งอาจเพราะรถยังไม่ได้ติดฟิล์ม มาพร้อมไฟเดย์ไทม์แบบ LED ซิกเนเจอร์ กระจกหน้ามีเซ็นเซอร์สำหรับที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติและระบบ Advance Smart City Brake Support ทำงานที่ความเร็วต่ำ หยุดรถอัตโนมัติเมื่อระบบตรวจพบว่าอาจมีการชน พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน

●   ด้านข้างดูทะมัดทะแมงสไตล์สปอร์ตท้ายสั้น ล้อแม็กลายซี่ละเอียดพร้อมยาง 185/60/16 กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวในตัว ถ้าอยากได้ Blind Spot ต้องไปรุ่น XDL SPORTS ที่เปิดประตูคู่หน้ามี Keyless Entry ทั้ง 2 ฝั่ง แค่พกรีโมทคอนโทรลไว้กับตัวก็สามารถล็อก-ปลดล็อกรถได้ กันชนหลังมีเซ็นเซอร์ด้านหลัง 4 จุด ทำงานร่วมกับกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ การตกแต่งด้านหลังเป็นแนวทางเดียวกับด้านหน้า นั่นคือ การตกแต่งด้วยสีเหลืองบนคิ้วสีดำเงา ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงกลม ชุดไฟท้ายดีไซน์เดียวกับโคมไฟหน้า ที่เป็นทรงกลมและมีกรอบล้อมรอบ มีสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และเสาอากาศแบบครีบฉลาม สีเดียวกับตัวรถ

●   มิติตัวรถมีความยาว 4,080 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร ความสูงรวมเสาอากาศ 1,515 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 143 มม. วงเลี้ยวแคบสุด 4.9 เมตร

ปรับภายในเพื่อความลงตัว

●   ภายในห้องโดยสารแม้หลายจุดจะเป็นพลาสติกแข็งตามระดับราคาของรถ แต่ก็ทำพื้นผิวออกมาได้ดูดี งานประกอบก็ค่อนข้างดี คันที่ทดลองขับตกแต่งภายในด้วยไบโอพลาสติกสีขาว Pure White ที่บริเวณคอนโซลหน้า ด้านข้างของคอนโซลกลางและในช่องแอร์ โดยสีที่ใช้ตกแต่งภายในขึ้นอยู่กับสีตัวรถ พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้าน หุ้มหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง มีปุ่มฝั่งซ้ายฝั่งเดียว ควบคุมเครื่องเสียง การรับโทรศัพท์ และควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูล ก้านฝั่งขวาโล่งๆ ต้องเป็นรุ่น XDL SPORTS ถึงจะมีปุ่มครูสคอนโทรลและ Paddle Shift

●   ชุดมาตรวัดตรงกลางเป็นทรงกลม บอกความเร็วแบบเข็มอะนาล็อก ด้านล่างมีไฟเตือนระบบต่างๆ ฝั่งซ้ายเป็นมาตรวัดรอบดิจิตอล บอกตำแหน่งเกียร์และระยะทาง ส่วนฝั่งขวาเป็นจอแสดงข้อมูลการขับ อุณหภูมิภายนอก และปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง

●   จอกลางระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ใช้ควบคุมปรับแต่งระบบต่างๆ ของรถ ทั้งแสดงสถานะการทำงานของรถในขณะนั้น เลือกสื่อความบันเทิงต่างๆ การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน การปรับค่าหน้าจอ การเปิดใช้ระบบความปลอดภัย การปรับตั้งระบบเครื่องเสียง ปรับตั้งระบบต่างๆ ของรถ และตั้งค่าการแสดงผล รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบเสียบสาย USB-A ส่วนการสั่งงานหน้าจอจะใช้การสัมผัสก็ได้ หรือจะใช้ Center Commander ก็ไม่ยุ่งยาก คลำเจอปุ่มแล้วก็แค่ หมุน โยก กด ไม่ต้องละสายตาจากถนน

●   ชุดสวิตช์ควบคุมแอร์แบบหมุนและกด เข้าใจง่าย ใช้งานสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องละสายตาจากถนนเหมือนแอร์จอสัมผัส ถัดลงมาอีกนิดเป็นช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX และช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ ช่องใส่ SD Card สำหรับระบบนำทาง ซึ่งคงไม่ได้ใช้ เพราะส่วนใหญ่ใช้ Google Map ผ่านสมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว คันเกียร์ทรงเรียบๆ แต่ดูดี มีโหมด M ตำแหน่ง + / – ตรงกับการใช้งาน – ผลัก + ดึง ส่วนเบรกมือยังเป็นแบบกลไก ไม่ใช่ไฟฟ้า ขนาบข้างด้วยที่วางแก้วน้ำ และมีที่ใส่ของจุกจิกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

●   เบาะหนังสีดำและผ้าสีเทา เบาะผู้ขับปรับ 6 ทิศทาง ไม่มีเบาะไฟฟ้า ขาซิ่งเปลี่ยนเบาะได้ง่าย วัสดุดูดีทั้งส่วนที่เป็นหนังและผ้า เลือกคู่สีได้ลงตัว รอยต่อและการตัดเย็บก็ทำได้เนี๊ยบดี หลังเบาะหน้าฝั่งผู้โดยสารมีที่ใส่ของ ไว้ให้ผู้ขับเอื้อมหยิบได้ ที่แผงประตูผู้ขับ มีชุดสวิตช์คุมกระจกไฟฟ้าและการล็อกประตู ตกแต่งด้วยสีดำเงาและลายกราฟิก เบาะหลังนั่งได้สำหรับความสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ศีรษะเฉี่ยวๆ เพดาน ฝ่ามือสอดได้ พนักพิงตั้งชันไปนิดนึง ถ้าเอนอีกหน่อยจะนั่งสบายขึ้น แต่ศีรษะก็อาจโดนแดดเพราะพ้นแนวหลังคา มีจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก พนักพิงแยกพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มความจุได้ เวลาพับขึ้นกลับต้องระวังหนีบสายเข็มขัดนิรภัย

●   ที่เก็บของด้านหลังไม่ใหญ่มากนัก ใต้พื้นเป็นชุดปะยาง ไม่มียางอะไหล่ แต่ก็มีหลุมเตรียมไว้ให้ ถ้าไม่สบายใจจะหายางอะไหล่มาใส่ไว้ก็ได้

ดีเซลขับสนุกและประหยัด

●   หนึ่งในจุดเด่นของมาสด้า 2 ก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องยนต์ Skyactiv-D ที่เป็นแบบดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว 1,499 ซีซี เทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด Activematic เคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร

●   สมรรถนะการขับก็ดีเหมือนเดิม เครื่องยนต์ตอบสนองทันใจ มีแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ เร่งทันใจโดยไม่ต้องคิ๊กดาวน์ แค่กดคันเร่งลึกขึ้นนิดนหน่อยเมื่อต้องการเร่งแซง รถก็จะเพิ่มความเร็วได้อย่างทันใจและต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองหายห่วง ขับแบบไม่ปั้นตัวเลขยังเห็น 20 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเร็วๆ เร่งโหดๆ ก็ยังเห็นตัวเลข 16-17 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าใช้ความเร็วคงที่และขับไม่เร็วมาก ก็น่าจะเห็นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองตามที่ระบุไว้

●   สิ่งที่ส่งเสริมให้รถรุ่นนี้ขับสนุกก็คือ เกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟือง ซึ่งในรถราคาประมาณนี้ปัจจุบันเริ่มหายาก เพราะส่วนมากเป็น CVT เกียร์อัตโนมัติของมาสด้า มีการทำงานที่รวดเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปอยู่เล็กน้อย พอรู้สึกได้ เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างกระชับและรวดเร็ว ทั้งในโหมดเกียร์ D และโหมด Activematic

ช่วงล่างเน้นไปทางหนึบ

●   เครื่องยนต์ค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ ช่วงล่างจึงต้องเซตมาค่อนข้างหนึบเพื่อความปลอดภัย ด้านหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม รองรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างมั่นใจ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความแข็งที่ความเร็วต่ำ มาพร้อมระบบควบคุมการขับ G-Vectoring Control Plus หรือ GVC Plus ในทุกรุ่นย่อย ควบคุมแรงบิดจากเครื่องยนต์และองศาของพวงมาลัยขณะเข้าและออกจากโค้ง เพื่อให้รถเลี้ยวได้ง่าย มั่นคง และปลอดภัยขึ้น โดยรวมถือว่าเซตมาเหมาะกับรถและกลุ่มเป้าหมาย

●   พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีการตอบสนองที่ดี ไม่ถึงกับเบาหวิวควงด้วยนิ้วเดียวได้ที่ความเร็วต่ำ แต่จะรู้สึกว่ามีความสมูธราบเรียบต่อเนื่องในจังหวะหมุนและคืนพวงมาลัย ส่วนที่ความเร็วสูงรู้สึกว่าหนืดและหนักแน่น ถ้าได้ยางกว้างกว่านี้อีกนิดก็น่าจะดี มีตัวช่วยอย่าง TRC ป้องกันล้อหมุนฟรี และ DSC รักษาเสถียรภาพ ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ตัวช่วยครบทั้ง ABS, EBD และ BA แรงเบรกเหลือเฟือและสัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่เหยียบแป้นเบรก มาพร้อมระบบ ESS เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน

●   มาสด้า 2 XD SPORTS เหมาะกับคนที่สนุกกับการขับรถ เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีตั้งแต่รอบต่ำ เดินเรียบไม่สั่นสะเทือน เสียงไม่ดัง ขับแล้วแทบไม่รู้สึกว่าเป็นรถดีเซล ประหยัดน้ำมันสุดๆ เกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟืองทำงานรวดเร็วนุ่มนวล ห้องโดยสารด้านหน้ากว้างเพียงพอ ด้านหลังพอพึ่งพาอาศัยได้ ช่วงล่างหนึบแน่นค่อนไปทางสปอร์ต ราคาน่าลุ้น 720,000 บาท ถ้าพอใจกับอุปกรณ์ที่ได้ในรุ่นนี้ ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 110,000 บาทเพื่อขยับไปรุ่น XDL SPORTS         ●

ขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถทดสอบ

Test Drive : 2023 Mazda 2 Hatchback XD SPORTS