2023 BYD Seal เปิดราคาจำหน่ายในไทย เริ่มต้นที่ 1.325 ล้านบาท
motortrivia
● เรเว่ ออโตโมทีฟ (Rever Automotive) เปิดตัวพร้อมประกาศราคา BYD Seal รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ในไทย ต่อจาก BYD Atto 3 และ BYD Dolphin เบื้องต้นการจำหน่ายจะแยกเป็น 3 เกรดรุ่นย่อย ประกอบด้วย Seal Dynamic, Seal Premium และ Seal AWD Performance ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,325,000 บาท กำหนดการส่งมอบรถล็อตแรกในเดือนกันยายน 2566 จำนวน 1,782 คัน และภายในเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 2,952 คัน
● Seal เป็นรถซีดานขนาดกลาง ตัวถัง 4 ประตู ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ e-platform 3.0 ของ BYD ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มสำหรับผลิตรถแบตเตอรี่โดยเฉพาะ เทียบกับ Tesla Model 3 ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักในกลุ่ม entry-level ขนาดตัวจะใหญ่กว่าเล็กน้อย ความยาว 4,800 มม. (+106 มม.) กว้าง 1,875 มม. (+26 มม.) สูง 1,460 มม. (+17 มม.) ฐานล้อ 2,920 มม. (+45 มม.) อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่เป็นรถในกลุ่ม D-segment เช่นเดียวกัน
● อุปกรณ์มาตรฐาน (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) มีอาทิ ชุดไฟ LED รอบคัน, ฟังก์ชัน Follow Me Home หน่วงเวลาปิดไฟหน้าหลังหยุดการทำงานรถยนต์, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า, ไฟเลี้ยวหลังแบบ Sequential, ไฟตัดหมอกหลัง, มือเปิดประตูแบบ Flush Door Handle, หลังคาพาโนรามิค, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า, ล้อขนาด 18 นิ้ว จับคู่ยาง 225/50 หรือขนาด 19 นิ้ว จับคู่ยาง 235/45
● ห้องโดยสารมี ระบบ Windshield Head-Up Display (W-HUD) แสดงผลข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว, จอทัชสกรีนขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นหมุนจอในแนวตั้ง/นอนด้วยไฟฟ้า รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto แบบไร้สาย หรือ Apple CarPlay แบบเสียบสาย และระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย 2 ตำแหน่ง
● ช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone, ด้านหลังแบบ Multi-link, ช๊อคฯ หน้า/หลังแบบ Frequency Selective Damping (FSD) ปรับความหนืดอัตโนมัติตามความเร็ว หรือโหมดในการขับ, ระบบเบรคแบบดิสค์เบรค 4 ล้อ ด้านหน้าคาลิเปอร์เบนคแบบฟิกซ์, จานดิสค์แบบเจาะรูระบายความร้อน
● กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบบันทึกตําแหน่งกระจกมองข้าง พร้อมฟังก์ชั่นปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยรถ, เบาะผู้ขับปรับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ท/ดับรถ พร้อม Memory Seat จดจําตําแหน่ง, ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน, ระบบกรองอากาศ lonizer พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5, ชุดเครื่องเสียง Dynaudio พร้อมลําโพง 12 ตำแหน่ง, ชุดไฟ RGB Dynamic Mood Lights, กุญแจแบบ NFC Card และ Keyless Entry
● ระบบขับเคลื่อน รุ่นย่อย Dynamic ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว หมุนล้อคู่หลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิลสปีด กำลังสูงสุดผลิตได้ 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที แบตเตอรี่แพคแบบ Blade Battery (โดยพื้นฐานคือ ลิเธียม ไอรอน ฟอสเฟท) ความจุ 61.4 กิโลวัทท์-ชม. รองรับการชาร์จเร็ว (DC) ด้วยกำลังไฟสูงสุด 150 กิโลวัทท์ ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 510 กม. ตามมาตรฐาน NEDC เดิมของยุโรป
● รุ่นย่อย Premium ยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว หมุนล้อคู่หลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิลสปีด ทว่ากำลังสูงสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 36.6 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่แพคเพิ่มความจุเป็น 82.5 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 650 กม.
● ส่วนรุ่นท๊อป AWD Performance จะขยับไปใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive พร้อมระบบกระจายแรงบิด Intelligence Torque Adaption Control (iTAC) ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิลสปีด กำลังรวมทั้งระบบ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 68.2 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่แพคเพิ่มความจุเป็น 82.5 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 580 กม. ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี V2L หรือ Vehicle to Load สำหรับจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
● ชุดระบบความปลอดภัยมี ระบบ High Beam Assist (HMA) เปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Intelligent Cruise Control (ICC) / Adaptive Cruise Control (ACC) / Intelligent Speed Limit Control (ISLC) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนการจํากัดความเร็ว, ระบบ Traffic Sign Recognition (TSR) ช่วยจดจําป้ายสัญญาณจราจร
● ระบบ Predictive Collision Warning (PCW) และ Rear Collision Warning (RCW) ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง, ระบบ Blind Spot Detection ช่วยเตือนจุดอับสายตา, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Emergency Lane Keep Assist (ELKA) ช่วยควบคุมรถแบบฉุกเฉินให้ตัวรถอยู่ในช่องทาง, ระบบ Front Crossing Assistance (FCTA) / Forward Crossing Traffic Brake (FCTB) ช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนตัวผ่านด้านหน้า พร้อมฟังก์ชั่นช่วยเบรค, ระบบ Automatic Emergency Braking ช่วยเบรคอัตโนมัติ
● ระบบ Hill-start Hold Control (HHC) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Rear Cross Traffic Alert และ Rear Cross Traffic Brake ช่วยเตือนและเบรคเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบ Automatic Vehicle Hold (AVH) ควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ, ระบบ Driver Attention Warning (DAW) ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับมีอาการเหนื่อยล้าขณะขับ และระบบ Door Open Warning (DOW) ช่วยเตือนในขณะเปิดประตู
ราคาจำหน่าย
● นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า “BYD Seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทุกท่านรอคอย และเป็นรุ่นที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบนด์บีวายดี โดยบีวายดี ซีล ยนตกรรมไฟฟ้าสปอร์ตซีดาน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ครบครัน ความสะดวกสบาย หรูหรา ห้องโดยสารกว้างขวาง ขุมพลังที่แรงให้ผู้ขับขี่สนุกไปทุกการเดินทาง จะนำพาทุกท่านไปยังทุกการเดินทางได้อย่างผ่อนคลาย ด้วยราคาสุดพิเศษเพื่อคนไทย”
● รุ่นพื้นฐาน Seal Dynamic เลือกสีตัวถังได้ 2 สีระหว่างขาว Horizon White หรือดำ Quantum Black รุ่นกลาง Seal Premium เลือกได้ 3 สีระหว่างขาว Horizon White, ดำ Quantum Black หรือเทา Space Grey ส่วนรุ่นท๊อป Seal AWD Performance เลือกได้ 4 สีระหว่างขาว Horizon White, ดำ Quantum Black, เทา Space Grey หรือฟ้า Velocity Blue
- Seal Dynamic ราคา 1,325,000 บาท
- Seal Premium ราคา 1,449,000 บาท
- Seal AWD Performance ราคา 1,599,000 บาท
● นายประธานวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางด้านบริการหลังการขายนั้น Rever care ของเรามีให้ลูกค้า BYD Seal ด้วยความพิเศษ มูลค่าถึง 230,000 บาท”
● แพคเกจ Rever care รวมมูลค่า 230,000 บาท ประกอบด้วย (1) ดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน* (2) ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ.ระยะเวลา 1 ปี (3) บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (4) รับประกันตัวรถ (Warranty) 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (5) รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (6) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 8 ปีเต็ม* (7) โฮมชาร์จเจอร์ยี่ห้อ ABB พร้อมการติดตั้ง* (8) สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ VTOL (9) สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger (10) ค่าจดทะเบียนรถ* (11) พรมเข้ารูป, กรอบป้ายทะเบียน และฟิล์มหน้าจอ
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.reverautomotive.com หรือ Facebook : BYDReverThailandOfficial หรือ Youtube : youtube.com/@bydreverthailand หรือ IG: bydreverthailand และขอทดลองขับได้ที่โชว์รูม BYD ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ●
*เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด
