November 5, 2023
Motortrivia Team (10207 articles)

Beyond Electric Chapter II ลองขับรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุด BMW i5

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ

●   บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดงาน BMW Beyond Electric Chapter II ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ มีรถไฟฟ้าให้ทดลองขับหลายรุ่น โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ i5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ก็มีให้ลองขับทั้ง 2 รุ่นย่อย คือ BMW i5 eDrive40 M Sport ราคา 4,999,000 บาท และ BMW i5 M60 xDrive ราคา 5,599,000 บาท ทั้ง 2 รุ่นย่อยมาพร้อม BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

คุณโอภาส นพพรพิทักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

●   อุ่นเครื่องด้วยการทดลองเล่นระบบความบันเทิงต่างๆ โดยมีนายแบบคือ i5 M60 xDrive ที่มีฟังก์ชั่น AIRCONSOLE ใช้สมาร์ทโฟน สแกน QR Code บนหน้าจอ เพื่อเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นจอยสติ๊ก สำหรับเล่นเกมในรถ สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 7 เครื่อง ตัวรถมีเกมให้เลือกอยู่แล้ว เล่นเกมอย่างได้อารมณ์ด้วยชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins หรือจะฟังเพลงผ่าน Bluetooth ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดี

●   1. Slalom : ใช้รถ i7 xDrive60 เพื่อทดลองระบบ Integral Active Steering เวอร์ชั่นใหม่ ทำงานตั้งแต่จุดหยุดนิ่ง ที่ความเร็วต่ำ ล้อหลังจะหมุนตรงข้ามกับล้อหน้า เพื่อให้วงเลี้ยวแคบลง และที่ความเร็วสูงเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ล้อหลังจะเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้า เพื่อให้รถเปลี่ยนเลนได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น โดยสามารถเลี้ยวได้มากสุดที่ 3.5 องศา

●   ขับออกจากจุดเริ่มต้น กดคันเร่งเต็มที่ เมื่อถึงจุดที่วางไพลอนไว้ให้หักหลบฉุกเฉิน ก็หลบไปตามช่องทางที่กำหนด ตรงนี้จะรู้สึกว่าการควบคุมรถทำได้อย่างเบาแรง และรถตอบสนองรวดเร็ว แทบไม่มีอาการท้ายเหวี่ยงให้สัมผัส จากนั้นเบรกลดความเร็วเข้าโค้งซ้าย แล้วต่อด้วยการขับสลาลม ใช้ความเร็วได้ไม่สูงนักเพราะไพลอนวางไว้ค่อนข้างชิด ตรงนี้คนนั่งหลังบอกว่ารู้สึกเลยว่าด้านหลังมีการเลี้ยวช่วย ส่วนผู้ขับก็รู้สึกว่าเลี้ยวลัดเลาะได้ง่าย

●   รอบแรกลองสลาลมแบบห่างๆ จากไพลอน เพื่อลองความรู้สึกขณะเลี้ยว เมื่อใช้องศาพวงมาลัยมาก ก็จะรู้สีกได้ชัดเจนว่าล้อหลังช่วยเลี้ยว รอบสองลองขับแบบชิดๆ เฉียดไพลอน หมุนพวงมาลัยไม่เยอะ ก็ยังพอจับอาการได้ว่าล้อหลังช่วยเลี้ยว

●   ปิดท้ายสถานีนี้ด้วยการวางไพลอนจำลองสถานการณ์ที่ต้องขับผ่านทางแคบๆ ลัดเลาะอ้อมไปมา มองทีแรกคิดว่าไม่น่าไปได้ ขนาดรถไซส์ปกติยังไม่แน่ใจว่าจะพ้น แต่กับ i7 ที่มีความยาวเกือบ 5.4 เมตร กลับขับผ่านไปได้แบบสบายๆ ลงไปมองดูคนอื่นขับก็จะเห็นชัดว่าล้อหลังเลี้ยวในฝั่งตรงข้ามกับล้อหน้า

●   2. Wet Surface Circular Skid Pad : ใช้รถ i4 ลองความแตกต่างของการปิดและเปิดระบบช่วยการทรงตัวหรือ DSC ที่สามารถปิดทั้งหมด เปิดทั้งหมด หรือเปิดครึ่งเดียวก็ได้ ขับเข้าสถานีด้วยความเร็วต่ำแค่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นหมุนพวงมาลัยจนแขนไขว้กันแล้วกดคันเร่งสุด 2 รอบแรกปิด DSC ท้ายรถจะเหวี่ยงเร็วมาก จนแทบจะมองภาพนอกรถไม่ทัน ถ้าขับบนถนนจริงแล้วหมุนขนาดนี้ คงรอดจากอุบัติเหตุได้ยาก

●   รอบที่ 3 เปิด DSC เต็มระบบแล้วขับเหมือนเดิม ระบบจะช่วยให้รถไม่เสียการทรงตัว แม้จะกดคันเร่งสุด แต่รถก็ยังเลี้ยวได้ตามองศาของพวงมาลัย ไม่มีอาการ Oversteer หรือท้ายปัด และก็ไม่ได้ทำให้รถมีอาการหน้าดื้อหรือ UIndersteer ด้วย เรียกได้ว่าทำให้รถอยู่ในการควบคุมของผู้ขับแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็แน่นอนว่ากำลังที่ส่งไปล้อหลังจะถูกลดทอนลงบ้าง

●   รอบสุดท้ายเปิดระบบแค่ครึ่งเดียว เพื่อให้รถยังมีอาการล้อหมุนฟรีได้บ้าง เดาว่ามีไว้สำหรับขับบนถนนเปียกลื่น ถ้าเปิดเต็มระบบรถอาจจะไม่เคลื่อนที่ เมื่อเปิดระบบครึ่งเดียวรู้สึกว่าอาการท้ายปัดจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และสามารถทำตามที่ครูฝึกแนะนำได้ทันคือ เมื่อท้ายปัด ก็ให้ยกคันเร่ง และหมุนพวงมาลัยสวนทางเพื่อไม่ให้รถหมุน ซึ่งก็แก้อาการรถได้ทันท่วงที แต่ถ้าขับบนถนนสาธารณะ การเปิด DSC แบบเต็มระบบไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

●   3. Handling course + Launch Control : ใช้ i5 ทั้ง 2 รุ่นย่อย โดยจะได้ขับรุ่นไฮไลต์ i5 M60 xDrive จำนวน 2 รอบ และ i5 eDrive40 M Sport อีก 1 รอบ ขับแบบมินิเซอร์กิต รถไฟฟ้ามีการตอบสนองที่ค่อนข้างดุดันและรวดเร็ว ลองกดคันเร่งเพิ่มนิดหน่อยในโค้ง ยางก็เริ่มส่งเสียงประท้วงแล้ว ก็เลยต้องทำตามที่ครูฝึกแนะนำคือ รอให้เข้าสู่ทางตรง พวงมาลัยคืนแนวตรงก่อนค่อยกดคันเร่งหนักๆ ในโหมดสปอร์ต จะขับให้นุ่มนวลได้ยาก เพราะแค่แตะคันเร่งเบาๆ รถก็ทำท่าจะพุ่งไปข้างหน้า

●   ขับสร้างความเคยชินด้วย i5 eDrive40 M Sport ไปแล้ว 1 รอบ ก็สลับไปขับรุ่นแรง i5 M60 xDrive อีก 2 รอบ บอกเลยว่าความแรงระดับ 442 กิโลวัตต์ หรือ 601 แรงม้า จากมอเตอร์หน้าและหลัง ทำให้ขับสนุกมาก บวกกับช่วงล่าง พวงมาลัย และเบรก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนรถ ICE มีความหนักแน่นขับแล้วมั่นใจ ทำให้กล้าขับเร็วได้ แม้จะยังไม่คุ้นกับรถมากนัก

●   ได้ลองโหมด Launch Control ด้วยการเปิดโหมดสปอร์ต เท้าซ้ายกดเบรกสุด เท้าขวาเหยียบคันเร่ง เมื่อเตรียมใจพร้อมแล้วก็ยกเท้าซ้ายจากเบรก กดคันเร่งคาไว้ ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนนั่งยานทะลุมิติเปิดวาร์ป ไม่มีเสียงล้อฟรีให้ได้ยิน จากจุดหยุดนิ่งใช้เวลาแค่ 3.8 วินาที ก็ถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว

●   สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.bmw.co.th หรือติดต่อ BMW Connected Drive โทร. 1397 หรือ facebook.com/bmwthailand หรือ ติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ         ●

ขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สำหรับรถทดสอบ

Report : 2023 BMW Beyond Electric Chapter II