Toyota Land Cruiser 250 คืนถิ่นด้วยเครื่องเบนซิน/ดีเซล เทอร์โบ

90views

เรื่อง : AREA 54

● หลังทำตลาด Toyota Land Cruiser ใหม่เจนเนอเรชั่น 5 ไปล่วงหน้าในตลาดอเมริกาเหนือ ล่าสุด SUV หรูฟูลไซส์รุ่นนี้ก็เตรียมกลับไปทำตลาดในญี่ปุ่นตามกรอบเวลาที่วางเอาไว้ โดยการจำหน่ายจะใช้ชื่อเฉพาะว่า Toyota Land Cruiser 250 (หรือ 250 Series) ทว่าจะไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดแบบที่อื่นๆ

● โดยพื้นฐาน Land Cruiser 250 ไม่มีอะไรแตกต่างจาก Land Cruiser เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือ (รวมถึง Lexus GX ซึ่งทั้งหมดใช้รหัส J250 เหมือนกัน) ตัวรถขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA (GA-F) ขนาดตัวมีความยาว 4,925 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,870 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. เท่ากัน โดยรุ่นพิเศษในช่วงเปิดตัว Land Cruiser 250 First Edition จะมีการตกแต่งให้เฉพาะรุ่น

● ทั้งนี้ Land Cruiser 250 First Edition จะมากับล้ออลลอยสีดำด้านขนาด 18 นิ้ว พร้อมออปชั่นพิเศษจาก Jaos, Modellista และ Toy Factory และยังมีภายในใหม่เป็นสี Dark Chestnut ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุไทเทเนียม การจำหน่ายจะแยกเป็น 2 เกรด ประกอบด้วยรุ่นกลาง VX และรุ่นท๊อป ZX ซึ่งจะพิเศษกว่าด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบชาร์จ

● ห้องโดยสารเลือกเลย์เอาท์ได้ระหว่าง 5 หรือ 7 ที่นั่ง อุปกรณ์มาตรฐานมีจอ Head-up display, มาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, จอมัลติมีเดียแบบทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว, กระจกมองหลังดิจิทัล, มูนรูฟ, ชุดลำโพง 6 หรือ 10 ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ส่วนรุ่น VX / ZX มีชุดเครื่องเสียงพรีเมียม JBL พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่ง, ระบบอุ่นพวงมาลัยและเบาะคู่หน้า, ระบบปรับกาศอัตโนมัติ, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และ Power Inverter แปลงไฟจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับขนาด 2,400 วัทท์ สำหรับจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ

● ชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ประกอบด้วย ระบบ a Pre-Collision System with Pedestrian Detection ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่อาจเกิดการชน ทำงานร่วมกับระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบ Proactive Driving Assist คาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับ, ระบบ Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติทุกช่วงความเร็วโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า

● ต่อด้วยระบบ Lane Tracing Assist ควบคุมให้รถอยู่ในเลน, ระบบ Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ, ระบบ Blind Spot Monitor ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Automatic High Beams ลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน, ระบบ Road Sign Assist ช่วยอ่านป้ายสัญญาณจราจร และและระบบ Rear Cross Traffic Alert ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย

● รุ่นมาตรฐานใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.7 ลิตร N/A ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Super ECT กำลังสูงสุดผลิตได้ 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 25 กก.-ม.

● รุ่นท๊อปพลังดีเซล ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.8 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Direct Shift กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. อย่างไรก็ตาม สเปคนี้โตโยต้าก็มีให้ลูกค้าในโซนยุโรปด้วยเช่นกัน ทว่าตามข่าวเดิม โตโยต้าจะเพิ่มรุ่นดีเซล ไมลด์-ไฮบริด เทคโนโลยี 48-volt ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในช่วงปี 2025 ซึ่งเรายังไม่แน่ใจว่าจะทำตลาดในญี่ปุ่นด้วยหรือไม่?

● ชาวออฟ-โรด มั่นใจได้ด้วยโหมดในการขับ 6 แบบ และพร้อมลุยด้วยระบบขับเคลื่อน Full-time 4WD, เกียร์ทรานสเฟอร์, Center locking differential สำหรับล็อคเพลากลาง เสริมด้วยตัวช่วยอย่างระบบ Multi-Terrain Select, ระบบ Multi-Terrain Monitor, ระบบ CRAWL Control, ระบบ Downhill Assist Control และระบบ Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ตัดการเชื่อมต่อกันโคลงหน้า ช่วยเพิ่มระยะการให้ตัว

● ราคาจำหน่าย Land Cruiser 250 รุ่นมาตรฐานเกรด GX ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง เริ่มต้นที่ 5,200,000 เยน หรือประมาณ 1.24 ล้านบาท ส่วนรุ่นท๊อป ZX First Edition ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง ซึ่งจะจำกัดจำนวนการผลิตเอาไว้ที่ 8,000 คัน ราคาจบที่ 7,850,000 เยน หรือราวๆ 1.87 ล้านบาทครับ ●