April 8, 2017
Motortrivia Team (10223 articles)

Felipe Massa และอีก 4 นักขับที่กลับมาจากการรีไทร์


Posted by : Fascinator.

 

●   อาชีพนักแข่งเอฟวันของ เฟลิเป้ มาสซ่า ดูจะสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าตัวประกาศรีไทร์หลังจบ ฤดูกาล 2016 แต่แล้วจากการประกาศรีไทร์ช็อกโลกของแชมป์โลก นิโค รอสเบิร์ก เมอร์เซเดสจึงได้มาดึงตัว วาลท์เทรี บ็อตตาส จากวิลเลียมส์ไป นั่นทำให้วิลเลียมส์ไปตาม มาสซ่า นักขับผู้มากประสบการณ์ให้กลับมาช่วยทีมต่ออีกอย่างน้อย 1 ปี และนักขับบราซิลก็ได้หวนคืนแทร็คอย่างงดงามด้วยอันดับ 6 ในสนามแรกที่ออสเตรเลีย แต่ มาสซ่า ไม่ใช่คนแรกที่รีไทร์ไปแล้วหวนกลับคืนสู่วงการ ยังมีอีก 4 คน ที่เรากำลังจะไปทำความรู้จักกัน

นิกิ เลาด้า

รีไทร์ 1979 รีเทิร์น 1982
●   เมื่อ นิกิ เลาด้า ประกาศรีไทร์ตัวเองออกจากวงการ เขาทำให้ผู้คนช็อกไม่น้อยเพราะเขาทำการรีไทร์ทันที นักแข่งบราบัมหันหลังให้กับวงการระหว่างการซ้อมในรายการแคนาเดียนกรังด์ปรีซ์ 1979 โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “มันมีอะไรในชีวิตอีกเยอะมากกว่าที่จะขับเรื่อยเปื่อยเป็นวงกลม มันมาถึงจุดจบเพราะว่าผมรู้สึกเบื่อหน่าย มันไม่เหลือความท้าทายใดๆ มันมีแต่ความเจ็บปวดและความกระหายของผมก็ได้หายไป ง่ายๆ แค่นั้น”

●   หลังจากที่หันหลังให้วงการเขาก็ได้ไปสร้างธุรกิจสายการบินของตัวเอง และเป็นเวลาหลายปีทีเดียวที่เขาไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนแพดดอก เขากลับมาอีกครั้งเพื่อบรรยายการแข่งขันภาคสนามเล็กน้อย แต่ ณ จุดนั้นบางอย่างในตัวของเขาเปลี่ยนไป “ผมพร้อมอีกครั้งที่จะเสี่ยง ผมก็ประหลาดใจในความรู้สึกที่เพิ่มพูนขึ้นมานี้ จากนั้นรอน (เดนนิส) ก็ได้โทรหาผมและถามว่า คุณอยากจะลองรถดูไหม? มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เพราะเขาไม่มีทางรู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่”

●   การทดสอบอย่างลับๆ ได้เริ่มขึ้นที่โดนิงตันพาร์ค ซึ่ง รอน เดนนิส ประธานแม็คลาเรน ไม่คิดว่า เลาด้า จะตกปากรับคำเร็วเช่นนี้ “ผมคาดว่าเขาอาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการตัดสินใจ แต่ปรากฏว่าเขาตกปากรับคำทันทีที่ลงจากรถ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขาก็ชนะการแข่งขันสนามที่ 3 ของเราที่ลองบีช”

●   การกลับมาของเลาด้านั้นอยู่ต่ออีก 4 ฤดูกาล ซึ่งเขาเพิ่มชัยชนะอีก 8 ครั้ง และแชมป์โลกอีก 1 ครั้ง

อลัน โจนส์

รีไทร์ 1981 รีเทิร์น 1985
●   อลัน โจนส์ บอกลาวงการครั้งแรกของเขาอย่างสวยหรูด้วยชัยชนะที่ลาสเวกัส 1981 เขาเบื่อหน่ายกับการที่ต้องตระเวนแข่งไปทั่วโลกและได้ตัดสินใจกลับไปทำฟาร์มที่บ้านเกิดใกล้กับเมืองเมลเบิร์น

●   ในตอนแรกนั้นเขายังคงหนักแน่นที่จะไม่หวนคืนสู่วงการ ถึงแม้ว่าเฟอร์รารีจะมาเสนอให้เขาไปแทนที่ ดิดิเย พิโรนี ซึ่งประสบอุบัติเหตุในปี 1982 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความยั่วยวนนั้นมากขึ้นๆ จนเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เขาได้เซ็นสัญญาที่จะแข่งให้กับแอโรว์ในปี 1983 ที่ลองบีช เพียงแต่ว่าสปอนเซอร์ไม่อาจบรรลุสัญญาที่จะดึงเขาออกมาจากการเกษียณได้

●   2 ปี ถัดมา เขาได้รับโอกาสอีกครั้งจากโปรเจคฮาส-โลล่า แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หลายฝ่ายหวัง และมันก็เป็นการตอกตะปูปิดตายโอกาสที่เขาจะกลับมาเป็นครั้งที่ 3 โดยโปรเจคฮาส-โลล่า ทำให้เขาได้ลงแข่ง 20 รายการ ซึ่งเขาออกจากการแข่งขันไปเสีย 15 รายการ และเก็บแต้มเพิ่มได้อีก 2 แต้ม เท่านั้น

ไนเจล แมนเซล

รีไทร์ 1990 รีเทิร์น 1991
●   ในทางเทคนิคแล้ว ไนเจล แมนเซล ไม่น่าจะอยู่ในลิสต์นี้ เขาประกาศอำลาวงการหลังสิ้นสุดฤดูกาล 1990 แต่เขาก็ได้เซ็นสัญญาแข่งต่อก่อนที่เขาจะได้อำลาวงการเสียอีก

●   ประเด็นมันมีอยู่ว่าในช่วงปี 1990 ที่เขาขับให้กับเฟอร์รารีนั้น การเมืองภายในทีมและเอฟไอเอรุนแรงอย่างมาก ทางทีมและเอฟไอเอต้องการให้ อแลง พรอสต์ เป็นแชมป์โลก เรื่องดำเนินมาถึงขีดสุดที่ซิลเวอร์สโตน สนามถิ่นของ แมนเซล เขาพบว่าชาสซีส์รถของเขาถูกส่งต่อไปยัง พรอสต์ ตามการร้องขอของนักแข่งฝรั่งเศส และถึงแม้ว่า แมนเซล จะคว้าโพลได้ แต่ในการแข่งขันรถของเขาเกิดปัญหาที่ชุดเกียร์และ พรอสต์ คว้าชัยชนะไปในวันนั้น

●   แมนเซล ได้โยนถุงมือไปให้แฟนๆ และประกาศอำลาวงการหลังสิ้นสุดฤดูกาลทันที เขากล่าวว่า “ผู้คนพูดว่าผมตัดสินใจรีไทร์เพราะผมกำลังหัวร้อนที่รถของผมพัง หลายคนก็พูดว่ามันเป็นการตลาดของผมที่จะเรียกร้องความสนใจ จะด้านไหนก็แล้วแต่มันก็ไม่ถูกทั้งนั้น ผมและโรซานน์ (ภรรยาของแมนเซล) ได้มีการพูดคุยกันก่อนที่จะถึงซิลเวอร์สโตน และเราได้ตัดสินใจว่าเรากำลังถูกโกง”

●   แต่ก่อนที่ แมนเซล จะเดินไปถึงประตูทางออกเอฟวัน เซอร์ แฟรงค์ วิลเลียมส์ อดีตทีมบอสเก่าของเขาก็ได้ขี่ม้าขาวมายื่นสัญญาให้ แมนเซล กล่าวว่า เขาจะรับสัญญาก็ต่อเมื่อเขาได้สถานะหมายเลข 1 ในทีมโดยไม่ถูกรบกวน และเขาต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบจากเรโนลต์ วิลเลียมส์ยอมรับเงื่อนไขนี้ และหลังจากนั้น แมนเซล ก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้สำเร็จในปี 1992 กับวิลเลียมส์

●   ถ้าหากเขารีไทร์ไปหลังสิ้นสุดปี 1990 เขาจะมีชัยชนะในชื่อของเขาเพียง 16 ครั้ง และแค่เกือบจะเป็นแชมป์โลก แต่วิลเลียมส์ทำให้เขาเพิ่มชัยชนะเป็น 31 ครั้ง และแชมป์โลกอีก 1 สมัย เขารีไทร์หลังจบฤดูกาล 1992 แต่ก็ยังมีกลับมาแข่งแทนอีกเล็กน้อยในปี 1994 และ 1995

มิคาเอล ชูมัคเกอร์

รีไทร์ 2006 รีเทิร์น 2010
●   เมื่อครั้งที่ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ รีไทร์ไปในปี 2006 เขาเป็นแชมป์โลก 7 สมัยไปแล้ว และเก็บชัยชนะได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาได้รีไทร์เพื่อเปิดทางให้กับนักแข่งใหม่ๆ และวางมือจากความโกลาหลบนแทร็คซึ่งทำให้ชีวิตของเขายุ่งเหยิงพอสมควร อย่างไรก็ตามไฟแห่งความกระหายในชัยชนะของเขายังคงมิได้ดับลงสนิทในจุดๆ นี้

●   เขาเกือบจะได้คัมแบ็คในปี 2009 แทนที่ เฟลิเป้ มาสซ่า ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ฮังการี เพียงแต่ว่า ชูมัคเกอร์ เพิ่งได้รับบาดเจ็บที่คอจากอุบัติเหตุในมอเตอร์ครอส ปิดกั้นโอกาสในการรีเทิร์นในครั้งนี้ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ทำให้แฟนๆ สมใจอยากในปีถัดไปซึ่งเขาได้รีเทิร์นกลับวงการมาอยู่กับเมอร์เซเดส “หลังจากเวลาผ่านไป 3 ปี ผมได้สะสมพลังงานกลับคืนมาและผมพร้อมแล้วที่จะทำอะไรซีเรียสๆ ผมคงไม่ได้กลับมาในครั้งนี้หากผมไม่มีความมั่นใจที่จะกลับมา”

●   มันเป็นการหวนคืนที่ชวนให้รำลึกถึงวันเก่าๆ รอส บรอว์น ทีมบอส และช่างเทคนิคต่างๆ ซึ่งมักหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีทำให้ทุกคนคาดหวังการกลับมาที่สวยหรู อย่างไรก็ตาม ชูมัคเกอร์ ทำได้เพียงเพิ่ม 1 โพเดียม เข้าไปในสถิติของเขาเท่านั้นในการกลับมาครั้งนี้ และรีไทร์ตัวเองไปอย่างถาวรหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2012   ●


ที่มา :
•   formula1.com.