August 6, 2016
Motortrivia Team (10076 articles)

จัดอันดับชาสซีส์ แต่ละทีมพัฒนาขึ้นลงเป็นอย่างไร?


Posted by : Fascinator 

 

   ดาวน์ฟอร์ซ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถแข่ง และคงไม่มีที่ใดเหมาะที่จะวัดประสิทธิภาพดาวน์ฟอร์ซได้ดีไปกว่าสนาม บาร์เซโลน่า สนามที่ชาสซีส์ของแต่ละทีมจะแสดงศักยภาพทางแอโรไดนามิกส์ออกมาให้เห็นเด่นชัดที่สุด

   การทดสอบที่บาร์เซโลน่าเป็นตำแหน่งชี้วัดที่ดีสำหรับการเฝ้าดูความคืบหน้าที่แต่ละทีมได้ทำนับตั้งแต่จบฤดูกาล 2015 Autosport สื่อชั้นนำจึงได้ลงสนามและสังเกตอาการของรถแต่ละคันในแต่ละจุดที่สนามบาร์เซโลน่า รวมทั้งสังเกตการณ์ตั้งแต่รอบซ้อม วันแข่ง ไปจนถึงวันทดสอบ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์อันดับชาสซีส์ออกมาโดยไม่คำนึงถึงข้อมูลจาก GPS

1. เรดบูลล์ RB12

(อันดับในปี 2015 : 3)
   เรดบูลล์พบกับปัญหาพาหัวหมุนในปี 2015 เมื่อกติกาจมูกหน้ารถแข่งถูกเปลี่ยนให้เพิ่มพื้นที่หน้าตัด และลดระดับความสูงจมูกลงอีกจากปี 2014 นั่นส่งผลให้อากาศไหลผ่านใต้ท้องรถในปริมาณที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อเรดบูลล์โดยตรงเนื่องจากรถของพวกเขามีจุดเด่นอยู่ที่การจัดระเบียบอากาศใต้ท้องรถ กว่าที่ เอเดรียน นิวอี้ จะหาวิธีกู้คืนดาวน์ฟอร์ซมาได้ นั่นก็ล่วงเลยผ่านครึ่งฤดูกาลไปแล้ว แต่นับจากนั้นมาพวกเขาก็ค้นพบวิธีเพิ่มดาวน์ฟอร์ซมากขึ้นเรื่อยๆ และในตอนนี้พวกเขาน่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านดาวน์ฟอร์ซอีกครั้ง มันยังคงเป็นรถที่แข็งแกร่งภายใต้การเบรก ไม่มีอาการท้ายปัดท้ายดิ้นให้เห็น สาดโค้งเร็วได้อย่างดุดัน ราวกับรถไฟที่เกาะราง แทร็คชั่นเป็นเลิศ โดดออกจากโค้งช้าได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาคงเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องหากได้เครื่องเมอร์เซเดสมาไว้ในครอบครอง

2. เมอร์เซเดส W07

(อันดับในปี 2015 : 1)
   มันเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่าเมอร์เซเดสถล่มคู่แข่งยับเยินจากศักยภาพเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ อันที่จริงพวกเขานั้นมีชาสซีส์ที่เป็นเลิศเช่นกัน ในปี 2014 และ 2015 พวกเขามีทั้งเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดและชาสซีส์ที่ดีที่สุด นั่นทำให้พวกเขาโดดเด่นเหนือคู่แข่งชนิดไร้เทียมทาน ในปีนี้ถึงแม้ว่าเรดบูลล์จะขอทวงตำแหน่งผู้นำด้านดาวน์ฟอร์ซคืน แต่ชาสซีส์ของพวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 อยู่ดี นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถบาลานซ์ระหว่างเครื่องยนต์กับชาสซีส์ได้อย่างยอดเยี่ยม จนเป็นผลให้พวกเขาสามารถรีดประสิทธิภาพยางออกมาได้สูงสุดเหนือกว่าทุกทีม และนั่นล่ะที่ทำให้พวกเขายังคงทิ้งระยะห่างจากคู่แข่ง แม้คู่แข่งจะอัดการพัฒนาอย่างบ้าคลั่งแล้วก็ตาม

3. เฟอร์รารี SF16-H

(อันดับในปี 2015 : 6)
   การมาถึงของ เจมส์ อัลลิสัน ส่งผลให้ทีมพัฒนาชาสซีส์ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ในปีนี้พวกเขาก้าวกระโดดขึ้นมาจากชาสซีส์อันดับ 6 ในปีที่แล้ว ด้วยจมูกหน้ารถที่สั้นลงและท้ายรถที่เพรียวมากขึ้น นั่นส่งผลให้แอโรไดนามิกส์โดยรวมปรับปรุงขึ้นอย่างมหาศาล พวกเขาไปได้ดีในสภาพโค้งความเร็วสูง อาจมีช้าบ้างในโค้งความเร็วต่ำ แล้วทำไมถึงยังตามห่างมากจากเรดบูลล์และเมอร์เซเดส? คำตอบก็คือ ไม่ใช่ว่ารถเฟอร์รารีไม่ดี เพียงแต่ 2 ทีมข้างต้น เหนือขึ้นไปยิ่งกว่ามากๆ นั่นเอง

4. แม็คลาเรน MP4-31

(อันดับในปี 2015 : 4)
   อ้างอิงจาก GPS แม็คลาเรนกล่าวว่าชาสซีส์ของพวกเขานั้นดีเทียบเคียงกับเฟอร์รารีทีเดียว อย่างไรก็ตามในโค้งความเร็วสูงพวกเขายังคงช้า รถมีอาการดิ้นให้เห็น แต่ดูดีขึ้นเมื่อรถวิ่งผ่านโค้งความเร็วต่ำ ซึ่งฟ้องออกมาเป็นตัวเลขเวลาว่าแม็คลาเรนทำเวลาในเซ็คเตอร์สุดท้ายของสนามช้ากว่าเพียงแค่เมอร์เซเดสและเรดบูลล์เท่านั้น หากพวกเขาสามารถปรับปรุงกำลังเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น นั่นจะช่วยให้ดาวน์ฟอร์ซของพวกเขาปรับปรุงยิ่งขึ้นไปในตัว หากแต่พวกเขากล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างดาวน์ฟอร์ซให้รถมากไปกว่านี้ได้แล้ว เนื่องจากกำลังเครื่องยนต์ไม่เพียงพอที่จะทำความเร็วบนทางตรง

5. โทโรรอสโซ STR11

(อันดับในปี 2015 : 2)
   เจมส์ คีย์ ได้ฝากผลงานชิ้นโบแดงไว้กับทีมเมื่อปีที่ผ่านมา รถของพวกเขาได้รับการยอมรับว่ามีชาสซีส์เป็นรองเพียงแค่เมอร์เซเดสเท่านั้น แต่ปีนี้เนื่องจากพวกเขามีการตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ล่าช้า และท้ายที่สุดพวกเขาก็ไปจบที่เครื่องยนต์เฟอร์รารีปีเก่า นั่นทำให้การออกแบบส่วนท้ายรถของพวกเขามีปัญหาและลดทอนประสิทธิภาพโดยรวมของแอโรไดนามิกส์ลง อย่างไรก็ตามรถของพวกเขาก็ยังคงโดดเด่นและเสถียรมากในโค้งความเร็วสูง เพียงแต่การเบรกและโค้งความเร็วต่ำยังไม่อาจสู้กับท็อปทีมได้

6. วิลเลียมส์ FW38

(อันดับในปี 2015 : 5)
   ดูไม่ค่อยจะชอบโค้งความเร็วสูงนักสำหรับวิลเลียมส์ปีนี้ รถของพวกเขาดิ้นอย่างเห็นได้ชัดในโค้ง ส่วนโค้งความเร็วต่ำก็มีปัญหาเช่นกัน รถของพวกเขาทำความร้อนให้กับยางไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามโค้งความเร็วต่ำดูจะมีการปรับปรุงขึ้นเล็กน้อย และเครื่องยนต์เมอร์เซเดสยังคงทำให้พวกเขาได้เปรียบเหนือคู่แข่งอยู่

7. ฟอร์ซอินเดีย VJM09

(อันดับในปี 2015 : 7)
   ฟอร์ซอินเดียมีแนวคิดที่ว่ารถของพวกเขาจะต้องไปได้ดีในทุกสภาพผังสนาม มันเป็นแนวคิดที่ดีทีเดียว หากแต่ว่าผลของมันกลับกลายเป็นทำให้รถของพวกเขาเหมือนเป็ด จะบินก็บินสู้นกไม่ได้ จะว่ายน้ำก็ไม่เก่งสู้ปลา รถของพวกเขาก็ดูดีในทุกสภาพสนาม แต่กลับไม่โดดเด่นออกมาเลยสักอย่างเดียว อย่างไรก็ตามข้อดีของตัวรถยังพอจะมีให้เห็นอยู่เล็กน้อย นั่นคือช่วงหน้ารถที่แข็งเหมาะกับการจิกเข้าโค้งต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นว่าพวกเขาทำได้ดีเมื่อต้องรับมือกับสภาพสนามสตรีทเซอร์กิต

8. เรโนลต์ RS16

(อันดับในปี 2015 : 8)
   น่าจะเรียกได้ว่านี่คือชาสซีส์ โลตัส E24 เสียมากกว่า จากการที่เรโนลต์เทคโอเวอร์โลตัสล่าช้า ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านชาสซีส์ของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลงานที่พวกเขาทำได้ก็ยังคงอยู่ในคาดการณ์จากการถูกลดทอนประสิทธิภาพเครื่องยนต์กลับมาใช้เรโนลต์ แต่ถ้าหากเรโนลต์เริ่มฟื้นฟูองค์กรกลับมาได้ ด้วยทุนที่พวกเขามีก็น่าจะพัฒนาทั้งเครื่องยนต์และชาสซีส์จนกลับมาอยู่กับกลุ่มกลางได้อยู่

9. ฮาสเอฟวัน VF-16

(อันดับในปี 2015 : -)
   การเริ่มต้นทีมในปีแรกนับว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับฮาส รถของพวกเขาออกจะดิ้นมากไปเสียหน่อยในโค้งความเร็วสูงโดยเฉพาะที่มีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน อย่างไรก็ตามแทร็คชั่นโค้งความเร็วต่ำและการลดแดรกฟอร์ซจนสามารถทำความเร็วสูงสุดออกมาได้อย่างไม่อายใคร เราเชื่อว่าชาสซีส์ของพวกเขายังคงดีกว่าอีก 2 ทีม ที่เหลือ

10. เซาเบอร์ C35

(อันดับในปี 2015 : 9)
   เซาเบอร์ค่อยๆ ไหลลงไปอยู่ท้ายตาราง มันช่วยไม่ได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาขาดสถานะทางการเงินที่ดีที่จะช่วยอัดฉีดการพัฒนาให้ต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้นจากการที่พวกเขายังมีอุโมงค์ลมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก ชาสซีส์ของพวกเขาคงไม่เลวร้ายไปกว่ามานอร์อย่างแน่นอน

11. มานอร์ MRT05

(อันดับในปี 2015 : 10)
   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตำแหน่งนี้จะต้องถูกครอบครองโดยมานอร์ ปีที่แล้วพวกเขาเกือบจะล้มละลาย แต่ก็กลับมาแข่งได้โดยใช้ชาสซีส์ปี 2014 โมดิฟาย ปีนี้พวกเขามีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นจากการเข้ามาทำทีมของเจ้าของใหม่ พวกเขาดึงตัวคีย์แมนจากทีมต่างๆ มาร่วมทีมมากมาย ถึงแม้ว่ารถของพวกเขาจะเริ่มต้นจากพื้นฐานของพื้นฐานที่สุด แต่การพัฒนานั้นจะมีให้เห็นอย่างแน่นอน และพวกเขาอาจจะเริ่มสั่นคลอนตำแหน่งของเซาเบอร์ในไม่ช้านี้  


ที่มา:
•   autosport.com.