All New Nissan Almera VL สปอร์ตขึ้นทั้งรูปลักษณ์และบุคลิก

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : นิสสัน

●   นิสสัน อัลเมร่า โฉมแรก เปิดตัวในไทยช่วงปี 2012 เป็นซีดานอีโคคาร์คันแรกของไทย หลังจากนั้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็เปิดตัว อัลเมร่า โฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ ทิ้งช่วงประมาณ 2 เดือนก็จัดการทดสอบแบบกลุ่ม ใช้เส้นทางภูเก็ต-พังงา ระยะทางรวมไปกลับประมาณ 200 กิโลเมตร กับอัลเมร่า รุ่นสูงสุด VL ราคา 639,000 บาท นั่งคันละ 2 คน

พลิกโฉมสู่ความสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน

●   นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ออกแบบภายใต้แนวคิด Emotional Geometry ประกอบด้วยกระจังหน้า V-Motion ไฟหน้าไฟท้ายทรงบูมเมอแรง และแนวเส้นหลังคาด้านหลังที่ถูกยกขึ้น หรือ Kick-up C-Pillars และหลังคาแบบลอยตัว Floating Roof ภายนอกโดยรวมเน้นเส้นสายที่เฉียบคมดูสปอร์ตและทันสมัย ไฟท้ายทรงแบนทำให้ตัวรถดูกว้างและต่ำมั่นคง มิติตัวรถรุ่น VL มีความยาว 4,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,460 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,525/1,535 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 135 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,076 กิโลกรัม

●   ห้องโดยสารให้อารมณ์สปอร์ตต่อเนื่องจากภายนอก สะดุดตากับพวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน ขอบล่างปาดตรง ทรงสวย ถ้าวงเล็กลงอีกนิดและอวบขึ้นอีกหน่อยน่าจะดี ปรับได้ 4 ทิศทางทุกรุ่นย่อย ชุดมาตรวัดผสมผสานระหว่างอะนาล็อคของมาตรวัดความเร็ว กับดิจิตอลในฝั่งวัดรอบ ออกแบบได้สวยงามกลมกลืนกันดี ในส่วนของมาตรวัดดิจิตอลสามารถปรับเป็นหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว แสดงผลข้อมูลการขับ และการปรับตั้งระบบต่างๆ ของรถด้วยสวิตช์บนพวงมาลัยฝั่งซ้าย บนคอพวงมาลัยมีก้าน 2 ฝั่ง ขวามือควบคุมระบบไฟส่องสว่างและไฟเลี้ยวแบบกระพริบ 3 ครั้ง ฝั่งซ้ายควบคุมที่ปัดน้ำฝน การกดใช้งานสวิตช์ระบบต่างๆ ให้ความรู้สึกหนักแน่นดี

●   อีกหนึ่งจุดที่ชอบใจรถรุ่นนี้คือ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่คอนโซลกลาง มีการทำงานที่รวดเร็ว ตอบสนองติดมือทันใจ และภาพที่คมชัดกว่ารถแพงกว่าบางรุ่น รองรับ Apple CarPlay มีประโยชน์มากเมื่อใช้แอพพลิเคชั่น Google Map แสดงภาพขึ้นจอใหญ่ชัดเต็มตา ถูกใจผู้ทดสอบที่มีอายุป้วนเปี้ยนแถวครึ่งร้อยกันทั้ง 2 คน จอติดตั้งในตำแหน่งไม่สูงมาก ไม่บดบังทัศนวิสัยและไม่มีแสงสะท้อนมากนัก มองง่ายสบายตา ทดลองขับในเส้นทางที่ไม่คุ้นก็ไม่กังวลว่าจะหลงทาง

●   ถัดลงมาเป็นชุดสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศ แยกส่วนชัดเจน ใข้งานได้รวดเร็ว ต่อเนื่องด้วยช่องจ่ายไฟฟ้าและ USB คอนโซลเกียร์สีดำเงา Piano Black กับคันเกียร์ทรงมาตรฐาน ย้ายปุ่ม Start/Stop มาไว้แถวคันเกียร์ ใช้งานสะดวกไม่ต้องชะเง้อ เบาะนั่งทรงเรียบๆ แต่นั่งสบายพอสมควร นั่งครั้งแรกอาจรู้สึกว่าแข็งไปหน่อย แต่จะส่งผลดีเมื่อนั่งนานๆ เพราะจะไม่เมื่อยล้าเนื่องจากมีการกระจายแรงกดที่ดี ตัวเบาะสั้นไปนิด รองรับต้นขาได้ไม่เต็มความยาว

●   เบาะหลังทรงค่อนข้างแบนเป็นปกติของรถบ้าน คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็กระชับดี ถ้ามีที่เท้าแขนกลางเบาะหลังจะนั่งเพลินมาก พื้นที่วางขาของผู้โดยสารด้านหลังผู้ขับ เหลือเฟือระดับเกิน 1 ไม้บรรทัด พื้นที่เหนือศีรษะเหลือประมาณ 2 นิ้ว กับความสูงผู้โดยสาร 169 เซนติเมตร คุณภาพวัสดุโดยรวมสมราคา จะมีก็แต่ชุดไฟอ่านแผนที่ ซึ่งดูเชยไปนิดเมื่อเทียบกับตัวรถ

●   อัลเมร่า ใหม่ ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับที่ควรมี เช่น ระบบกล้องมองรอบทิศทาง ทำงานร่วมกับระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ระบบเตือนจุดอับสายตา, เตือนก่อนการชนด้านหน้า ทำงานร่วมกับระบบเบรกฉุกเฉิน และระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอยหลัง ระบบช่วยเหลือเหล่านี้มีประโยชน์ทั้งกับมือใหม่และมือเก่า

เซตรถต่างกลุ่มเป้าหมายกับคู่แข่ง

●   แม้จะมีความคล้ายกันในหลายจุด ทั้งในเรื่องการเป็นอีโคคาร์ ที่ต้องผลิตรถให้ได้ตามข้อกำหนด เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นแบบเบนซินไดเร็กอินเจ็คชั่น 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว เทอร์โบ กับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT เหมือนกัน ระบบกันสะเทือนหน้าหลังรูปแบบเดียวกัน และระบบเบรกก็แบบเดียวกัน

●   สิ่งที่แยกกลุ่มลูกค้าของรถทั้ง 2 รุ่นได้อย่างชัดเจน คือ บุคลิกโดยรวมของรถที่แตกต่างกัน ความรู้สึกหลังการทดลองขับ ตรงกับข้อมูลที่ได้จากวิศกรของนิสสัน ในการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ คือ การพัฒนารถให้มีความสมดุลในทุกด้าน และเพิ่มเติมจุดเด่นในเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยในกลุ่ม Nissan Intelligent Mobility

เครื่องยนต์ตอบสนองดีที่ความเร็วใช้งานจริง

●   เครื่องยนต์ของอัลเมร่า ใหม่ มีกำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร หรือ 15.5 กก.-ม. ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที ถังน้ำมันจุ 35 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ช่วงขับตามๆ กันในเมืองโดยรวมทำได้ดี ขับง่ายเร่งได้ต่อเนื่อง ออกตัวไม่อืด เกียร์เปลี่ยนขึ้นลงนุ่มนวลตามความเร็วที่ใช้ มีแค่บางสถานการณ์ที่เกียร์อาจงงๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ออกอาการรุนแรงหรือสังเกตได้ชัด ต้องตั้งใจจับผิดกันจริงๆ ถึงรู้สึก

●   ช่วงถนนโล่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด อยู่ในช่วงความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ยังมีกำลังสำรองเหลือเฟือสำหรับการเร่งแซง ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักเท้าขวาลงไปบนคันเร่ง ใช้เวลาไม่นานก็ได้ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถ้าเป็นการแซงฉุกเฉินก็ต้องใช้รอบสูงช่วยบ้าง กำลังแรงบิดของเครื่องยนต์ เป็นรองคู่แข่งเมื่อดูจากตารางสเปค แต่ในการใช้งานจริงแบบคนปกติทั่วไป ใช้ความเร็วตามกฎหมาย และไม่ได้รีดเค้นเครื่องยนต์กันแบบสุดๆ ก็แทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ทดลองขับช่วงแรก ปิดระบบ Auto Stop/Start ระยะทาง 106 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.9 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าจะขับให้ได้ตามที่ระบุ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร คงต้องใช้ความเร็วต่ำและสม่ำเสมอกว่านี้

●   เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังโดยรวมเน้นการใช้งานทั่วไป นุ่มนวลราบเรียบ ขับง่ายขับสบาย แต่ก็มีพลังในการขับเคลื่อน และมีกำลังสำรองเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ถ้าขับแบบสปอร์ตตลอดเวลารถรุ่นนี้อาจไม่ตอบโจทย์

ช่วงล่างตามเครื่องยนต์

●   อัลเมร่า ใหม่ ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ทุกรุ่นย่อยให้ยางขนาด 195/65 R15 หน้ากว้างแก้มสูงเน้นนุ่มนวล ช่วงล่างปรับเซตมาสอดคล้องกับแนวคิดในการพัฒนารถคือ เพื่อการใช้งานทั่วไป นุ่มสบาย แต่เมื่อช่วงล่างมีการยืดยุบก็มีความกระชับไม่ยวบย้วย ตลอดเส้นทางที่ได้ทดลองขับ มีทั้งไฮเวย์ใช้ความเร็วสูงได้ และถนนคดเคี้ยวโค้งกว้างสลับแคบ ใช้ความเร็วสูงเกินปกติไปพอสมควร อยู่ในช่วง 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังควบคุมรถได้สบายๆ ไม่ต้องออกแรงเยอะ และไม่ต้องลุ้น การลัดเลาะไปตามโค้งต่างๆ ทำได้อย่างมั่นคงและเบาแรง

●   พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าให้การผ่อนแรงที่เหมาะสมในความเร็วต่ำ-ปานกลาง ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้งานบ่อย ส่วนในช่วงความเร็วสูงรู้สึกว่าน่าจะหนืดหนักกว่านี้อีกนิด ขากลับสลับผู้ขับแล้วย้อนทางเดิม ลองย้ายไปนั่งเบาะหลังตลอดเส้นทาง คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วกระชับดี บอกผู้ขับว่าไม่ต้องเกรงใจให้ขับตามสบายเพราะจะได้รู้อาการรถเมื่อนั่งเบาะหลัง พบว่าช่วงล่างไม่ดีดเด้งหรือเหวี่ยงวูบวาบ นั่งเล่นเกมได้สบาย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเป็นคนไม่เมารถอยู่แล้วก็เป็นได้

คุณธีระพันธุ์ ละอองศรี รองประธานสายงานอะไหล่ และบริการหลังการขาย และ มร. ปีเตอร์ แกลลี (Peter Galli) รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ทำงานได้ตามมาตรฐาน สร้างแรงเบรกได้ดีเมื่อต้องการ และควบคุมแรงเบรกได้ง่าย ไม่มีอาการแตะเบรกเบาๆ แล้วเบรกจับตัวเร็วจนหน้าทิ่ม ซึ่งจะทำให้ต้องเกร็งเท้าเมื่อเบรก มาพร้อมตัวช่วยมาตรฐานทั้ง ABS, EBD และ BA

●   นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ รูปลักษณ์ทันสมัยมีเอกลักษณ์การออกแบบของนิสสันยุคใหม่ ดูเฉียบคมสปอร์ตเข้ายุค แต่งเพิ่มก็สวยไม่รุงรัง ภายในสวยเรียบๆ รุ่น VL ให้อุปกรณ์มาตรฐานล้นๆ กว้างเพียงพอทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และเพิ่มความน่าสนใจด้วยราคารุ่นท๊อป 639,000 บาท และโปรโมชั่นฟรีประกันภัยชั้น 1 ดอกเบี้ย 1.79 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ และผ่อน 2 ปี รวมทั้งแพกเกจเช็คระยะ Save Safe Package ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่มนี้ได้อีกไม่น้อย  ●

ขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

2020 Nissan Almera VL : Group Test