June 18, 2021
Motortrivia Team (10203 articles)

All-New Haval H6 Hybrid SUV อัตราเร่งดี เทคโนโลยีล้ำสมัย

เรื่อง : สุพรรณี ยังอยู่

●   All-New Haval H6 Hybrid SUV รถรุ่นแรกที่ GWM เตรียมทำตลาดในไทย เผยโฉมเป็นครั้งแรกแบบเวิลด์พรีเมียร์ ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 จากนั้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2564 จึงมีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพคันจริงกันอีกครั้ง

●   ล่าสุด GWM ได้จัดกิจกรรมทดลองขับ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 นี้ พร้อมรอลุ้นราคา โดยนำสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะของ Haval H6 Hybrid SUV รุ่น Ultra โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามระเบียบข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19

●   การทดสอบจัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “Drive to a New xEV World” ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ – ชลบุรี (สนามบินหนองค้อ) จุดประสงค์หลักในการทดสอบครั้งนี้ นอกจากเรื่องสมรรถนะของรถแล้ว ยังเน้นไปที่จุดเด่นด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะของรถ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ให้มากว่า 20 ฟังก์ชั่น สำหรับการช่วยลดอุบัติเหตุ

ภาพลักษณ์หรูและลงตัว

●   Haval H6 Hybrid SUV ที่เตรียมจำหน่ายในบ้านเรา นับเป็น H6 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ในตลาดโลก ตัวรถมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหรูหรา การออกแบบใช้เส้นโค้งผนวกกับเส้นสายที่แลดูเรียบง่าย กระจังหน้าแบบตะแกรงขนาดใหญ่ดูดุดัน เด่นด้วยโลโก้ Haval บริเวณกึ่งกลางสีโครเมียม รุ่น Ultra ด้านท้ายของรถยนต์มากับเอกลักษณ์เฉพาะเป็นแถบไฟ LED taillight strip พาดยาวจากซ้ายจรดขวา เสริมด้วยโลโก้ขนาดใหญ่ ล้อขนาด 225/55/19 (รุ่น Ultra)

●   มิติตัวรถมีความยาว 4,653 มิลลิเมตร กว้าง 1,886 มิลลิเมตร สูง 1,724 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มิลลิเมตร

ภายในกว้างขวาง ออกแบบและตกแต่งสไตล์เรียบหรู

●   ห้องโดยสารของ H6 ออกแบบภายใต้แนวความคิด Future Intelligent Cockpit ในรูปแบบ 360 องศา ช่วยให้ภายในดูโปร่งสบาย สีของวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งทำให้รู้สึกถึงโลกอนาคต หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาด 1.2 ตารางเมตร มาตรวัดฟูลดิจิทัล Multi Display จัดวางแบบลอยตัว จอมัลติมีเดียแสดงผลส่วนกลางแบบทัชสกรีนขนาด 12 นิ้ว (รุ่น Ultra) จัดวางแบบลอยตัวเช่นกัน

●   เสริมความสะดวกในขณะขับด้วยจอ Head Up Display ขนาด 10 นิ้ว แสดงภาพข้อมูลการขับได้อย่างครบครัน, พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Multi-Function, เกียร์ไฟฟ้า Electronic shifter, จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย Wireless charger, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบคู่ พร้อมตัวกรอง CN95, เครื่องกำเนิดไอออนลบ สามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้

เครื่องยนต์และเทคโนโลยี

●   Haval H6 Hybrid SUV มากับเทคโนโลยี “GWM LEMON Hybrid” โดยนับเป็นรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นบน LEMON + DHT platform ที่สามารถรองรับสถานการณ์ในการขับที่หลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ โหมดในการขับเลือกได้ 4 แบบระหว่าง โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด หรือ โหมดสภาพถนนลื่น

●   เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังเป็นแบบอิเลคทรอนิคส์ Multi-mode DHT ช่วยประหยัดน้ำมัน ชุดระบบเกียร์ไฮบริดใหม่นี้นับเป็นรุ่นแรกที่มี 2 เกียร์ ที่ด้านเครื่องยนต์ และอีก 1 เกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน เพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลาย

●   ชุดระบบอัจฉริยะ LIFE PLUS ของ Haval H6 ทำให้การขับในทุกเส้นทางเป็นเรื่องง่าย ชุดระบบนับเป็น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 (ตาม) ที่มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ เช่น:

●   ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ค้นหาพื้นที่ว่างสำหรับจอดรถยนต์ และสามารถแนะนำการจอดรถได้อย่างถูกต้อง คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง

●   ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมในระยะทาง 50 เมตร

●   ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) โดยระบบจะช่วยตรวจจับรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมและรักษาระยะห่างจากรถบรรทุก โดยหลังจากวิ่งผ่านรถบรรทุกแล้ว รถจะกลับเข้าสู่กลางเลนตามปกติ ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาดและระดับราคาเดียวกัน

●   ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะที่จะระบุเส้นทางด้านหน้าของตัวรถ ไปพร้อมกับประสานการทำงานของระบบเบรกและระบบควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถยนต์คันหน้า

●   ระบบช่วยหยุดรถยนต์และออกตัว (stop-and-go) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับรถสำหรับย่านที่มีการจราจรพลุกพล่าน ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา Surrounding camera ด้วยการใช้กล้องรอบทิศทางความละเอียดสูงระดับสี่ล้านพิกเซลในการแสดงภาพรอบตัวรถสามารถมองเห็นสภาพถนนโดยรอบได้อย่างง่ายดาย หรือเมื่ออยู่บนถนนแคบหรือบริเวณที่จอดรถ

●   ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ Intelligent Function ช่วยสร้างประสบการณ์การขับที่สะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบโต้ตอบด้วยเสียงผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence (AI) จดจำเสียงได้เป็นอย่างดี ช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ผู้ขับ ลดอุบัติเหตุ รวมไปถึงระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด

●   ระบบอัพเกรดโปรแกรมออนไลน์ FOTA สามารถอัพเดท Firmware ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็นระบบการขับอัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง

●   การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมการทำงานบางฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ รวมไปถึงการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับรถยนต์ สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อคและปลดล็อคประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง และการควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ ฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และการแสดงผลการตั้งค่าต่างๆ ของรถ

●   ชุดระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Car Play พร้อมคำสั่งเสียงผ่าน SIRI*, การเชื่อมต่อกับ Android Auto พร้อมคำสั่งเสียงผ่าน Google Assistant*, การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล CLOUD เพื่อความบันเทิงต่างๆ ทั้งการฟังเพลงออนไลน์และรายการวิทยุ การตรวจเช็คสภาพอากาศ และการดูข้อมูลเกี่ยวกับการนำทางและจุดหมายปลายทาง

*สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป

ทดลองขับ Haval H6 Hybrid SUV

●   ช่วงเช้าเริ่มต้นที่โรงแรม อวานี สุขุมวิท รับประทานอาหารเช้า จากนั้นเข้าฟังบรรยายจาก คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ และ คุณจิรศักดิ์ ชื่นอารมย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เมื่อได้เวลาตามกำหนดการ สื่อมวลชนเริ่มเข้าประจำรถที่จัดเตรียมไว้ให้แบบ 1 คนต่อ 1 คัน ใครประสงค์จะเดินทางไปด้วยกัน หรือมีทีมงานติดตามโดยสาร ต้องไม่เกิน 2 คนต่อ 1 คัน เพื่อรักษาระยะห่างตามข้อกำหนดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคฯ จุดหมายปลายทางคือสนามบินหนองค้อเพื่อทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับของ Haval H6

คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย

●   การเดินทางเป็นรูปแบบขบวนมากกว่า 20 คัน มีรถตำรวจขับนำอำนวยความสะดวก รักษาความเร็วตามข้อกำหนด ใช้เส้นทางสุขุมวิทมุ่งหน้าทางพิเศษบูรพาวิถี ต่อเนื่องไปยังเลียบชายหาดสะพานชลมารควิถี มุ่งหน้าอ่างศิลา เพื่อใช้เส้นทางถนนข้าวหลาม ออกสู่เส้นทางคู่ขนานทางหลวงหมายเลข 7 ชลบุรี-พัทยา (มอเตอร์เวย์) ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้ความเร็ว 100 – 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14 กิโลเมตรต่อลิตร

●   ทริปนี้นับว่าเป็นการเดินทางแบบขบวนที่ค่อนข้างยาว ผู้ขับอยู่ช่วงท้ายขบวน ผนวกกับสภาพการจราจร และจำนวนรถบนเส้นทางค่อนข้างมากตามการใช้งานจริง มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้ขับหลุดจากขบวนด้านหน้า เช่น ติดสัญญาณไฟจราจร รถของบุคคลอื่นเข้ามาแทรกในขบวนบ้าง ซึ่งบางครั้งต้องยอมเนื่องจากขบวนยาว จึงต้องมีการแบ่งปันการใช้ถนนร่วมกัน

●   รถบางคันขอแทรกเข้าขบวน พอได้จังหวะที่ไปได้ก็เพิ่มความเร็วออกจากขบวนไป แต่ก็มีบางคันที่ไม่ยอมออกจากขบวน บวกกับใช้ความเร็วต่ำกว่ารถคันหน้ามาก จึงมีบางจังหวะที่ผู้ขับต้องใช้ความเร็วเพิ่มขึ้นเพื่อเร่งแซงให้ทันขบวน เนื่องจากเกรงว่าจะหลงเส้นทางจากขบวนอีกด้วย

●   การทำงานของเครื่องยนต์พร้อมมอเตอร์ สามารถตอบสนองได้ดีและทันใจ ตัวรถให้อัตราเร่งดี นุ่มนวล ไม่ต้องรีดเค้นมากนัก การใช้งานในช่วงความเร็วสูงนิดๆ เริ่มรู้สึกยวบเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการเซ พวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่ถึงกับควบคุมไม่ได้ สำหรับตัวผู้ขับโดยรวมด้านสมรรถนะนับว่าพอใจมาก

5 สถานีกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ

●   GWM จัดสถานีให้ทดลองขับแบบจำลองสถานการณ์จริง โดยแบ่งเป็น 5 สถานี ประกอบด้วย:

●   สถานีที่ 1 : ทดสอบอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่หน้าจอมัลติมีเดีย เลือกโหมดสปอร์ต ตัวรถพุ่งจากจุดหยุดนิ่งไปที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทาง 300 เมตร ใช้เวลา 8 วินาที ผู้ขับรู้สึกว่าในช่วงกดคันเร่งหนักๆ เพื่อเพิ่มความเร็วสูง ด้านหน้ารถจะลอยๆ เล็กน้อย

●   สถานีที่ 2 : ทดลองใช้งานระบบช่วยกลับรถ หรือถอยหลังอัตโนมัติ Auto Reversing Assistance (ARA) การทำงานของระบบจะช่วยจดจำการหักเลี้ยวพวงมาลัยในระยะทาง 50 เมตร ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีข้อแม้ว่า จังหวะที่ขับเข้าไปในช่วงระยะทางที่กำหนด ต้องไม่เหยียบเบรก

●   การทดสอบเริ่มด้วยการกดคันเร่งเบาๆ เพื่อให้รถเคลื่อนที่ จำลองเหตุการณ์โดยการขับเข้าไปถนนแคบๆ ด้านซ้ายและขวามีการนำไพลอต และถังน้ำมัน 200 ลิตรตั้งไว้ จึงมีการหักเลี้ยวเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง ผู้ขับจินตนาการว่า หากเราขับเข้าไปในซอยแคบๆ เจอทางตัน หรือมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ไม่สามารถขับต่อไปได้ ถอยออกเองก็คงจะเหนื่อยหน่อย

●   เมื่อเปิดใช้ตัวช่วยตรงแผงคอนโซลด้านหน้า ให้เลือกกดปุ่มสัญลักษณ์อักษรตัว P ที่มีรูปกล้อง จากนั้นหน้าจอมัลติมีเดียตำแหน่งกลางคอนโซลหน้าแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว จะทำงานโดยขึ้นเมนูคำสั่งที่ขอบจอด้านขวา เลือกคำสั่งตัวช่วยกลับรถ จากนั้นหน้าจอมัลติมีเดียจะแสดงรูปรถพร้อมระยะทางไม่เกิน 50 เมตร เลือกหมุนปุ่มเกียร์ไปที่ตำแหน่ง R บริเวณคอนโซลกลาง ปล่อยมือจากพวงมาลัย ไม่เหยียบคันเร่งและเบรก สัญญาณไฟฉุกเฉินจะทำงานขณะรถโดยถอยอัตโนมัติ พร้อมการเลี้ยวของพวงมาลัยหมุนซ้าย ขวา ตามเส้นทางเดิมที่ขับเข้าไป

●   เมื่อถึงจุดสิ้นสุดในระยะทางที่กำหนด ระบบจะแสดงสัญลักษณ์รูปตัว P บนหน้าจอแสดงผลโดยอัตโนมัติ พร้อมการทำงานของเบรกมือไฟฟ้า ข้อดีของระบบคือรองรับเมนูภาษาไทย ทำให้ใช้งานง่าย และนับเป็นเทคโนโลยีที่โดดเด่นของรถรุ่นนี้

●   สถานีที่ 3 : ทดลองใช้งานระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Integration Auto Parking (IAP) ในรูปแบบช่องจอดแนวขนาน หรือจอดเทียบ จำลองสถานการณ์ว่ากำลังหาช่องจอดรถ เริ่มต้นระบบการใช้งานด้วยการเลือกกดปุ่มสัญลักษณ์อักษรตัว P ที่มีรูปกล้องเช่นเดิม จากนั้นหน้าจอมัลติมีเดียจะทำงานโดยขึ้นเมนูคำสั่งที่ขอบจอด้านขวา เลือกคำสั่งตัวช่วยจอดรถ

●   ผู้ขับใช้ความเร็วต่ำเสมือนว่ากำลังหาช่องจอดรถ แต่มีข้อแม้ว่าต้องขับให้ระยะห่างระหว่างตัวรถกับวัตถุหรือเส้นแบ่งจอดไม่มากนัก ไม่เช่นนั้นเซนเซอร์จะไม่สามารถทำงานได้ หลักการทำงานของระบบอาศัยกล้อง 360 องศาพร้อมเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ทำงานในระนาบเดียวกับตัวรถ ช่วยตรวจจับ ค้นหา และคำนวณพื้นที่อย่างแม่นยำ เมื่อเจอที่จอดหรือช่องจอด หน้าจอมัลติมีเดียจะแสดงผลเป็นรูปช่องสีเหลี่ยมพื้นผ้าสีเขียวตามรูปแบบลักษณะของช่องจอด แบบแนวตั้ง และแนวขนาน หรือจอดเข้าช่อง หรือจอดเทียบ

●   ในสถานีทดสอบนี้ให้เลือกรูปแบบการจอดแบบแนวขนานหรือแนวเทียบ ผู้ขับแตะเลือกรูปช่องจอดแนวขนาน จากนั้นแตะเลือกคำสั่งเริ่มต้นจอดรถอีกครั้งซึ่งแสดงผลบนหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณขอบจอด้านขวาเช่นเดิม ผู้ขับปล่อยมือจากพวงมาลัย ไม่เหยียบคันเร่งและเบรก ระบบเริ่มทำงานโดยการควบคุมพวงมาลัยตามทิศทางเพื่อเข้าจอด เปลี่ยนเกียร์เดินหน้า ถอยหลัง และเบรก ทุกอย่างทำงานเองแบบอัจฉริยะ เมื่อเข้าช่องจอดเรียบร้อย สัญลักษณ์รูปตัว P และระบบเบรกมือไฟฟ้าทำงานแสดงบนหน้าจอแสดงผลโดยอัตโนมัติ

●   เมื่อต้องการออกจากช่องจอด ก็ใช้วิธีเดียวกับตอนเข้าช่องจอดเช่นกัน แต่ก่อนเข้าระบบต้องเหยียบเบรกไว้เสมอ ไม่เช่นนั้นคำสั่งจากระบบจะไม่ทำงาน เมื่อระบบทำงานเมื่อด้านหน้ารถพ้นจากสิ่งกีดขวาง ระบบจะหยุดการทำงาน ผู้ขับใช้งานตามปกติ เพื่อไปต่อสถานีถัดไป

ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Integration Auto Parking

●   สถานีที่ 4 : ทดสอบระบบช่วยจอดอัตโนมัติเช่นกัน แต่ในรูปแบบแนวเฉียง หรือแนวก้างปลา วิธีการใช้งานเหมือนกับสถานีที่ 3 เพียงแต่ผู้ขับแตะเลือกช่องจอดเป็นแนวเฉียงขั้นตอนการทำงานเหมือนเดิม รูปแบบการจอดแนวเฉียงก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของระบบเทคโนโลยี และข้อดีในระบบช่วยจอดคือผู้ขับสามารถเหยียบเบรกได้ระบบไม่ตัดการทำงาน

●   สถานีที่ 5 : ทดสอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ทดสอบการใช้งานกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ผสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมติ Q4 ของโมบายอาย (EYEQ4) ช่วยควบคุมความเร็วที่กำหนดไว้ เสริมด้วยฟังก์ชั่นชะลอความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง และกลับไปเคลื่อนที่ตามความเร็วที่กำหนดไว้

●   การทดสอบจำลองเหตุการณ์ขับตามรถคันหน้า โดยเลือกตั้งค่าความเร็วที่ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นผู้ขับควบคุมพวงมาลัยตามทิศทางการเคลื่อนตัวของรถคันหน้าโดยไม่เหยียบเบรกและคันเร่ง ระบบจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อคันหน้าชะลอความเร็วจนหยุดนิ่ง รถของผู้ขับหยุดนิ่งเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรก ภายในเวลาประมาณ 3 วินาที เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ รถคันตามจะเคลื่อนที่ด้วยเช่นกัน โดยยังคงรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยเอาไว้

●   แต่ถ้าเกินเวลาจากนั้น ผู้ขับจำเป็นต้องช่วยเหยียบคันเร่งเล็กน้อยเพื่อให้รถเคลื่อนที่ตามค่าความเร็วที่ตั้งไว้ แต่ถ้าผู้ขับเหยียบเบรกเมื่อใด จะถือว่าระบบตัดการทำงาน

●   ทั้งนี้ทั้งนั้น เทคโนโลยีต่างๆ ในรถเป็นเพียงตัวช่วยเสริมความสะดวกในการขับเท่านั้น การขับที่ปลอดภัยในสถานการณ์จริง อย่างไรก็ยังคงอยู่ที่ตัวของผู้ขับซึ่งต้องอาศัยความไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง

●   หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมก็ออกเดินทางกลับกันตามอัธยาศัย แต่ถ้าสื่อท่านใดประสงค์จะเดินทางตามขบวนรถตำรวจนำก็ได้เช่นกัน ผู้ขับเลือกขับกลับตามขบวน เพราะกลัวเส้นทางการจราจรช่วงเย็นจะติดขัด จึงทำให้ต้องเร่งแซงบ้างในช่วงจังหวะขาดจากขบวน

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.gwm.co.th/car-haval-h6 หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ: GWM Thailand, Instagram: GWM Thailand, Twitter: GWM Thailand, YouTube: GWM Thailand และ Line Official: GWM Thailand ●

ขอบคุณ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

Group Test : 2021 Haval H6 Hydrid SUV