October 13, 2021
Motortrivia Team (10203 articles)

Revo Double Cab 4×4 2.8 GR Sport นั่งสบาย ลุยได้ ไม่ทิ้งงานบรรทุก

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●   ต่อเนื่องจากการขับฟอร์จูนเนอร์ GR Sport ทีมงานมอเตอร์ทริเวียก็ได้ลองขับรถในตระกูล GR Sport อีกรุ่น นั่นคือ Revo รุ่นยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ภายนอกภายในตกแต่งแบบสปอร์ต ปรับช่วงล่างใช้ช๊อกฯ Monotube เช่นกัน ราคารถ 1,266,900 บาท อุปกรณ์ตกแต่ง 32,100 บาท ราคารวม 1,299,000 บาท ถือว่าแรงสำหรับกระบะยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ลองมาดูกันว่าทำไมโตโยต้าถึงกล้าตั้งราคานี้

เติมลุคสปอร์ตให้ตัวลุย

●   ภายนอกเพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่งสีดำเงาเข้าชุดกัน ไล่ตั้งแต่กระจังหน้า กันชน กรอบสปอตไลต์ กระจกมองข้าง สปอร์ตบาร์ และกันชนท้าย รวมไปถึงล้อแม็ก 18 นิ้ว และบันไดข้าง ที่เป็นสีดำเช่นเดียวกัน ชุดแต่งจะดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับรถสีสว่างอย่างเช่นสีขาวที่ได้ทดลองขับ รูปลักษณ์โดยรวมดูลงตัวกับประเภทรถ ที่ยังคงเน้นความแกร่งเป็นหลัก แล้วเสริมความสปอร์ตเข้าไป สติ๊กเกอร์ที่ด้านข้างตัวรถกับที่ฝาท้าย ก็ช่วยแยกรุ่นให้ชัดเจนขึ้น แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบแบบไม่มีสติ๊กเกอร์มากกว่า

●   มิติตัวรถค่อนข้างใหญ่ มีความยาว 5,325 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,865 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,535/1,550 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 217 มิลลิเมตร

ภายในแทบไม่เหลือความเป็นกระบะ

●   การตกแต่งภายในห้องโดยสาร สมกับการเป็นกระบะราคาแพงที่สุดของตระกูลรีโว่ นอกเหนือจากชุดแต่ง GR Sport แล้ว สภาพแวดล้อมภายในโดยรวมก็ยังดูดีจากทั้งการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน แต่ก็แน่นอนว่าย่อมลดทอนลงจากฟอร์จูนเนอร์ GR Sport ไปพอสมควร เพราะต่างกันทั้งราคาและประเภทรถ รวมถึงวัตถุประสงค์การใช้งานและกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน

●   เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต ปีกเบาะเตี้ยกว่าฟอร์จูนเนอร์เล็กน้อย ฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า เบาะหลังหุ้มด้วยวัสดุที่ดูดีเช่นเดียวกับเบาะหน้า แต่ถ้าเลื่อนเบาะนั่งไปด้านหน้าอีกนิด เพื่อให้พนักพิงเอนได้อีกหน่อย แค่ 2-3 องศา ก็น่าจะทำให้เบาะหลังนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ อีก 2 จุดที่ขัดใจคือ กระจกมองหลังที่ยังเป็นแบบคันโยกปรับลดแสง ไม่ใช่อัตโนมัติ และจอกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานถือว่าโอเค แต่อยากให้หน้าตาของอินเตอร์เฟส สวยกว่านี้อีกนิด นอกนั้นโดยรวมทำได้ดี เหมือนนั่งอยู่ในห้องโดยสารของเอสยูวีมากกว่ากระบะยกสูง

ช่วงล่างนั่งสบายคล้ายเอสยูวี

●   ระบบกันสะเทือนปรับปรุงใหม่ ใช้ช๊อกฯ Monotube ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ร่วมกับเลย์เอาท์แบบเดิม ด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานแข็ง แหนบซ้อนวางบนเพลา ยาง 265/60 R18 ขับความเร็วต่ำหรือใช้งานในเมือง มีความนุ่มนวลนั่งสบาย ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะเป็นแบบ 4 ประตู ที่เน้นการโดยสารเป็นหลัก ไม่ต้องทำช่วงล่างแข็งๆ ไว้เผื่อการบรรทุกหนัก เพราะเมื่อเป็นรถ 4 ประตู กระบะท้ายก็จะเหลือพื้นที่บรรทุกได้น้อยลง ทำให้ขับนวลนั่งนุ่ม ใช้ความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีบางจังหวะที่รู้สึกว่าด้านหลังยืดตัวดีดแรงไปนิด โดยรวมถือว่าไม่กระด้าง มีความนุ่มนวลแต่หนักแน่น ไม่โคลงหรือวูบวาบ ขับนานๆ ไม่เหนื่อยล้า

●   ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ทำงานได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น แรงเบรกสัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่กดแป้นเบรก ควบคุมแรงเบรกได้ง่าย และระบบเบรกก็สร้างแรงดึงได้หนักแน่นมั่นใจ ไม่มีการเบรกไหลให้หวาดเสียว พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ รู้สึกว่าหนักไปนิดที่ความเร็วต่ำ ลดทอนความคล่องตัวไปพอสมควรเมื่อต้องพารถยาว 5 เมตรกว่า ลัดเลาะไปตามที่คับแคบ

แรงอย่างปลอดภัยถ้าใช้ถูกวัตถุประสงค์

●   โตโยต้า ใส่เครื่องยนต์ตัวท๊อปมาให้ เป็นบล็อกเดียวกับฟอร์จูนเนอร์ GR Sport แบบดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2,755 ซีซี กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Paddle Shift โอเวอร์ไดรฟ์อัตราทดต่ำกว่า 1.000 ที่เกียร์ 5 และ 6

●   เครื่องยนต์แรงเหลือเฟือเมื่อขับตัวเปล่า ไม่มีน้ำหนักบรรทุกด้านท้าย กดคันเร่งเบาๆ ก็วิ่งกันตัวปลิว ทำความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สบายๆ โดยไม่ต้องรีดเค้นหรือลากยาว เครื่องยนต์ยังทำงานแบบชิลๆ แต่ถ้ามีเหตุให้ต้องเบรกรุนแรงหรือหักหลบกะทันหันที่ความเร็วสูง ก็ยังไม่แน่ว่าช่วงล่างและเบรกจะยังรองรับได้หรือไม่ เพราะตัวรถยกสูงสำหรับการลุยทางวิบากมากกว่าเป็นนักวิ่งเร็ว เก็บแรงม้าแรงบิดมหาศาลไว้ไต่ทางชันหรือฉุดลากเมื่อมีน้ำหนักบรรทุกน่าจะตรงวัตถุประสงค์ของรถมากกว่า แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ตอบสนองดีจริงๆ รถสูงคันใหญ่มองได้ไกล ทำให้ขับแล้วรู้สึกว่าไม่เร็ว ทั้งที่ความเร็วจริงแตะขอบเขตที่กฎหมายกำหนดแล้ว

●   โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ Double Cab 4×4 2.8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ถ้าไม่ติดเรื่องขนาดตัวรถที่ยาว 5 เมตรกว่า และนั่งกันไม่เกิน 4-5 คน ก็สามารถใช้เป็นเอสยูวีได้เลย เพราะภายในกว้าง อุปกรณ์มาตรฐานครบ ช่วงล่างปรับมาพอเหมาะ ไม่ดีดกระด้าง นุ่มหนึบนั่งสบาย ขับลุยขับรูดได้ และยังมีกระบะท้ายให้บรรทุกได้อีกพอสมควร ถ้าได้ใช้ความสามารถของรถอย่างคุ้มค่า ราคา 1,299,000 บาท ก็ถือว่าน่าสนใจ    ●

ขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

Test Drive : 2021 Toyota Hilux Revo Double Cab 4×4 2.8 GR Sport AT