February 21, 2023
Motortrivia Team (10203 articles)

ซีดานพลังงานไฟฟ้า IONIQ 6 เปิดราคาจำหน่ายในออสเตรเลีย

เรื่อง : AREA 54

●   หลังเผยโฉมเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี 2022 ฮุนไดก็พร้อมจำหน่ายซีดานหรูขนาดกลางพลังงานไฟฟ้าเกรดพรีเมียม IONIQ 6 ในออสเตรเลีย หลังจากเริ่มทำตลาด IONIQ 5 เป็นรุ่นแรกไปในช่วงกลางปี 2021 เบื้องต้นการจำหน่ายจะแยกเป็น 3 เกรดรุ่นย่อย ประกอบด้วย Dynamiq, Techniq และ Epiq ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 74,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.72 ล้านบาท

●   IONIQ 6 เป็นรถแบบแบตเตอรี่รุ่นที่ 2 ภายใต้ซับ-แบรนด์ไอออนิคของฮุนได ตัวอยู่ในกลุ่มซีดานขนาดกลางคลาสเดียวกับ Hyundai Sonata งานออกแบบใช้เค้าโครงของรถต้นแบบ Hyundai Prophecy Concept ภายใต้ Design language ใหม่ที่เรียกว่า Sensuous Sportiness การพัฒนามีขึ้นบนแพลทฟอร์ม E-GMP เหมือนกับ IONIQ 5 ตัวรถมีความยาวรวม 4,855 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,495 มม. ความยาวฐานล้อจากหน้าถึงหลัง 2,950 มม.

●   ห้องโดยสารออกแบบในสไตล์มินิมอล อุปกรณ์มาตรฐานมีจอคู่ที่วางเรียงไว้ในกรอบเดียวกัน แยกเป็นมาตรวัดดิจิทัล TFT LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และจอทัชสกรีน TFT LCD ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมชุดไฟ Interactive Pixel Lights ที่พวงมาลัยและแผงแดชบอร์ด, ระบบอินโฟเทนเมนท์ Bluelink รุ่นล่าสุดใหม่ รองรับฟังก์ชั่นสั่งงานระยะไกล รองรับการอัพเดทแบบ OTA, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พอร์ท USB Type-A หนึ่งตำแหน่ง, พอร์ท USB Type-C สี่ตำแหน่ง ปิดท้ายชุดเครื่องเสียงพรีเมียมของ Bose

●   ในการขับ ฮุนไดออกแบบให้ผู้ขับมีการขยับอิริยาบถให้น้อยที่สุด เพื่อโฟกัสไปที่ท้องถนนอย่างเต็มที่ เช่น การดูข้อมูลสำคัญๆ ผ่านจอ Head-up display หรือการการเปลี่ยนเกียร์ซึ่งจะใช้การควบคุมผ่านก้านที่ติดตั้งเอาไว้บริเวณคอพวงมาลัย (Column-Type Shift By Wire) ช่วยให้ผู้ขับละมือห่างจากพวงมาลัยน้อยลง และเป็นธรรมชาติมากขึ้น

●   หนึ่งในไฮไลท์หลักๆ ของ IONIQ 6 คือ การใช้เทคโนโลยีกระจกมองข้างแบบดิจิทัล หรือ Digital Side Mirror (DSM) โดยในห้องโดยสารผู้ขับจะสามารถมองกระจกข้างได้ผ่านจอแสดงผลแบบ OLED ที่ติดตั้งเอาไว้ตรงบริเวณปลายแผงแดชบอร์ดทั้ง 2 ฝั่ง (DSM Integrated Dashboard) แทนที่กระจกมองข้างแบบเดิมๆ

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมีให้ครบชุด

●   อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ ระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติบนทางหลวงเจนเนอเรชั่นล่าสุด Highway Driving Assist 2 (HDA 2) ซึ่งจะทำงานเฉพาะบนไฮเวย์ตามชื่อเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ตัวระบบจะช่วยควบคุมความเร็วรถ, รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, ช่วยเปิดไฟเลี้ยวและเปลี่ยนให้อัตโนมัติตามความเหมาะสม และรักษาตำแหน่งรถให้อยู่กลางเลน

●   นอกจากนี้ยังมีระบบ Intelligent Front-lighting System ควบคุมไฟหน้าอัจฉริยะ, ระบบ Smart Cruise Control with Stop & Go แปรผันความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถและเคลื่อนตัวตามสภาพการจราจร ทำงานร่วมกับระบบ Navigation-based Smart Cruise Control อาศัยข้อมูลจากระบบนำทาง ควบคุมระดับความเร็วให้เหมาะสม เช่น ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง หรือก่อนถึงจุดออกจากไฮเวย์ เสริมด้วยระบบ Intelligent Speed Limit Assist ตรวจสอบป้ายจราจรและจำกัดความเร็วสูงสุดตามกฎหมาย

●   ต่อด้วยระบบ Forward Collision-Avoidance Assist 2 แจ้งเตือนในกรณีที่อาจเกิดการชนทางด้านหน้า, ระบบ Blind Spot Collision-Avoidance Assist ช่วยตรวจสอบรถในจุดอับสายตาและหลีกเลี่ยงการชน, ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist ช่วยหลีกเลี่ยงการชนทางด้านหลังขณะถอย, ระบบ Reverse Parking Collision-Avoidance Assist ช่วยป้องกันการชนคนเดินถนนขณะถอยออก

●   ปิดท้ายฟังก์ชั่นแสดงผลรอบคัน Surround view monitor บนจอทัชสกรีน, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร และเพิ่มความสะดวกด้วยระบบ Remote Smart Parking Assist 2 (RSPA 2) สั่งการให้รถเข้าจอดอัตโนมัติทุกรูปแบบด้วยรีโมท ไม่ว่าจะเป็นเทียบฟุทพาธ, ถอยหลังเข้าซองทั้งแบบตรงและเฉียง ฯลฯ โดยที่ผู้ขับไม่จำเป็นต้องอยู่บนรถ

ระบบขับเคลื่อนแยกเป็น Standard Range และ Long Range

●   ระบบขับเคลื่อนของ IONIQ 6 มีทั้งหมด 3 ทางเลือก ประกอบด้วยรุ่นพื้นฐาน Standard Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่แบตเตอรี่แพคความจุ 53 กิโลวัทท์-ชม. กำลังสูงสุด 151 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 8.8 วินาที

●   ขยับมาที่รุ่นกลาง ซึ่งยังคงมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวหมุนล้อคู่หลัง จะมีการเพิ่มความจุแบตเตอรี่แพคเป็น 77.4 กิโลวัทท์-ชม. (Long Range) กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 228 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. เท่ากัน อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ลดลงเหลือ 7.4 วินาที

●   ส่วนรุ่นท๊อป ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ HTRAC All-Wheel-Drive แบตเตอรี่แพคความจุ 77.4 กิโลวัทท์-ชม. กำลังสูงสุดผลิตได้ 325 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 61.6 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที ทุกรุ่นจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 185 กม./ชม.

●   ทั้งรุ่น Standard Range และ Long Range ใช้แบตเตอรี่แพคชนิด นิคเกิล-โคบอลท์-แมงกานีส ลิเธียม (Li-NMC) รองรับการชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงตั้งแต่ 400 จนถึง 800 โวลท์ โหมดชาร์จเร็วจาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที รุ่นขับหลัง Long Range ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 610 กม. ส่วนรุ่นท๊อปซึ่งมีพละกำลังมากกว่า ระยะทางจะลดลงเหลือ 519 กม. โดยประมาณ จากการทดสอบภายใต้มาตรฐาน WLTP ของยุโรป

●   IONIQ 6 Dynamiq ราคาเริ่มต้นที่ 74,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.72 ล้านบาท, รุ่นกลางเกรด Techniq ราคา 83,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.94 ล้านบาท และรุ่นท๊อป Epiq AWD ราคา 88,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2.1 ล้านบาทครับ         ●

2023 IONIQ 6 (Australia)