April 20, 2023
Motortrivia Team (10205 articles)

2024 Polestar 4 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าทรงสวย ไร้กระจกบานหลัง

เรื่อง : AREA 54

●   โพลสตาร์ ซับ-แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรูของวอลโว่ เผยโฉมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นใหม่ Polestar 4 ในงาน 2023 Shanghai Auto Show ตัวรถนับเป็นรถ SUV ไฟฟ้าเกรดไฮเอนด์รุ่นที่ 2 ของแบรนด์โพลสตาร์ ต่อจากครอสโอเวอร์ SUV ขนาดกลาง Polestar 3 ที่เปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา

●   แม้ตำแหน่งทางกาารตลาดจะอยู่ในกลุ่มรถครอสโอเวอร์ SUV ขนาดคอมแพคท์ แต่งานออกแบบของ Polestar 4 นั้นจะผสมปนเปกันระหว่างรถซีดาน, คูเป้ และรถ SUV โดยโพลสคาร์เองนั้นให้คำจำกัดความการออกแบบของรถรุ่นนี้ว่า “SUV คูเป้สายพันธุ์ใหม่” (New breed of SUV Coupe) แต่จะว่าไปแล้ว เทรนด์การออกแบบในลักษณะนี้ไม่ใช่ของใหม่เสียทีเดียว เห็นได้งานออกแบบรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ๆ ของคู่แข่งอย่าง Toyota Crown เจนเนอเรชั่นที่ 16 หรือ KIA EV6 เป็นต้น

●   ในขณะที่ Polestar 3 ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม Volvo Scalable Product Architecture (SPA) ที่วอลโว่ออกแบบมาเพื่อใช้ผลิตรถลักชัวรี่ ทว่า Polestar 4 จะใช้แพลทฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) ของ Geely ในการผลิต ปัจจุบันแพลทฟอร์มโมดูลาร์นี้ใช้ผลิตรถในเครือหลายรุ่น อาทิ Smart #1 หรือ Zeekr X เป็นต้น

มาแบบล้ำๆ ไร้กระจกบานหลัง

●   Polestar 4 มาแบบเก๋สุดๆ ด้วยดีไซน์แบบไร้กระจกบานหลัง ใช้กล้องมองหลังแบบดิจิทัลแสดงผลภูมิทัศน์ด้านหลังแทนที่ไปเลย จะว่าไปก็สมเหตุผลดี เพราะโดยปกติเราๆ ก็ขับรถกันโดยมองสถานการณ์ด้านหลังจากกระจกมองหลังแบบพื้นฐานกันอยู่แล้ว… หากไม่นับรถซูเปอร์คาร์ Polestar 4 จะนับเป็นรถ SUV รุ่นแรกในโลกที่ไม่มีกระจกบานหลัง

●   ห้องโดยสารของ Polestar 4 ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่ เช่น พลาสติกที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% อย่าง PET (Polyethylene Terephthalate), ผ้าสังเคราะห์ MicroTech ที่ผลิตขึ้นมาให้ความใกล้เคียงกับผ้าคอทตอน หรือพรมปูพื้นที่ใช้ ECONYL ซึ่งเป็นไนลอนแบบใหม่ที่ผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล เป็นต้น

●   เลย์เอาท์ห้องโดยสารเป็นแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง อุปกรณ์มาตรฐานหลักๆ มี จอ Head-up Display ขนาด 14.7 นิ้ว, มาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 15.4 นิ้ว รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS (AAOS) ของกูเกิล จัดวางแบบลอยตัว และชุดระบบเสียงพรีเมียมของ Harman Kardon พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

●   ระบบขับเคลื่อนมีรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 272 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 34.9 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคความจุ 102 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 600 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป

●   ต่อด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive กำลังรวมทั้งระบบ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ถึง 69.9 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคความจุเท่ากัน 102 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 560 กม. ตัวระบบขับเคลื่อนมาพร้อมฟังก์ชั่นตัดการเชื่อมต่อคลัทช์อัตโนมัติ โดยในขณะที่ไม่ต้องการยึดเกาะเป็นพิเศษ มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าจะหยุดการทำงานและใช้มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว เพื่อลดการใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

●   ทั้งคู่มากับฟังก์ชั่น VtoL หรือ Vehicle to Load สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ แบตเตอรี่แพครองรับการชาร์จด้วยไฟ AC สูงสุด 22 กิโลวัทท์ ส่วนการชาร์จเร็วด้วยไฟ DC ตามสถานีชาร์จสาธารณะ รองรับแรงดันไฟสูงสุด 200 กิโลวัทท์

●   นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นจะมากับชุดระบบความปลอดภัยที่ใช้บริการระบบช่วยขับ SuperVision Advanced Driver Assistance System ของ Mobileye ประกอบด้วยเรดาห์ 1 ตัว, กล้องรอบคัน 12 ตัว และเซ็นเซอร์ อัลตร้าโซนิค อีก 12 ตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีออปชั่นระบบช่วยขับ Pilot Pack ให้ติดตั้งเพิ่มเติม อาทิ ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อผู้ขับตบไฟเลี้ยว เป็นต้น

●   โพลสตาร์จะใช้โรงงานของจีลีในเมืองหางโจวเป็นฐานการผลิต Polestar 4 กำหนดการลงโชว์รูมอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้ ราคาจำหน่ายในยุโรปเริ่มต้นที่ประมาณ 60,000 ยูโร หรือประมาณ 2.3 ล้านบาทครับ         ●

2024 Polestar 4