July 6, 2023
Motortrivia Team (10210 articles)

Hyundai เปิดตัว Creta Black Edition จัดรุ่นย่อยใหม่ปี 2023

motortrivia

●   หลังเปิดตัว บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ฮุนไดก็แนะนำรถอเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ Hyundai Creta อีกครั้งในฐานะรถใหม่จากบริษัทแม่โดยตรง พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษ Hyundai Creta Black Edition จำกัดจำนวนการผลิตเพียง 50 คัน

●   ฮุนไดเริ่มทำตลาด Hyundai Creta ในบ้านเราเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนมีนาคม 2565 และมอเตอร์ทริเวียได้มีโอกาสทดลองขับแบบกลุ่มไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังลองวิ่งเป็นระยะทางรวมกว่า 500 กิโลเมตร ก็พบว่ารถรุ่นนี้มีดีอยู่ในตัว และเป็นหนึ่งในรถที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งในกลุ่มเดียวกัน

Hyundai Creta Black Edition

●   Creta Black Edition นับเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบตกแต่งแบบเฉพาะตัว จำกัดการผลิตเพียง 50 คัน ตัวรถมากับโทนสีดำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าสีดำ พร้อมไฟ DRL สำหรับวิ่งกลางวันแบบ hidden-type, ตราสัญลักษณ์บนกระจังหน้าเป็นสีโมโนโครม, ช่องลมกันชนหน้าและซี่กระจังหน้าสีดำ พร้อมราวหลังคาสีดำ

●   ด้านข้างเสริมความเข้มด้วยคิ้วหลังคา C-pillar, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำแบบเฉพาะรุ่น, สีตัวถังพิเศษ Midnight Black Pearl ปิดท้ายด้วยการอัพเกรดชุดเครื่องเสียงด้วยการติดตั้งเครื่องเสียงพรีเมียมจาก BOSE มาให้เป็นพิเศษด้วย

รุ่นพื้นฐานปรับเกรดรุ่นย่อยใหม่ จาก 2 เป็น 4 รุ่น

●   Creta เป็นรถครอสโอเวอร์ SUV ขนาดซับคอมแพคท์ที่ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม K2 ของฮุนได-เกีย รุ่นที่จำหน่ายนับเป็นรุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 2 ชื่อรุ่นสื่อถึงชื่อเกาะ Crete (ครีท) ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะกรีกครีทของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตัวรถนับเป็นรถรุ่นแรกที่ประกอบจากโรงงานประกอบรถยนต์ HMMI หรือ Hyundai Motor Manufacturing Indonesia ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย

●   งานออกแบบโดยรวมยังคงเดิม ตัวรถมากับกระจังหน้า Parametric Jewel Radiator Grille แบบโครเมียมรมดำ, ไฟหน้า LED มัลติรีเฟลคเตอร์พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ, ไฟ DRL สำหรับวิ่งกลางวันออกแบบให้กลมกลืนไปกับแผงกระจังหน้า และจะสังเกตุเห็นได้เมื่อเปิดทำงาน, ไฟท้าย LED ทรงบูมเมอแรง, ไฟเบรคและไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED, ราวหลังคา, รุ่นพื้นฐานติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนรุ่นท๊อปพิเศษกว่าด้วยล้ออัลลอยแบบ Diamond cut ขนาด 17 นิ้ว

●   ทุกรุ่นความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,315 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,630 มม. ระยะฐานล้อ 2,610 มม. น้ำหนักประมาณ 1,175 – 1,245 กก. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย, ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม, ระบบเบรคแบบดิสค์ทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายอากาศ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วทุกรุ่น จับคู่ยาง 215/60

●   ห้องโดยสารมีมาตรวัดฟูลดิจิทัล แสดงผลด้วยจอ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 4 รูปแบบตามโหมดการขับ, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple Car Display, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V หนึ่งตำแหน่ง, พอร์ท USB สามตำแหน่ง, เบรคมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto hold, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ชุดลำโพง 4 หรือ 6 ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย และหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

●   ตัวรถใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ตระกูล Smartstream ความจุ 1.5 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPI ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT (ฮุนไดใช้ชื่อทางการค้าว่า IVT หรือ Intelligent Variable Transmission) ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. โหมดในการขับเลือกได้ 4 แบบระหว่าง Eco, Comfort, Sport หรือ Smart พร้อมปุ่มปรับการขับแบบเฉพาะสภาพผิวถนน เช่น หิมะ, ทราย หรือโคลน รองรับเชื้อเพลิง E10 มาตรฐานการคายมลพิษในระดับ Euro 4

●   ชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับในกลุ่ม ADAS (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) หรือ Advanced Driver Assistance System ซึ่งฮุนไดใช้ชื่อทางการค้าว่า Hyundai SmartSense ประกอบด้วย ระบบ Forward Collision Avoidance Assist เตือนและหลีกเลี่ยงการปะทะทางด้านหน้าและเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบ Blind-spot Collision Avoidance Assist เตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน, ระบบ Lane Following Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบ Rear View Monitor กล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด

●   ต่อด้วยระบบ Rear Cross Traffic Avoidance Assist เตือนและเบรคอัตโนมัติขณะถอยรถ, ระบบ High Beam Assist ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Driver Attention Warning ช่วยเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับอาจมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับ, ระบบ Safe Exit Warning เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งผ่านด้านข้าง และระบบ Rear Occupant Alert แจ้งเตือนให้ตรวจเช็คผู้โดยสารด้านหลัง

●   ทุกรุ่นมีมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานอาทิ ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเบรค ABS, ระบบเสริมแรงเบรค BAS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC, เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง, ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ, จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

คุณวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

Start Your Smart Life

●   นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ และเป็นเพื่อนที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว บริษัทได้เปิดตัวสตาร์เกเซอร์ รถยนต์เอ็มพีวี 6 ที่นั่งคันแรกในกลุ่ม ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบอันมีเอกลักษณ์ ทั้งยังมีห้องโดยสารกว้างขวาง และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง”

●   “ในวันนี้ บริษัทเดินหน้าเปิดตัว เครต้า แบล็ก อิดิชั่น รุ่นใหม่ พร้อมเครต้าในรุ่นสีทูโทน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ซึ่งผ่านการปรับปรุงเพิ่มอุปกรณ์และความสดใหม่ ทั้งยังมีราคาที่น่าเป็นเจ้าของ เพื่อสานต่อความสำเร็จของเครต้า ที่เปิดตัวไปได้ไม่นานและได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จากลูกค้าในหลายประเทศรวมถึงภูมิภาคเอเชีย ด้วยดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์, สมรรถนะการขับขี่, ทางเลือกในการตกแต่ง และประโยชน์ใช้สอย”

●   “ฮุนไดพร้อมเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ส่วนเครต้ารุ่นใหม่นั้น จะมาเสริมทัพทางเลือกผลิตภัณฑ์ของเราให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้มากกว่าที่เคย ด้วยแท็กไลน์ล่าสุด “สตาร์ท ให้ชีวิตสมาร์ท” [Start Your Smart Life] บริษัทต้องการนำเสนอรถยนต์ฮุนไดหลากหลายรุ่น ที่มีคุณลักษณะเพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ, ประโยชน์ใช้สอย, ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้”

●   ฮุนไดระบุว่า ในนาม ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) บริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการในไทยเข้าสู่เดือนที่ 3 โดยยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า บริษัทฯ พร้อมให้การดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยมาตรฐานที่สูงตามความคาด หวัง ทั้งในด้านของบริการฝ่ายขายและหลังการขาย

●   นอกจากนั้น ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ยังมีจุดประสงค์ที่จะสร้างแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละราย หลังบริษัทเดินหน้าการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจการ จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ สู่การเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮุนไดมีชื่อเสียงในตลาดอื่นรวมถึงประเทศไทย

ราคาจำหน่าย

●   ฮุนไดจะแยกการจำหน่าย Hyundai Creta ใหม่ จากเดิม 2 รุ่นย่อยเพิ่มเป็น 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่นพื้นฐานเกรด Trend, Style, Style Plus และรุ่นท๊อปเกรด Smart สีภายนอกเลือกได้ระหว่าง ขาว Optic White (เฉพาะรุ่น Trend), เงิน Magnetic Silver Metallic จับคู่หลังคาดำ, แดง Dragon Red Pearl จับคู่หลังคาดำ หรือขาว Creamy White Pearl จับคู่หลังคาดำ ส่วนรุ่นพิเศษ Hyundai Creta Black Edition จะผลิตแบบจำกัดจำนวนเพียง 50 คันเท่านั้น

  • Creta Trend ราคา 789,000 บาท
  • Creta Style ราคา 849,000 บาท
  • Creta Style Plus ราคา 899,000 บาท
  • Creta Smart ราคา 899,000 บาท
  • Creta Black Edition ราคา 959,000 บาท

●   แคมเปญพิเศษ : ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี ค่าแรงเช็คระยะ 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด), ฟรีการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.49% (ภายใต้เงื่อนไข เงินดาวน์ 25% และผ่อนชำระเป็นเวลา 48 เดือน) หรือเงินดาวน์เริ่มต้นที่ 74,999 บาท (ภายใต้เงื่อนไข ผ่อนชำระเป็นเวลา 84 เดือน)

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hyundai Creta ใหม่ เชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.hyundai.com/th และสามารถจองรถผ่านบริการออนไลน์ Cl!ck to Buy ได้ที่ URL : buyonline.hyundai.com