March 20, 2024
Motortrivia Team (10205 articles)

Isuzu เผยแผนผลิตรถกรีน พร้อมเผยโฉม D-MAX EV / MHEV

motortrivia

●   อีซูซุ ประเทศไทย ประกาศแถลงนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ ผ่าน โซลูชั่นส์หลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Multi-pathways to Carbon Neutrality ทั้งด้านผลิตภัณฑ์, การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการจัดการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ

●   ภายในงานอีซูซุได้เผยโฉมรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นสำคัญ 4 รุ่น ประกอบด้วย Isuzu D-Max EV Concept รถปิคอัพต้นแบบพลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่, Isuzu D-Max Hi-lander MHEV รถปิคอัพพลังไมลด์ ไฮบริด, Isuzu Elf EV รถบรรทุกไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ และ Isuzu Elf FCEV รถบรรทุกหนักพลัง ไฮโดรเจน ฟิว เซลล์

มร. ทาคาชิ โอไดระ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานบริหารรับผิดชอบด้านวิศวกรรม และกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น

●   มร. ทาคาชิ โอไดระ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานบริหารรับผิดชอบด้านวิศวกรรม และกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “อีซูซุได้ประกาศเป้าหมายว่าจะสร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก (Creating the Movement of the Earth) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยตระหนักว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอยู่ในยุคการเปลี่ยนผ่านในรอบศตวรรษ รถเพื่อการพาณิชย์ก็ต้องเร่งพัฒนาด้วยเช่นกัน เรากำลังเผชิญกับความท้าทายทางสังคมที่ต้องเอาชนะ และเพิ่มการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ สำหรับผู้คนและสินค้าทั้งหมดในโลก อาทิ ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องบรรลุเป้าหมายสังคมความเป็นกลางทางคาร์บอน ความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรเป็นศูนย์ การจัดการปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต”

●   “อีซูซุมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับลูกค้าของเรามาโดยตลอด ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ และรถเครื่องยนต์ดีเซลหลากชนิด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง การให้บริการการบริหารจัดการระบบปฏิบัติการ และบริการหลังการขายต่างๆ ที่ถือเป็นคุณค่าผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราได้นิยาม “คุณค่าผลิตภัณฑ์” ไว้ 3 ประการ”

คุณค่าผลิตภัณฑ์ 3 ประการ

●   1. ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendliness) – ผลิตภัณฑ์อีซูซุต้องสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีประสิทธิภาพสูงให้แก่ลูกค้าทั่วโลกของเราเสมอมา ต่อจากนี้ไปเราจะต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ่านการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

●   2. ความเป็นมิตรกับผู้ใช้รถ (User Friendliness) – คุณค่าของ “การตระหนักถึงสังคมที่สามารถขนส่งผู้คนและสินค้าได้อย่างปลอดภัย มั่นคง และมีประสิทธิภาพ” เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ เราได้นำเสนอบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย มั่นคง และคุ้มค่าสมเหตุสมผลให้กับลูกค้ามาโดยตลอด และเราจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้รถยิ่งขึ้นต่อไป ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ร่วมกับลูกค้า

●   3.ความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่องในการดำเนินงาน (Reliable and Continuous Operation) – เราได้นำเสนอรถเพื่อการพาณิชย์ที่แข็งแกร่งทนทานและเชื่อถือได้ รวมทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของลูกค้าตลอดมา ต่อจากนี้ไปเราจะยังสนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงทางเศรษฐกิจของทุกภาคส่วน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถจะทำให้การดำเนินงานของลูกค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อสังคมโดยรวม

เตรียมผลิตปิคอัพไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปยังโซนยุโรปในปี 2025

●   มร. ทาคาชิ โอไดระ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้อีซูซุกำลังเดินหน้าด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์แบบครบวงจร เพื่อนำเสนอโซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Multi-pathways to Carbon Neutrality) เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะด้านที่แตกต่างกันของลูกค้าทั่วโลก ขณะนี้ “แผนงานด้านสิ่งแวดล้อมปี 2030” ของเราซึ่งมีเป้าหมายที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รถปิกอัพ และรถบัสโดยสาร ภายในปี 2573 กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น”

●   “สำหรับประเทศไทย เราวางแผนที่จะผลิตรถปิกอัพไฟฟ้าเพื่อส่งออกซึ่งจะเริ่มจากประเทศในโซนยุโรปในปี 2025 และจะทยอยเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ตามกฎระเบียบและความคืบหน้าด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของแต่ละประเทศ โดยอีซูซุจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท ในด้านการวิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2030 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) อีกทั้งการสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “The EARTH Lab” ภายในปี 2569″

●   “เรามั่นใจว่าการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบัน และการลงทุนเชิงรุกในครั้งนี้จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ได้อย่างมั่นคงในระยะสั้นถึงระยะกลาง และจะเป็นการเสริมสร้างรากฐานสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของเรา อีซูซุจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของโลกโดย สร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก ด้วยจุดแข็งของเราและก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน”

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

นโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของอีซูซุในประเทศไทย

●   มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก มีการผลิตรถยนต์ต่อปีมากถึง 1.8 – 1.9 ล้านคัน สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engines : ICE) เกือบทั้งหมด ในปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 9.73 แสนล้านบาท ซึ่งรถปิกอัพและอนุพันธ์ในฐานะโปรดักส์แชมเปี้ยน เป็นรถที่ส่งออกมากที่สุดถึง 786,383 คัน คิดเป็น 70% จากรถทุกประเภท”

●   “นับจากนี้ไป อีซูซุในฐานะผู้นำรถเพื่อการพาณิชย์ของประเทศไทยพร้อมเดินหน้าสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยในการมุ่งสู่สังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Society) ในปี 2050 (พ.ศ. 2593) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 (พ.ศ. 2608) ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน ด้วยแนวคิดโซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Multi-pathways to Carbon Neutrality)”

●   “การนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อน และแตกต่างจากรถยนต์นั่ง ซึ่งเราต้องพิจารณาถึงการใช้งานเชิงพาณิชย์และส่วนตัว เราจึงพัฒนารถที่มีโซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Multi-pathways to Carbon Neutrality) ไม่ใช่เพียงแต่รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) หรือรถไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV) เท่านั้น แต่หมายรวมถึงพลังงานอื่นๆ เช่น การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Fuel) กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน อาทิ น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่จากพืชใช้แล้ว (HVO – Hydrotreated Vegetable Oil) และ น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (e-Fuel) เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้รถอีซูซุด้วย”

4 รุ่นรถไฮไลท์ในงาน

●   (1) Isuzu D-MAX EV Concept – รถต้นแบบปิคอัพพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ใช้แพลทฟอร์มเดียวกันกับเวอร์ชั่นดีเซล ตัวถังเป็นแบบ 4 ประตู พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ชุดระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมเฟืองท้ายใหม่ eAxle ช่วงล่างด้านหลังออกแบบใหม่หมดแบบ De-Dion

●   ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ eAxle ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time ด้านหน้ากำลังสูงสุดประมาณ 53 แรงม้า ด้านหลังประมาณ 120 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบประมาณ 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุดประมาณ 33 กก.-ม. ความเร็วสูงสุดมากกว่า 130 กม./ชม. น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1 ตัน ประสิทธิภาพในการลากจูง 3.5 ตัน แบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน ความจุ 66.9 กิโลวัทท์-ชั่วโมง

●   อีซูซุวางแผนจะเริ่มผลิต Isuzu D-Max EV ในไทยเพื่อส่งออกไปยังโซนยุโรปภายในปี 2025 (พ.ศ. 2568) เริ่มที่นอร์เวย์เป็นที่แรก จากนั้นจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, ไทย รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านสถานีชาร์จ

●   (2) Isuzu D-MAX Hi-lander MHEV – ตัวถังแบบ 4 ประตู ยกสูง ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ ดีเซล ไมลด์ ไฮบริด (Mild Hybrid : MHEV) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 เทอร์โบชาร์จ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคเทคโนโลยี 48 โวลท์ ทำหน้าที่ช่วยเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์ ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์ และช่วยลดการคาย CO2

●   D-MAX Hi-lander MHEV นับเป็นรถทดลองประกอบ เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้าในการลดการปล่อย CO2 ซึ่งอีซูซุคาดว่ารถ MHEV อาจจะเหมาะกับความต้องการของลูกค้าบางกลุ่ม และ ณ เวลานี้อีซูซุกำลังสำรวจตลาดก่อนที่จะวางกรอบเวลาในการจำหน่ายต่อไป

●   (3) Isuzu Elf EV – รถพาณิชย์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Isuzu Modular Architecture and Component Standard : I-MACS สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ในรูปแบบต่างๆ พร้อมการออกแบบ Center Drive System EV ซึ่งเป็นการออกแบบรถบรรทุกไฟฟ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากต้องคำนึงถึงความสมดุลของการกระจายน้ำหนักรถ, ระยะช่วงล้อหลัง และรัศมีวงเลี้ยวที่เหมาะสม เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานบรรทุกเบา, วิ่งระยะสั้น, อาศัยความคล่องตัว

●   เบื้องต้น ตัวรถใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล คันจริงเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนมีนาคม 2566 ไฮไลท์สำคัญคือ อีซูซุกำลังพัฒนาเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping System) โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพื่อลดระยะเวลาในการจอดเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และยังสามารถเลือกติดตั้งแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 2 – 5 แพค เพื่อให้เหมาะกับระยะทางการขนส่ง

●   ทั้งนี้ ในช่วงเปิดตัวเมื่อต้นปีที่แล้ว อีซูซุให้ข้อมูลว่า Elf EV จะสามารถเลือกรุ่นย่อยที่เหมาะกับงานได้ โดย Elf รุ่น Standard cab จะมากับแบตเตอรี่แพค 20 กิโลวัทท์-ชม. x2 ความจุรวม 40 กิโลวัทท์-ชม. รุ่น High cab ทั้งแบบฐานล้อปกติ และฐานล้อยาว จะเพิ่มเป็น 3 แพค ความจุรวม 60 กิโลวัทท์-ชม. ปิดท้ายด้วยรุ่น Wide cab ฐานล้อยาว ใช้แบตเตอรี่ทั้งหมด 5 แพค ความจุรวม 100 กิโลวัทท์-ชม.

●   ส่วนข้อมูลจากอีซูซุ ประเทศไทย ระบุว่า ระบบขับเคลื่อนของ Isuzu Elf EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 4×2 ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุดประมาณ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุดประมาณ 37.7 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน ความจุ 100 กิโลวัทท์-ชม. น้ำหนักรถเปล่า 3.2 ตัน น้ำหนักรถรวมบรรทุกสูงสุด 7.5 ตัน

●   ด้านการชาร์จ ตัวรถรองรับพอร์ทชาร์จมาตรฐาน ChadeMo โดยปัจจุบันอีซูซุกำลังเตรียมพัฒนามาตรฐานพอร์ทชาร์จที่เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เช่น หัวชาร์จแบบ CCS2 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อให้รองรับการใช้งานในยุโรป เป็นต้น

●   (4) Isuzu Elf FCEV – รถบรรทุกพลังไฮโดรเจน ฟิว เซลล์ ผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่างอีซูซุ และพันธมิตรทางธุรกิจ ภายใต้โครงการ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) ตัวรถเหมาะกับการบรรทุกหนัก สามารถเติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็ว (ไฮโดรเจน) และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ นับเป็นการเพิ่มตัวเลือกรถบรรทุกในตลาดเพื่อให้เหมาะสมกับการก้าวเข้าสู่ยุคความเป็นกลางทางคาร์บอน

●   ทั้งนี้ Elf FCEV จำนวน 90 คัน ได้มีการวิ่งทดสอบในญี่ปุ่นแล้วแบบใช้งานจริง ทั้งการใช้งานในเมือง และประเภทต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2023 ที่โตเกียว, ฟุกุชิมะ และฟุกุโอกะ ส่วนในประเทศไทย Elf FCEV ได้มีการวิ่งทดสอบแล้ว 4 คัน ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2566

กิจกรรมสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน

●   อีซูซุได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในประเทศ และเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกเหมือนเช่นที่ผ่านมา

●   การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาโครงการทดสอบรถยนต์พลังงานสะอาดเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ระหว่าง ตรีเพชร อีซูซุ เซลส์, มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ ปตท. มีขึ้นเพื่อทดสอบรถบรรทุกไฟฟ้าโดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ผ่านระบบบริหารจัดการพลังงาน, ระบบชาร์จ และ EV Eco System ของ ปตท. รวมถึงโครงการลดคาร์บอนฟุทพริ้นท์สำหรับรถดีเซล โดยการทดสอบใช้ HVO น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่จากพืชใช้แล้ว

●   นอกจากนี้ยังร่วมกับมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ศึกษาวิจัยน้ำมัน e-fuel ซึ่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เพื่อช่วยลดการปล่อย CO2 และสามารถใช้งานในเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มวิ่งทดสอบการใช้น้ำมัน HVO ภายใต้สภาพการใช้งานจริงร่วมกับบริษัทชั้นนำของประเทศไทยตั้งแต่กลางปี 2567 นี้เป็นต้นไป

●   อีซูซุเชื่อว่า โครงการนี้จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้โดยสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน รวมถึงเครือข่ายการคมนาคมไทยน้อยที่สุด

●   สำหรับกิจกรรมการตลาดและการส่งเสริมการขายภายใต้แนวคิด “Isuzu Life Cycle Solutions” อีซูซุจะนำเสนอโซลูชั่นส์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการจัดอบรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้งานอย่างคุ้มค่า, ประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนโดยรวม พร้อมกับการปรับปรุงสำนักงานให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่โรงงานผลิต และขยายการติดตั้งในโชว์รูมทั่วประเทศ ยังผลให้มีการลดการปล่อย CO2 แล้วกว่า 1,000 ตัน และลดอัตราการใช้ไฟฟ้าได้กว่า 50% ด้วย

●   แผนงานอื่นๆ ยังมีโครงการปลูกจิตสำนึกพนักงานในองค์กร เช่น โครงการแยกขยะ และโครงการปลูกป่า เป็นต้น และในปีนี้ อีซูซุจะทำการการยกระดับโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ที่กลุ่มอีซูซุร่วมมือกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 11 ปี โดยการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาปรับใช้ในโครงการด้วย

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆ ของอีซูซุในประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.isuzu-tis.com หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/ALLNEWISUZUDMAX หรือแอด LINE: @isuzuthai หรือติดต่อ isuzu Hotline โทร : 02-118-0777 ●

Report : 2024 Isuzu Multi-pathways to Carbon Neutrality