April 29, 2024
Motortrivia Team (10307 articles)

2025 Lamborghini Urus SE เวอร์ชั่น PHEV มาตามสัญญา

เรื่อง : AREA 54

●   หากคุณผู้อ่านยังจำกันได้ ในช่วงที่แลมบอร์กินีเปิดตัวครอสโอเวอร์ SUV ขนาดกลาง Lamborghini Urus ในปี 2019 พวกเขาเคยระบุว่า Urus จะมีเวอร์ชั่นกรีนที่ใช้ระบบขับเคลื่อน plug-in hybrid ตามมาในอนาคต… ผ่านไป 5 ปี หลังจากที่แวะเพิ่มพลังให้กับรุ่น S และ Performante แลมบอร์กินีก็เผยโฉม Lamborghini Urus SE หรือเวอร์ชั่น PHEV ออกมา โดยรถรุ่นนี้จะนับเป็นรถ PHEV รุ่นที่ 2 ต่อจาก Lamborghini Revuelto

●   พื้นฐานทางวิศวกรรมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ… ตัวรถยังคงใช้แพลทฟอร์ม Volkswagen Group MLB ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มเดียวกับ Audi Q7, Bentley Bentayga, Porsche Cayenne และ Volkswagen Touareg การปรับปรุงภาพลักษณ์รอบๆ คันมีอาทิ ชุดไฟหน้า LED ใหม่, ฝากระโปรงหน้าใหม่, กระจังหน้าใหม่, ฝากระโปรงหลังใหม่ และล้อลายใหม่ขนาด 23 นิ้ว พร้อมยาง Pirelli P Zero

●   ห้องโดยสารมีพวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน พร้อมระบบลดการสั่นสะเทือนของพวงมาลัย, จอทัชสกรีนขยายขนาดเป็น 12.3 นิ้ว, ชุดระบบแบบมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ LIS หรือ Lamborghini Infotainment System รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay, ระบบปลดล็อคประตูรถแบบสัมผัสทั้งประตูและกระโปรงหลัง, เบาะปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ และการใช้วัสดุตกแต่งตามจุดต่างๆ แบบใหม่

●   ชุดระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ออกแบบให้ควบรวมอยู่ในชุดเกียร์ กำลังรวมทั้งระบบผลิตได้ 800 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 96.8 กก.-ม. ความแรงเหนือกว่ารุ่นพื้นฐานพลัง ICE เพียวๆ ถึง +150 แรงม้า และยังแรงกว่ารุ่น S และ Performante ราว +134 แรงม้าด้วย นั่นทำให้ Urus SE PHEV กลายเป็นรุ่นย่อยใหม่ที่ทรงพลังที่สุดในสายการผลิต Urus ส่วนตัวเลขอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. อยู่ที่ 3.4 วินาที

●   การเก็บประจุไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่แพคความจุ 25.9 กิโลวัทท์-ชม. โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 59 กม. โหมดไฮบริดลดปริมาณการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน

●   หนึ่งในไฮไลท์ใหม่คือ การใช้ชุดคลัทช์ใหม่แบบ Multi-plate ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Electronically controlled multi-plate clutch ซึ่งมีใช้งานแล้วในแบรนด์อาวดี้) ทำหน้าที่กระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้า/หลัง ทำงานร่วมกับระบบจำลองเฟืองท้ายแบบ Limited-slip differential (LSD) เพื่อสร้างอาการ Oversteer (ท้ายกวาด) ได้ตามต้องการ… เมื่อเทียบกับการใช้งาน LSD แบบกลไก ชุดระบบใหม่นี้จะเบากว่าถึง -20 กก.

●   การเปิดตัวอย่างเป็นทางการมีขึ้นในงาน 2024 Beijing Motor show ที่ประเทศจีน ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 258,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.56 ล้านบาท กำหนดการส่งมอบรถลอทแรกอยู่ในช่วงต้นปี 2025 บ้านเราก็น่าจะมาราวๆ ช่วงกลางปีครับ… รถไฮเอนด์บ้านเรามาไวเป็นปกติจนสายรถบ้านอิจฉา         ●

2025 Lamborghini Urus SE