BMW วางแผนงานไฟฟ้าในอนาคต i3 และ i8 อาจไม่มีการพัฒนาเจนเนอเรชั่นต่อไป

เรื่อง : AREA 54

●   แม้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง BMW i3 และ BMW i8 จะถูกนับว่าเป็นรุ่นประวัติศาสตร์ที่เปิดศักราชยุคกรีนของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดซับ-แบรนด์ “i” อย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุดมีความเป็นได้ว่าทั้งคู่จะไม่มีรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 2 เป็นตัวตายตัวแทนลงทำตลาดในอนาคต

●   Stefan Juraschek หัวหน้าทีมพัฒนาชุดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู ให้ความเห็นว่า i3 และ i8 นั้นมีแพลทฟอร์มที่เฉพาะตัวมากเกินไป โดยในช่วงพัฒนานั้นมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นซีรี่ส์เพื่อการต่อยอดสำหรับเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายในตลาด (เช่น การปรับเปลี่ยน i8 เป็นรถซาลูน หรือการเพิ่มทางเลือกให้ i3 ด้วยการเพิ่มรุ่นครอสโอเวอร์)

●   ดูเหมือนว่าแนวทางที่บีเอ็มดับเบิลยูคิดจะทำใหม่ คือการออกแบบแพลทฟอร์มที่ยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนตัวรถให้มีทางเลือกที่เพิ่มเติมได้ง่ายกว่าเดิมในอนาคต ทว่า i3 และ i8 ก็จะไม่ถูกถอดทิ้งไปจากแผนงานเสียทีเดียว การปรับเปลี่ยนรุ่นปีตามกรอบเวลาคงจะเกิดขึ้นไปตามรอบของไตรมาส เช่น การเปิดตัว BMW i3S ในช่วงที่ปี 2017 ที่ผ่านมา หรือการเพิ่มรุ่นโรดสเตอร์ให้กับ i8 จนกว่าจะถึงวันที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพดีขึ้น หรือโครงสร้างวัสดุน้ำหนักเบาชนิดอื่นๆ

2017 BMW i Vision Dynamics Concept

●   รุ่นรถที่คาดว่าจะเป็นการปรับเข้าสู่สายการผลิตภายใต้แบรนด์ i ยุคต่อไป หนึ่งในรถรุ่นสำคัญน่าจะเป็นซีดาน 4 ประตูทรงเปรียวแบบรถคูเป้ BMW i4 (หรือ i5) ซึ่งใช้พื้นฐานของรถต้นแบบ BMW i Vision Dynamics Concept ตำแหน่งทางการตลาดอยู่กึ่งกลางระหว่าง i3 และ i8 คู่แข่งโดยตรงก็คือ Tesla Model 3 นั่นเอง คันจริงคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในช่วงปี 2025

●   แต่ก่อนหน้านั้น ตามแผนงานบีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าก่อน 1 รุ่นซึ่งจะลงไปแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดจาก Tesla Model X หรือ Jaguar i-Pace ใช้ชื่อว่า BMW iNext ภายในช่วงปี 2020 – 2021

●   นับตั้งแต่การเปิดตัว BMW i3 ในปี 2013 และ i8 ในปี 2014 บีเอ็มดับเบิลยูได้จัดให้รถไฟฟ้าในกลุ่มนี้ (รวมทั้งไลน์อัพในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด) เป็นรถในแผนงานการพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 3 (ยุคแรกคือรถต้นแบบ หรือรถทดสอบเช่น BMW ActiveE) โดยนับจากช่วงปี 2018 จนถึง 2025 บีเอ็มดับเบิลยูจะเริ่มแผนงานรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ และปลั๊ก-อิน ไฮบริด เจนเนอเรชั่นที่ 4 และ 5 โดยจะเปิดตัวรถกรีนอย่างต่อเนื่องทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ รวมแล้ว 25 รุ่น ซึ่งทางฝั่งของมินินั้นจะเริ่มด้วยการเปิดตัว MINI BEV ในปี 2019 ในฐานะรถรุ่นแรกในแผนงานเจนเนอเรชั่นที่ 4 ครับ   ●