March 21, 2022
Motortrivia Team (10203 articles)

Ford ประเทศไทย เปิดราคา 2023 Ranger และ Everest รุ่นใหม่

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●   ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวพร้อมเปิดราคาจำหน่าย Ford Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ รุ่นพื้นฐาน, Ford Ranger Raptor ปิคอัพสมรรถนะสูง และรถเอนกประสงค์ Ford Everest เจนเนอเรชั่น 3 คันจริงพร้อมโชว์ตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

●   ทุกรุ่นมีรายละเอียดของเวอร์ชั่นตลาดโลกที่เปิดตัวแบบออนไลน์ไปก่อนหน้าตามลิงค์ข้างต้น ใครสนใจสามารถคลิ๊กเข้าไปอ่านกันได้ ส่วนสเปคของรุ่นที่จะจำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วย:

Ford Ranger

●   Ranger ใหม่สเปคไทย มีอุปกรณ์มาตรฐานอาทิ มาตรวัดดิจิทัล แสดงผลผ่านจอความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว, จอทัชกรีนไซส์แท็บเลทขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ SYNC 4A®, ช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัทท์ สามารถพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่น หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้ 

●   บ้านเราจะทำตลาดด้วย 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร แยกเป็นรุ่นอัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จเดี่ยว หรือรุ่น Bi-Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่นการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนแบบ Shift-On-The-Fly และนับเป็นครั้งแรกที่ Ranger จะสามารถเลือกโหมดในการขับได้ 6 แบบ ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand ซึ่งเดิมเป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใน Ranger Raptor

●   ในเบื้องต้น ฟอร์ดจะทำตลาด Ranger ใหม่ด้วย Ford Ranger Sport ราคาเริ่มต้น 929,000 บาท และ Ford Ranger Wildtrak ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท

Ford Ranger Raptor

●   ต่อด้วย Ford Ranger Raptor รุ่นที่ 2 ผลงานของแผนก Ford Performance อุปกรณ์มาตรฐานมีระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED, ฟังก์ชั่นไฟเลี้ยวแบบไดนามิค, ไฟสูงแบบตัดแสงพร้อมปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติ, ล้ออัลลอยลายใหม่แบบเฉพาะรุ่นขนาด 17 นิ้ว จับคู่ยาง BFGoodrich KO2® แบบออล-เทอร์เรน และบันไดข้างอลูมิเนียมแบบใหม่

●   ห้องโดยสารมากับมาตรวัดฟูลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตัวมาตรวัดแสดงผลผ่านจอความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว, ระบบอินโฟฯ เจนเนอเรชั่นล่าสุด SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay, ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด (Upfitter Switch), ชุดระบบเสียงไฮเอนด์ Bang & Olufsen® พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และเบาะทรงบัคเก็ทแบบสปอร์ต

●   Ranger Raptor ใหม่ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost แบบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร อัดอากาศด้วยทวินเทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift ผลงานร่วมกันระหว่าง Ford/GM กำลังสูงสุดผลิตได้ 397 แรงม้า (PS) ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 59.4 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบ/นาที

●   เครื่องยนต์บล็อคนี้ใช้เสื้อสูบแบบกราไฟท์ แข็งแรงขึ้นมากกว่า 75% เมื่อเทียบกับเสื้อสูบแบบเหล็กหล่อทั่วไป มีระบบป้องกันการรอรอบ หรือ Anti-Lag System (ALS) ขณะใช้งานโหมด Baja ตัวระบบจะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อเนื่อง 3 วินาที หลังจากที่ผู้ขับถอนคันเร่ง ช่วยให้สามารถเพิ่มความเร็วได้ทันทีขณะเร่งออกจากโค้ง หรือในระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ และใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon™ ที่ช่วยลดการเสียดสีได้ 50% เมื่อเทียบกับ Ranger Raptor รุ่นก่อนหน้า

●   โหมดในการการขับของ Ranger Raptor จะมีทั้งหมด 7 โหมด แบ่งเป็นโหมดสำหรับขับบนถนนปกติ 3 โหมด Normal, Sport หรือ Slippery และโหมดสำหรับการขับออฟ-โรดอีก 4 โหมด Rock Crawl, Sand, Mud/Ruts หรือ Baja… นอกจากนี้ยังมีชุดระบบระบายไอเสียที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดสำหรับปรับเสียงสำหรับ 4 โหมดการขับ ผู้ขับสามารถเลือกระดับความดังของท่อไอเสียได้ผ่านปุ่มบนพวงมาลัย หรือในขณะเลือกโหมดการขับแบบ Quiet, Normal, Sport หรือ Baja เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม ณ เวลานั้น

●   ช่วงล่างได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด อาทิ ปีกนกบน-ล่างอลูมิเนียมแบบใหม่, วัทท์ลิงก์ใหม่ด้านหลัง, ช็อคฯ FOX แบบ Live Valve พร้อม Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ลดการสั่นสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของรถ เสริมด้วยระบบป้องกันการหดตัวค้าง หรือ Bottom-Out Control ของ FOX ช่วยเพิ่มแรงหน่วงสูงสุดในระยะ 25% สุดท้ายของการหดตัว ป้องกันไม่ให้ช๊อคฯ ค้าง และระบบนี้ยังช่วยชะลอการหดตัวของช๊อคฯ หลัง เพื่อไม่ให้ตัวรถมีแรงกระแทกมากเกินไปในขณะเร่งความเร็ว

●   ฟอร์ดเปิดราคาจำหน่าย Ranger Raptor เริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท

Ford Everest

●   ปิดท้ายด้วย SUV ขนาดกลางห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง Ford Everest รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 3 ตัวรถออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยใช้พื้นฐานวิศวกรรมเดียวกับ Ford Ranger รุ่นใหม่ พร้อมเติมความสะดวกสบายและชุดระบบความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีทันยุคสมัยมากขึ้นกว่าเดิม

●   Everest ใหม่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ระยะฐานล้อยาวขึ้น และมีซุ้มล้อขนาดใหญ่ขึ้น จุดเด่นคือชุดไฟหน้า Matrix LED แบบใหม่ทรง C แบบเดียว Ford Ranger พร้อมระบบปรับระดับแสงไฟตามความเร็วอัตโนมัติ ห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมด เพิ่มความเงียบมากขึ้น อุปกรณ์พื้นฐานจะได้รับการยกระดับให้ทันยุคสมัยกว่าเดิม อาทิ มาตรวัดแบบฟูลดิจิทัลขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย, จอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว, ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ล่าสุด SYNC® 4A รองรับการสั่งงานด้วยเสียง

●   ด้านพละกำลัง Everest ในบ้านเราจะทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ตระกูล EcoBlue แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร แยกเป็นรุ่นเทอร์โบชาร์จ หรือรุ่นไบ-เทอร์โบชาร์จ ส่วนระบบส่งกำลังมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ

●   ชุดระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยมีระบบ Active Park Assist ช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ตัวระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย, เกียร์, คันเร่ง และเบรค ในการจอดรถทั้งแบบขนานกับฟุทพาธ หรือเข้าซอง และระบบ Adaptive Cruise Control with stop and go ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง เป็นต้น

●   การจำหน่ายจะแยกเป็น 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Ford Everest Sport ราคา 1,464,000 บาท และ Ford Everest Titanium Plus ราคา 1,854,000 บาท

Always-On บริการแบบเฉพาะบุคคล

●   ภายในงาน ฟอร์ดเปิดตัวบริการใหม่ Always-On หรือ “พร้อมเสมอ” โดยเป็นบริการแบบเฉพาะบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น FordPass™ บนสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถสื่อสารกับรถของตนเองได้ตลอดเวลา

●   ฟังก์ชันหลักๆ มีอาทิ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเช็คระยะโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลรถอัจฉริยะที่ติดตามการใช้งานรถ จะช่วยให้ลูกค้าไม่ลืมกำหนดเข้ารับบริการต่างๆ นอกจากนี้ แอพฯ ยังสามารถสตาร์ทรถจากระยะไกล และ เพื่อให้อุณหภูมิภายในรถเย็นสบายเมื่อขึ้นรถด้วย

●   ทั้งนี้ ฟอร์ดจะเปิดจอง Ranger / Everet เจเนอเรชันใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซท์ฟอร์ด www.ford.co.th รวมถึงในงานมอเตอร์โชว์ และที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ     ●

Grand Opening : 2023 Ford Ranger and Everest (UPDATE)

Grand Opening : 2023 Ford Ranger and Everest