Toyota โชว์เทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตพลังงานสะอาดใน Idemitsu Super Endurance 2023

วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

●   หลังโชว์ตัวไปในงานเทศกาลแห่งความเร็ว Toyota Gazoo Racing Festival 2023 ที่ Toyota ALIVE บางนา เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา Master driver “Morizo” หรือ มร. อากิโอะ โตโยดะ (Akio Toyoda) ประธานคณะกรรมการบริหารของ โตโยต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ก็นำทีมนักขับ Rookie Racing ลงแข่งขันเอนดูรานซ์รายการ Idemitsu Super Endurance Southeast Asia Trophy 2023 ต่อเนื่องทันที โดยการแข่งขันรายการนี้มีขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์

●   การเข้าร่วมการแข่งขันส่งท้ายปี 2566 ในครั้งนี้ โตโยต้ายังคงต้องการส่งสารภายใต้แนวคิด สร้างความสุขให้กับทุกคน หรือ “Produce happiness for all” เช่นเดียวกับการจัดงาน Toyota Gazoo Racing Festival ซึ่งเป็นหนึ่งปรัชญาการผลิตรถ สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น หรือ Make Ever Better Cars ผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ต

ตัวแข่งที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

●   ตัวแข่งที่จะลุยในงานประกอบด้วย ORC Rookie GR Corolla H2 Concept พลังไฮโดรเจน และ ORC Rookie GR86 CNF Concept* ซึ่งเป็นรถที่โตโยต้าใช้ลงแข่งขันที่บุรีรัมย์เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา และยังมีการนำตัวแข่งใหม่ CP Rookie Prius CNF-HEV GR Concept เพิ่มเข้ามาอีก 1 คันด้วย

*CNF หรือ Carbon Neutral Fuel น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์

●   และนอกจาก Morizo หรือ มร. อากิโอะ โตโยดะ จะเป็นผู้ขับตัวแข่ง ORC Rookie GR Corolla H2 Concept เองแล้ว งานนี้ยังมี คุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ร่วมลงขับตัวแข่ง CP Rookie Prius CNF-HEV GR Concept ซึ่งตัวคุณขจรนั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาตัวแข่ง Prius HEV ด้วย

●   สำหรับตัวแข่ง ORC Rookie GR Corolla H2 Concept นั้น ปีนี้ได้มีการพัฒนาชุดระบบให้สามารถเติมไฮโดรเจนที่ผลิตจากก๊าซชีวภาพ หรือ Bio Gas จาก CP Group ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่มีอยู่ในท้องถิ่น และการผลิตก๊าซชีวภาพให้เป็นไฮโดรเจนนั้น ใช้อุปกรณ์สำหรับผลิตไฮโดรเจนจาก บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของโตโยต้า รวมถึง Commercial Japan Partnership Technologies (CJPT) และบริษัทพันธมิตรในไทย ที่มีจุดยืนเดียวกันในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย

●   ส่วนตัวแข่ง CP Rookie Prius CNF-HEV GR Concept จะนับเป็นหนึ่งในรถภายใต้สังกัด Rookie Racing ด้วย ปัจจุบัน CP Group คือหนึ่งในพันธมิตรสาคัญของโตโยต้าในไทย ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันในด้านการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โดยโตโยต้าระบุว่า การนา Toyota Prius HEV มาอัพเกรดเป็นรถแข่งนั้น เนื่องจากโตโยต้าต้องการแสดงให้คนไทยเห็นว่า Prius HEV นับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และรถยนต์พลังไฮบริดก็นับถือเป็นทางออกหนึ่งในการขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ใช้งานได้จริง และในทันที

รถที่มีการผลิตในเชิงพาณิชย์ และมีความเป็นกลางทางคาร์บอน

●   ในงานนี้ โตโยต้าได้จัดแสดงไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็น Product Champion ด้วย ประกอบด้วยรถปิคอัพยุคอนาคตที่นำระบบขับเคลื่อนหลายรูปแบบมาติดตั้งใน Toyota Hilux Revo ไม่ว่าจะเป็นฟิวเซลล์ (FCEV), ไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ (BEV) หรือดีเซล ไฮบริด เสริมด้วย Toyota Prius HEV รถคอมแพคท์ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ไปในช่วงปลายปี 2022

10 ตัวแข่งทางเรียบ พร้อมรุ่นพลังงานทางเลือก

●   3 ตัวแข่งหลักของทีม Rookie Racing ที่โตโยต้าจะใช้ลงแข่งในรายการนี้ ประกอบด้วย ORC Rookie GR Corolla H2 Concept หมายเลข #232 พลังไฮโดรเจน, ORC Rookie GR86 CNF Concept หมายเลข #228 ซึ่งใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ และ CP Rookie Prius CNF-HEV GR Concept หมายเลข #264 ตัวแข่งพลังงานก๊าซชีวภาพ (Bio Gas) จาก CP Group ซึ่งนับเป็นการเผยโฉมครั้งแรกในโลกแบบ World Premier ที่ประเทศไทย

●   เสริมด้วยตัวแข่งของ Toyota Gazoo Racing Team Thailand อีก 7 คัน ประกอบด้วย Toyota 86 CNF หมายเลข #22 คลาส D2, Toyota 86 หมายเลข #21 คลาส D2, Toyota Corolla Altis หมายเลข #19 และ #20 คลาส D2, Toyota Yaris CNF หมายเลข #23 คลาส D3, Toyota Corolla CNF หมายเลข #37 คลาส D3 และฮอทแฮทช์พลังแรง Toyota GR Yaris หมายเลข #19 คลาส 4WD

มร. อากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหารของ โตโยต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และผู้ก่อตั้งทีม Rookie Racing

วิสัยทัศน์ของโตโยต้าผ่านมอเตอร์สปอร์ต

●   มร. ทาคาฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท GR Company กล่าวว่า โตโยต้าพยายาม “สร้างรถยนต์ที่ดีกว่า” ผ่านการเข้าร่วมแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต รวมทั้งสร้างพันธมิตรในประเทศไทย และขยายทางเลือกของลูกค้าไปสู่การตระหนักถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการโชว์สมรรถนะของตัวรถแข่งรุ่นต่างๆ และภารกิจหลักของโตโยต้าก็คือ “การสร้างรอยยิ้มและความสุขให้ลูกค้า” ในขณะเดียวกันก็แสวงหาพันธมิตรที่มีจุดยืนเดียวกันในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วย

●   มร. โอยะ รองหัวหน้าวิศวกรผู้พัฒนา Toyota Prius ให้ความเห็นว่า การพัฒนาตัวแข่งรุ่นใหม่โดยใช้พื้นฐานของ Toyota Prius HEV เนื่องจาก Prius นั้นเป็นหนึ่งในรถไฮบริดระดับโลกที่มีความเป็นมายาวนาน โดยบทบาทของ Toyota Prius นั้น อยู่ในฐานะหนึ่งในโซลูชั่นที่ใช้งานได้จริงและทันท่วงที ในการขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในระยะเวลาอันสั้น

●   คุณพนัส จากทีม TDEM Motorsports กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนา All-New Hilux Revo GR-Sport ผ่านการทดสอบรถต้นแบบในสภาวะสุดโหดอย่างการแข่งขัน Asia Cross Country Rally โดยตัวรถสามารถพิสูจน์ความทนทานได้เป็นอย่างดีตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับ Toyota Gazoo Racing Thailand เพื่อสร้างมาตรฐานของเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน สาหรับนำไปใช้เชิงพาณิชย์ในประเทศไทยต่อไปในอนาคตด้วย

ทดลองขับ Prius HEV ได้ในงาน

●   หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ การเปิดให้ทดลองขับ Toyota Prius HEV ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 5 รถรุ่นนี้มีทั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด โดยยุโรปจะมีจำหน่ายเฉพาะรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด เท่านั้น จากกฏมลพิษที่เข้มงวดขึ้นทุกวัน

●   ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA-C แบบเดียวกับ Toyota Corolla Cross, Lexus UX รวมถึงรถพลังแรงอย่าง Toyota GR Corolla ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,600 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,430 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. อุปกรณ์มาตรฐาน (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) มีมาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบ Toyota Audio Multimedia ขนาด 8 นิ้ว หรือ 12.3 นิ้วในรุ่นท๊อป, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, กุญแจดิจิทัล, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พอร์ท USB-C รวม 6 ตำแหน่ง, ชุดเครื่องเสียงพรีเมียม JBL พร้อมลำโพง 8 แหน่ง และมีหลังคาโซลาร์เซลล์เป็นออปชั่น

●   ชุดระบบไฮบริด* ใช้ระบบขับเคลื่อน Hybrid Synergy Drive รุ่นล่าสุดเจนเนอเรชั่น 5 เครื่องยนต์ขยับขึ้นไปใช้เบนซิน Atkinson cycle แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน รุ่นใหม่ ความจุเพิ่มขึ้น 15% กำลังสูงสุดผลิตได้ 197 แรงม้า (PS) เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง +73 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที อัตราการคายมลพิษในไอเสีย 81 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 28.6 กม./ลิตร

*ข้อมูลตามสเปกรถที่จาหน่ายในประเทศญี่ปุ่น

3 รุ่น Hilux พร้อม 3 พลังงานทางเลือก

●   หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือการจัดแสดงปิคอัพรุ่นยอดนิยมในไทยอย่าง Toyota Hilux ซึ่งจะมีการปรับตัวไปตามยุคสมัย ประกอบด้วยทางเลือกของระบบขับเคลื่อนหลายรูปแบบ (Multiple Pathway) แนวคิดหลักในการพัฒนาของโตโยต้าคือ มอบการขับเคลื่อนสำหรับทุกคน หรือ Mobility for All และ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดย Hilux ต้นแบบในงานทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย:

●   Toyota Hilux Revo e : รถปิคอัพพลังไฟฟ้าล้วน (BEV หรือ Battery electric vehicle) ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 300 กม.

●   Toyota Hilux FCEV concept : รถปิคอัพต้นแบบพลังไฟฟ้าแบบ ไฮโดนเจน ฟิวเซลล์ (FCEV หรือ Fuel Cell electric vehicle) แบตเตอรี่เต็ม พร้อมไฮโดรเจนเต็มถังบรรจุ วิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 1,500 กม. ตัวรถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 1,500 กก.

●   Toyota Hilux Diesel HEV concept : รถปิคอัพต้นแบบพลังไฮบริด (HEV หรือ Hybrid electric vehicle) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจับคู่ระบบไฮบริด พร้อมใช้น้ำมันไบโอเเซล / e-Fuel ตัวรถวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 1,200 กม. และรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุดถึง 3,500 กก.

กิจกรรมมากมายสำหรับคนรักรถและเทคโนโลยี

●   โซนจัดแสดงรถและเทคโนโลยีต่างๆ ของโตโยต้า รวมถึงพันธมิตรในประเทศไทย มีอาทิ การสาธิตการใช้ไฮโดรเจนที่มาจาก CP Group พร้อมสถานีเติมไฮโดรเจนเคลื่อนที่สำหรับใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะ ซึ่งใช้พลังงานชีวภาพที่ได้มาจากมูลจากฟาร์มสัตว์ปีกของ CP และของเสียจากเศษอาหารทีมาจาก บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จากัด (TDEM) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อเพลิงสำหรับตัวแข่ง Corolla พลังไฮโดรเจน

●   ต่อด้วยโซนให้ความรู้ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของพันธมิตรความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งมีแนวคิดหลักในการให้ข้อมูลว่า ทุกคนสามารถลงมือทำเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ทันที เช่น การใช้พลังงานทางเลือก อาทิ พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือโซลาเซลล์, การผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพ โดยบริษัท BIG หรือรถ Toyota Tsusho Folk Lift, SCG, CP

●   การลดปริมาณการปล่อย CO2 และของเสีย, การเก็บ CO2 เพื่อนากลับมาใช้ใหม่โดย Taiyo Nippon Sanso และยางรถยนต์โยโกฮามา เสริมด้วยการลดปริมาณการปล่อย CO2 ในภาคการพาณิชย์, การผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพโดย CJPT พร้อมสาธิตการเรียนรู้กรรมวิธีผลิตพลังงานไฮโดรเจน รวมถึงการเก็บ และการขนส่งพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งเป็นการจัดแสดงภายในส่วน Kids Zone

โซนการจัดแสดงยานยนต์

●   โซนจัดแสดงยานยนต์ของโตโยต้า แบ่งเป็นการสาธิตการปรับแต่งรถ และแก้ไขปัญหาอย่างคล่องตัวในวงการมอเตอร์สปอร์ต เพื่อเร่งการพัฒนาสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ประกอบด้วย:

●   Toyota GR010 Hybrid : ตัวแข่งโปรโตไทป์พลังไฮบริดซึ่งพัฒนาขึ่นเพื่องใช้แข่งขันเอนดูรานซ์รายการต่างๆ ของ FIA World Endurance Championship (WEC) คลาส Hypercar ซึ่งรวมถึงรายการสุดคลาสสิคอย่าง 24 Hours of Le Mans ด้วย โดยการจัดแสดงครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

●   Toyota Prius GR Concept : หรือ Prius เวอร์ชั่นสมรรถนะสูงที่พัฒนาโดย Gazoo Racing (GR) จัดแสดงเป็นครั้งแรกในไทย

●   Toyota Corolla Cross H2 Concept : รถยนต์ต้นแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน หรือ HICEV : Hydrogen Internal Combustion Engine Vehicle ซึ่งโตโยต้ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ โดยมีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์สันดาปฯ ให้น้อยที่สุด

●   H2 Racing Kart : รถคาร์ทพลังแรงที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจน สำหรับรถแข่งไฮโดรเจนโดยเฉพาะ จัดแสดงเป็นครั้งแรกในไทย ตัวรถใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ของ Yamaha พร้อมเทคโนโลยีจาก Toyota Mirai

●   Toyota GR Yaris Rally1 : ตัวแข่งซึ่ง มร. อากิโอะ โตโยดะ ขับโชว์ในงาน Toyota Gazoo Racing Festival 2023 รถรุ่นนี้เป็นตัวแข่งแรลลี่ Group Rally1 ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย Toyota Gazoo Racing World Rally Team เพื่อลงแข่ง World Rally Championship (WRC) รายการต่างๆ ตัวรถใช้พื้นฐานของแฮทช์แบคตัวแรง Toyota GR Yaris รุ่นปัจจุบัน พร้อมโมดิฟายให้ตรงตามกฎระเบียบทางเทคนิคของ FIA World Rally Car ปี 2017

●   Red Bull GR Corolla : ตัวแข่งดริฟท์เครื่องยนต์ 2JZ เทอร์โบชาร์จ ที่เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกับ Cusco Racing ซึ่ง Kalle Rovanperä ใช้ขับและคว้าแชมป์รายการ Formula Drift Japan ฤดูกาล 2022 ที่ผ่านมา ตัวรถใช้พื้นฐานของ Toyota Corolla Yaris รุ่นปัจจุบัน ทว่าเป็นเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหลัง

●   Toyota Hilux Revo GR-Sport : จัดแสดงเป็นครั้งแรกในไทย ตัวรถตกแต่งแบบเฉพาะรุ่น ช่วงล่างใหม่ยกสูงขึ้น ล้อขนาด 17 นิ้วจับคู่ยาง BFGoodrich เครื่องยนต์ดีเซลปรับจูนใหม่ บล็อคเดียวกับ Fortuner GR Sport ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร

●   Toyota Hilux Asia Cross Country : ตัวแข่งรายการ Asia Cross Country Rally (AXCR) ซึ่งใช้พื้นฐานของรถปิคอัพยอดนิยมในไทยอย่าง Toyota Hilux Revo รุ่นปัจจุบัน

●   นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมของพันธมิตอย่าง CJPT หรือ Commercial Japan Partnership Technologies ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานของ CJPT ในประเทศไทย ผ่านโซลูชั่นพลังงาน, โซลูชั่นการขับเคลื่อน และโซลูชั่นข้อมูล พร้อมจัดแสดง H2 drone โดรนพลังไฮโดรเจนที่ใช้บินได้จริงในพื้นที่เกษตรกรรม

●   ฝั่ง CP หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดพื้นที่แสดงการย่างไก่โดยใช้ไฮโดรเจนที่ผลิตโดย CP Group

●   ปิดท้ายด้วยการโชว์ตัว Toyota Hilux Champ รถที่พัฒนาขึ้นโดยใช้พื้นฐานจากรถต้นแบบ Toyota IMV-0 Concept (ไอเอ็มวี-ซีโร่ หรือ Innovative International Multi-purpose Vehicle 0) โดยในงานนี้โตโยต้าได้นำ Hilux Champ มาโช์ตัว 2 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นพื้นฐาน และรุ่นที่ได้รับการดัดแปลงเป็นรถ Food Truck

●   เวอร์ชั่น Food Truck นี้ ออกแบบมาสำหรับจำหน่ายกาแฟ Togeta Coffee ซึ่งเป็นแบรนด์ของทางโตโยต้าเอง โดยมีแนวคิดในการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟภายใต้โครงการพระราชดำริ ตัวรถออกแบบโดยความร่วมมือระหว่างโตโยต้าและ MKC Mongkolchai Body ใช้พื้นฐานของรุ่นฐานล้อสั้น (SWB) เครื่องยนต์ดีเซล ความจุ 2.4 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ

ผลการแข่งขัน โตโยต้ายึดโพเดียมแชมป์

●   ผลการแข่งขันส่งท้ายปี 2023 Toyota Gazoo Racing Team Thailand ทีมแข่งภายใต้การสนับสนุนของโตโยต้า ประเทศไทย พร้อมด้วยทีม ORC Rookie Racing ซึ่งเป็นทีมแข่งเพื่อการพัฒนายานยนต์โดย Morizo หรือ มร. อากิโอะ โตโยดะ ได้ประกาศความสำเร็จด้วยการยึดอันดับ 1 – 5 แบบ Overall รวมถึงแชมป์ประจำปีในรุ่น D2 และ D3 รวมถึงแชมป์ทุกรุ่นในรายการ Idemitsu Super Endurance Southeast Asia Trophy 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 23 ธันวาคม 2566 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

●   Toyota Gazoo Racing Team Thailand ลงสนาม Super Endurance ซึ่งใช้เวลาแข่งรวม 10 ชม. ด้วยทีมนักขับรุ่นใหญ่ และชุดดรีมทีมจากรายการ Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 รวมทั้งหมด 10 คัน ใน 5 รุ่น ประกอบด้วย 4WD, D2, D3, Yaris One Make Race และ Yaris Ativ Lady One Make Race พร้อมเหล่านักขับจาก 14 ประเทศ ไทย, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเก๊า, จีน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดา, ฝรั่งเศส, อิตาลี และโครเอเชีย รวมรถที่ลงแข่งขันทั้งหมด 63 คัน

●   หลังขับเคี่ยวกันนาน 10 ชม. รุ่น Division 2 ตัวแข่ง Toyota FT86 หมายเลข #221 ซึ่งขับโดย นาโอกิ คาวามูระ, เคนทาโร่ ซึจิโทริ และ ยูฮิ เซคิกูชิ จบการแข่งขันด้วยผลงานอันดับ 1 ทั้งในรุ่นและแบบ Overall วิ่งรวม 293 รอบสนาม และรถ Toyota Corolla Altis GR Sport Nürburgring รถหมายเลข 219 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ มานัต กุละปาลานนท์ เข้าป้ายอันดับ 2 ทั้งของรุ่นและ Overall วิ่งรวม 289 รอบสนาม ต่อด้วยรถหมายเลข #220 ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ เฉิน เจี้ยน หงษ์ จบที่ลำดับ 3 ทั้งของรุ่นและแบบ Overall วิ่งรวม 289 รอบสนาม

●   รุ่น Division 3 ทีมส่งรถ E-fuel ซึ่งใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน โดย Collora Altis GR Sport Turbo E-Fuel หมายเลข #337 ขับโดย อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ, ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ และ กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ทำผลงานอันดับ 1 ในรุ่น และอันดับ 5 แบบOverall วิ่งรวม 280 รอบสนาม ต่อด้วยรถหมายเลข #317 Yaris 1.6 N.A. ขับโดย นรรัศมิ์ อภิวาท, ทยาพล คงสุวรรณ, ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนา และ เคนทาโร่ ชิบะ ทำผลงานได้เป็นอันดับ 9 ของรุ่น และอันดับ 23 แบบ Overall วิ่งรวม 258 รอบสนาม ส่วนรถ Yaris Turbo E-Fuel หมายเลข #323 ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ และ ณดล วัฒนธรรม คว้าอันดับ 12 ของรุ่น และ 44 แบบ Overall วิ่งรวม 227 รอบสนาม โดยรถหมายเลข #337 และ #323 ยังรับถ้วยรางวัล Carbon Neutrality อันดับ 1 และ 2 ของรุ่นนี้อีกด้วย

●   รุ่น 4WD กับ GR Yaris หมายเลข #19 โดยการขับของ สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, มานัต กุละปาลานนท์ และ เคนทาโร่ ชิบะ จบการแข่งขันอันดับที่ 1 ของรุ่น และที่ 14 แบบ Overall วิ่งรวม 269 รอบสนาม

●   รุ่น Yaris Ativ Lady One Make Race ตัวแข่ง Yaris Ativ หมายเลข #20 ขับโดย ศิริภากรณ์ แยบยนต์, ปัณฑ์นลิน ทวยเดช, สาวิตรี กวางแก้ว และ ทิพวรรณ ภู่ระยับ จบการแข่งขันในอันดับ 1 ของรุ่น และ 32 แบบ Overall วิ่งรวม 243 รอบสนาม หมายเลข #89 ขับโดย มิย่า ทองเจือ, กิติยา ธีรวัฒน์วาที และ ทิพวรรณ ภู่ระยับ จบการแข่งขันอันดับ 3 ของรุ่น และอันดับ 43 แบบ Overall วิ่งรวม 230 รอบสนาม

●   รุ่น Yaris One Make Race ตัวแข่ง Yaris หมายเลข 21 ขับโดย นิพิฐพนธ์ วัฒนานิตย์, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์, อัครวุฒิ มังคลสุต และ ศริทธนา มิตรอารีย์ จบการแข่งขันในอันดับ 1 ของรุ่น และ 34 แบบ Overall วิ่งรวม 241 รอบสนาม

●   ไฮไลท์การแข่งขัน ORC Rookie Racing Team ซึ่งนำตัวแข่งที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนลงสนามในรุ่น Division 2 รวม 3 คัน ประกอบด้วย ORC Rookie GR86 CNF Concept หมายเลข #228 ซึ่งใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ขับโดย คาซูยะ โอชิมะ, เคนตะ ยามาชิตะ, เคโซ คะโต และ ไดสึเกะ โตโยดะ จบการแข่งขันอันดับที่ 4 ทั้งในรุ่นและแบบ Overall วิ่งรวม 289 รอบสนาม

●   ต่อด้วย CP Rookie Prius CNF-HEV GR Concept หมายเลข #264 โดย ฮิบิกิ ไทระ, นาโอยะ กาโมะ, ทัตสึยะ คาตะโอกะ, Morizo และ ขจร เจียรวนนท์ จบอันดับที่ 6 ของรุ่น และ 11 แบบ Overall วิ่งรวม 272 รอบสนาม

●   ปิดท้ายด้วย ORC ROOKIE GR Corolla H2 concept หมายเลข #232 ตัวแข่งพลังงานไฮโดรเจน ขับโดย Morizo, มาซาฮิโร ซาซากิ, ฮิโรอากิ อิชิอุระ และ ยาสึฮิโระ โอกุระ จบอับดับที่ 8 ในรุ่น และ 55 แบบ Overall วิ่งรวม 161 รอบ และยังรับถ้วยรางวัล Carbon Neutrality อันดับ 1-2-3

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆ ของโตโยต้าในประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.toyota.co.th หรือเฟซบุ๊ค : facebook.com/toyotamotor.th หรือ LINE Official ID : @toyotathailand อี-เมล : [email protected] หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เบอร์ 1486 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ●

Idemitsu Super Endurance 2023 (motortrivia)

Idemitsu Super Endurance 2023 (Official Images)