2025 Honda e:Ny1 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า B-SUV สำหรับตลาดยุโรป

1.2Kviews

motortrivia

● ในช่วงต้นปี 2022 ฮอนด้าได้เผยโฉมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นสำหรับจำหน่ายในประเทศจีน ประกอบด้วย Honda e:NS1 และ Honda e:NP1 ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์ SUV ในกลุ่มซับคอมแพคท์ทั้งคู่ (B-segment) ล่าสุดฮอนด้าได้เพิ่มเวอร์ชั่นสำหรับทำตลาดยุโรป ใช้ชื่อ Honda e:Ny1 ทั้งหมดผลิตขึ้นบนพื้นฐานแพลทฟอร์ม e:N Architecture F แบบเดียวกัน โดยแพลทฟอร์มนี้ฮอนด้าได้ออกแบบมาเพื่อผลิตรถแบตเตอรี่ตระกูล e:N series โดยเฉพาะ

● e:Ny1 เป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ที่จำหน่ายในยุโรป ต่อจาก Honda e ตัวรถพัฒนาโดยใช้แนวคิดให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (human-centered development) โดยแพลทฟอร์ม e:N Architecture F นั้นรองรับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมด้วยเทคโนโลยีการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ล่าสุดของฮอนด้า

● แพลทฟอร์ม e:N เป็นส่วนหนึ่งของทิศทางการดำเนินงานระดับโลกเกี่ยวด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของฮอนด้า โดยมีลักษณะเป็นแบบโมดูลาร์ หรือแยกส่วนได้ ตัวอักษร ‘F’ บ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมของรถที่ใช้เลย์เอาท์ขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์วางหน้าหน้า (front-motor, front-wheel drive) ซึ่งจะเป็นระบบหลักของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของฮอนด้าตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางในอนาคต

● ตัวรถมากับสีใหม่ ฟ้า Aqua Topaz Metallic เสริมด้วยขาว Platinum White Pearl, ดำ Crystal Black Pearl, เทา Urban Grey Pearl และแดง Vermillion Red Pearl ไฮไลท์คือตราสัญลักษณ์ H Mark สีขาวที่ฮอนด้าจะใช้เป็นตัวแทนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต พร้อมตัวอักษร Honda ที่ใช้ฟอนท์ใหม่ทางด้านหลังของตัวรถ ตำแหน่งพอร์ทชาร์จไฟซ่อนอยู่ด้านหลังแผงกระจังหน้า และออกแบบให้สามารถหมุนเปิดเข้าด้านในเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนมือเปิดประตูหลังจะถูกซ่อนเอาไว้ที่เสา C

● ขนาดตัวโดยรวมของ e:Ny1 ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง Honda HR-V ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,387 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,584 มม. ความยาวฐานล้อจากกึ่งกลางล้อหน้าถึงล้อหลัง 2,607 มม. ทุกรุ่นย่อยติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นมาตรฐาน

● ห้องโดยสารออกแบบให้ใช้งานง่าย แผงแดชบอร์ดเรียบง่ายเป็นระเบียบ คอนโซลกลางมาพร้อมแผงควบคุมแบบดิจิทัล อุปกรณ์มาตรฐานมีหลังคาพาโนรามาเคลือบสาร Low-E ซึ่งเป็นเป็นสารเคลือบความละเอียดระดับกล้องจุลทรรศน์ ช่วยระบายความร้อน ลดความเข้มของแสงอินฟาเรดและอัลตราไวโอเลท, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 15.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto และ Apple Car Play ไร้สาย, Wi-Fi, การอัพเดทซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และเบรคมือไฟฟ้า

● นอกจากนี้ e:Ny1 ยังมีระบบ Air Diffusion System ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน Honda HR-V ตัวช่องปรับอากาศออกแบบใหม่ให้ทิศทางลมหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกระจายลมได้อย่างเหมาะสม ช่วยป้องกันรังสีความร้อน-เย็นจากหน้าต่างด้านข้าง ขณะเดียวกันก็นำความสดชื่นของลมธรรมชาติกลับเข้ามา เพราะระบบจะกระจายอากาศที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างด้านข้างและหลังคารถให้หมุนวนเบาๆ กันไม่ให้มีลมเป่ามายังผู้โดยสารโดยตรง โดยจะใช้งานร่วมกับช่องระบายอากาศมาตรฐานหรือไม่ก็ได้

● สำหรับตัวจอทัชสกรีนบนคอนโซลกลาง ฮอนด้าจัดวางเมนูเป็น 3 โซนบนหน้าจอ ด้านบนเป็นโซน Connect รวมระบบนําทาง, นาฬิกา และจอแสดงผลของกล้อง โซนกลางเป็น Driver Assist แสดงสถานะระบบช่วยเหลือผู้ขับ โดยจะแสดงสถานะการทำงานของรถ, การตั้งค่าระบบเสียงและการสื่อสารต่างๆ รวมถึงแอพฯ และการตั้งค่าระบบรถ พร้อมด้วยเมนูแสดงการทำงานของระบบ EV และการควบคุมการใช้โทรศัพท์ ส่วนโซนด้านล่างเป็นการควบคุมระบบปรับอากาศ แสดงข้อมูลการปรับอากาศและระบบ Air Diffusion System

● เบาะหน้าใช้แผ่นรองยูรีเทนแบบหนา เพิ่มความสบายในการขับ, เบาะหลังมีการออกแบบใหม่ให้รองรับจุดสัมผัส พร้อมกับแนว hip point ที่ต่ำลง, ม่านบังแดดด้านหน้าและม่านบังแดดด้านหลังแบบ 2 ชิ้น สามารถถอดแยกชิ้นตามปริมาณแสงได้ตามต้องการ

● e:Ny1 ออกแบบให้ฝากระโปรงท้ายต่ำ พร้อมพื้นราบด้านหลังที่ช่วยให้สามารถขนสัมภาระเข้าออกได้ง่าย พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 361 ลิตร และจะเพิ่มขึ้นเป็น 801 ลิตรเมื่อพับเบาะและบรรทุกถึงแนวหน้าต่างด้านหลัง และสูงสุดที่ 1,176 ลิตร เมื่อนำสัมภาระใส่จนเต็มพื้นที่ด้านหลังจนชนเพดานห้องโดยสาร

Honda Connect กับการชาร์จที่สะดวกยิ่งขึ้น

● สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ฮอนด้าออกแบบมาให้เช็คสถานะการชาร์จได้อย่างสะดวก โดยมีไฟแสดงสถานะการชาร์จที่มองเห็นได้ง่ายจากระยะไกล เสริมด้วยบริการแจ้งสถานะการชาร์จผ่าน Honda Connect ทั้งในขณะที่ผู้ขับนั่งในรถ หรืออยู่ห่างจากตัวรถ… เมื่อมีการใช้งาน แถบสีดําด้านบนของพอร์ทชาร์จจะสว่างขึ้น และเมื่อกำลังชาร์จไฟ แถบแนวนอนใต้เส้นฝากระโปรงหน้าจะกะพริบเบาๆ จากซ้ายและขวา เมื่อชาร์จเสร็จ แถบชาร์จจะสว่างตลอดเวลา และหากเกิดข้อผิดพลาดในการชาร์จ จะมีไฟเตือนสีแดงกะพริบ เมื่อชาร์จเสร็จและถอดสายไฟออก ตัวรถจะส่งสัญญาณเหมือนกระพริบตาให้ผู้ขับ

● ทั้งนี้ Honda Connect จะช่วยควบคุมการชาร์จไฟทั้งที่บ้าน หรือที่สถานีชาร์จ ซึ่งสามารถสั่งงานได้จากภายในรถ หรือจากระยะไกลผ่านแอพฯ My Honda+ บนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านแอพฯ, การล็อค-ปลดล็อกรถ, การสตาร์ทรถ, สั่งเปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง หรือตั้งเวลาล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง และยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามการเดินทาง, ดูพิกัดตําแหน่งรถ และแชร์จุดหมายปลายทางให้เพื่อนหรือครอบครัวได้ ไล่ไปจนถึงการแสดงข้อมูลอื่นๆ เช่น ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เหลือในแบตเตอรี่, สถานะการชาร์จ และตัวจับเวลาการชาร์จ

● นอกจากนี้ ผู้ขับยังสามารถติดตามสถานะ หรือปรับตั้งค่าการชาร์จแบตเตอรี่ได้ หากต้องการหรือเมื่อจําเป็น โดยสามารถปรับตั้งค่าให้เข้ากับสภาพการชาร์จในลักษณะต่างๆ เพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขณะชาร์จ โดยระบบ Honda Connect จึงมีระบบการตั้งค่ากำลังไฟสูงสุดเอาไว้ให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จที่บ้าน หรือการชาร์จไฟเมื่อผู้ขับไม่อยู่ใกล้ตัวรถ โดยจะเลือกได้ 3 ระดับ ได้แก่ LOW ซึ่งจํากัดกำลังไฟฟ้าไว้ที่ 6 แอมป์ จนถึง HIGH ที่รองรับกระแสไฟสูงสุดจากเครื่องชาร์จเท่ากับกำลังสูงสุดที่แบตเตอรี่รับได้

● ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้ผู้ขับสามารถเลือกกำลังไฟสูงสุดสำหรับการชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) เพื่อป้องกันไม่ให้เบรคเกอร์สะดุดในตำแหน่งที่ไม่ได้ใช้เบรคเกอร์จ่ายไฟเฉพาะสำหรับเครื่องชาร์จ AC

ระบบขับเคลื่อนทีใช้แพคเกจมอเตอร์แบบ 3-in-1

● ระบบขับเคลื่อนของ e:Ny1 ใช้แพคเกจมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 โดยตัวมอเตอร์จะทำหน้าที่เป็นทั้งระบบขับเคลื่อน, มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบส่งกำลัง น้ำหนักรวมกันเพียง 77.4 กก. ติดตั้งอยู่บนเพลาหน้า ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุดผลิตได้ 150 กิโลวัทท์ หรือประมาณ 201 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. โหมดในการขับเลือกได้ 3 โหมดระหว่าง Sport, Normal หรือ Econ

● แบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 412 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป ชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) ผ่านหัวชาร์จแบบ CCS จาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หากชาร์จแบบเร่งด่วน ระยะเวลา 11 นาทีจะได้ระยะทางเพิ่ม +100 กม. ส่วนการชาร์จด้วยไฟบ้านแบบกระแสสลับ (AC) จะสามารถชาร์จไฟจาก 10 – 80% ได้ภายในเวลา 6 ชม.

● ด้านการควบคุม ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ Dynamic stability control ของฮอนด้า จะช่วยให้ผู้ขับรู้สึกถึงการบังคับพวงมาลัยได้อย่างราบรื่น โดยพวงมาลัยของ e:Ny1 จะมีน้ำหนักเบา และหมุนได้ไวที่ความเร็วต่ำ แต่หากผู้ขับใช้ความเร็วสูงขึ้น ระบบจะเพิ่มความหนืดของพวงมาลัยให้ผู้ขับรู้สึกมั่นคงขึ้น ซึ่งเป็นการปรับจูนเป็นพิเศษเฉพาะ e:Ny1 เวอร์ชันยุโรป

ระบบความปลอดภัย Honda SENSING เวอร์ชั่นล่าสุด

● e:Ny1 มากับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งผนวกการทำงานของกล้องหน้ามุมกว้าง 100 องศา, เรดาห์, กล้องรอบคัน 360 องศา, ชิปประมวลผลภาพความเร็วสูง และเซนเซอร์โซนาร์ 12 จุดรอบคัน แบ่งเป็นกันชนหน้า-หลังด้านละ 4 จุด และด้านข้างฝั่งละ 2 จุด ซึ่งทั้งหมดจะทำงานทั้งแบบแบบ Passive และ Active เพื่อปกป้องความเสียหายจากอุบัติเหตุ และช่วยเหลือผู้ขับ

● ชุดระบบประกอบด้วย ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Road Departure Mitigation System เตือนและช่วยควบคุมเมื่อออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบ Lane Keeping Assist System ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กม./ชม., ระบบ Traffic Jam Assist ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับด้วยความเร็วต่ำในสภาพการจราจรติดขัด

● นอกจากนี้ยังมี ระบบ Driver Attention Monitor ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับ, ระบบ Collision Mitigation Braking System ช่วยเตือนและเบรคเพื่อผ่อนแรงชน, ระบบ Traffic Sign Recognition System ช่วยอ่านป้ายสัญญาณจราจร และระบบช่วยจอด Parking Pilot รองรับสถานการณ์การจอดและการออกจากตัวรถได้ 6 รูปแบบ

● ฮอนด้าเปิดราคาจำหน่าย e:Ny1 ในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นที่ 44,995 ปอนด์ หรือประมาณ 1.97 ล้านบาท คู่แข่งสำคัญก็คือ Peugeot e-2008, Toyota bZ4X หรือ Volkswagen ID.4 เป็นต้น ●