December 3, 2023
Motortrivia Team (10229 articles)

Tesla Cybertruck เปิดราคาในสหรัฐฯ ล็อทแรกเริ่มส่งมอบปี 2024

เรื่อง : AREA 54

●   หลังจากที่ลุ้นกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ในที่สุดรถปิคอัพไฟฟ้ารุ่นธงของเทสล่าอย่าง Tesla Cybertruck ก็ขึ้นสายการผลิตและเปิดราคาออกมาอย่างเป็นทางการเสียที โดยราคาที่จำหน่ายนั้น Elon Musk เคยระบุว่าจำเป็นต้องสูงขึ้นจากเงินเฟ้อ ซึ่งตัวเลขที่เปิดออกมานั้น สูงกว่าราคาคาดการณ์มากพอสมควรเลยทีเดียว

●   อย่างไรก็ตาม… ราคาที่สูงขึ้นนั้น สมเหตุสมผลหรือไม่ เรามาดูกันครับ

●   ย้อนความกันสักนิด Elon Musk นั้นวางแผนการผลิตรถปิคอัพรุ่นนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2012 (หรือราว 11 ปีมาแล้ว) ก่อนจะเริ่มแผนงานพัฒนาคันจริงในปี 2014 โดย Cybertruck ได้เผยโฉมตัวโปรโตไทป์เป็นครั้งแรกเมื่อราวๆ 4 ปีที่ผ่านมาในงาน 2019 Los Angeles Auto Show พร้อมเรียกเสียงฮือฮาด้วยงานออกแบบในลักษณะ Exoskeleton* ตัวรถอยู่ในรูปโฉมของปิคอัพทรงลิ่มทื่อๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูพาหนะสไตล์ Retrofuturism ในภาพยนต์หรือการ์ตูนไซ-ไฟโบราณยุค 50 – 60s มากกว่าจะให้ความรู้สึกล้ำสมัย เรียกว่าไม่รักก็เกลียดกันไปเลย… หัวหน้าทีมออกแบบแน่นอนว่ายังคงเป็น Franz von Holzhausen เช่นเดิม

●   หมายเหตุ : Exoskeleton มีความหมายตรงตัว คือ Exo + Skeleton หมายถึงโครงกระดูกที่อยู่ภายนอกร่างกาย ซึ่งเทสล่าใช้แนวคิดในการออกแบบเพื่อการปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้างภายนอก แนวคิดนี้มีวิศวกรทั่วโลกพัฒนาฮาร์ดแวร์ในลักษณะต่างสาขากันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงยุค 60s ยกตัวอย่างในแวดวงรถยนต์ก็เช่น พาวเวอร์สูท Exoskeleton H-LEX ของฮุนได หรือ Walking Assist ของฮอนด้า เป็นต้น

●   Cybertruck เป็นรถปิคอัพในกลุ่มฟูลไซส์ ห้องโดยสาร 4 ประตู 5 ที่นั่ง คลาสเดียวกับคู่แข่งหลักอย่าง Chevrolet Silverado EV, Ford F-150 Lightning, GMC Hummer EV, Ram 1500 REV และ Rivian R1T ความยาวรวมอยู่ที่ 5,680 มม. กว้าง 2,000 – 2,400 มม. สูง 1,790 มม. น้ำหนักตัวประมาณ 2,995 – 3,104 ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

●   ตัวถังของ Cybertruck ผลิตจากจากแสตนเลสสตีล อัลลอย แบบเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศของ SpaceX สามารถกันกระสุนเจาะเกราะ (9 มม.) ได้ และมีกระจกนิรภัยป้องกันการแตกร้าวรอบคัน รวมถึงหลังคากระจกแบบเต็มบานด้านบนด้วย ซึ่งครอบคลุมความปลอดภัยตลอดพื้นที่เบาะทุกตำแหน่ง

●   ตัวรถมากับชุดไฟหน้า LED จัดวางเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่ด้านหน้า เข้าชุดกับไฟท้ายซึ่งอยู่ในรูปทรงเดียวกัน, ด้านบนมีไฟราวเป็นออปชั่นติดตั้งเพื่มเติม โดยตัว Light Bar นี้สามารถส่องสว่างได้ไกลสูงสุด 480 เมตร หรือเทียบเท่ากับสนามฟุตบอลมากกว่า 5 สนาม ล้อน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ช่วงล่างเป็นแบบถุงลม ปรับระดับอัตโนมัติ ระยะเคลียร์ใต้ท้องรถต่ำสุด 12 นิ้ว และปรับได้สูงสุดถึง 17 นิ้ว

●   ตัวกระบะท้ายมีขนาด 6 x 4 ฟุท พร้อมฝาปิด รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,133 กก. และมี Power Inverter แปลงกระแสไฟฟ้าระหว่างไฟกระแสตรง (DC) แลกระแสสลับ (AC) สำหรับจ่ายไฟให้อุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟฟ้า 120 – 240 โวลท์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า หรือ Front Trunk ขนาดใหญ่ ในขณะที่หลังคายังสามารถติดตั้งออปชั่นเป็นคานเฉพาะรุ่นสำหรับบรรทุกสิ่งของอื่นๆ ได้

●   อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมี พวงมาลัยทรง Yoke, จอทัชสกรีนส่วนกลางสำหรับผู้ขับขนาด 18.5 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 9.4 นิ้ว ทั้ง 2 จอมากับยูสเซอร์ อินเตอร์เฟซ แบบใหม่ทั้งหมด, ซอคเก็ทชาร์จสมาร์ทโฟน/แท็บเลทแบบไร้สาย สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้พร้อมกัน 2 เครื่อง, พอร์ท USB Type-C, ระบบกรองอากาศเทคโนโลยี HEPA Filter (High-efficiency Particulate Air Filter) ซึ่งสามารถกรองฝุ่น 0.3 ไมครอนได้ 99.97% และชุดลำโพง 15 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร รวมซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว พร้อมแอมพลิไฟเออร์

3 ทางเลือกหลัก รุ่นท๊อป Cyberbeast ขายก่อน

●   การจำหน่ายในเบื้องต้น จะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย ซึ่งเทสล่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายรุ่นท๊อปก่อน ส่วนรุ่นพื้นฐานราคาต่ำสุดเอาไว้ทีหลัง เริ่มกันที่รุ่นท๊อป Cybertruck Cyberbeast มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ (หน้า 1 หลัง 2 : Tri-motor AWD) ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิล สปีด ฟิกซ์อัตราทด กำลังสูงสุด 845 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,422 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 2.6 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 209 กม./ชม. สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 4,989 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 514 กม.

●   ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 96,390 ดอลลาร์ หรือราว 3.37 ล้านบาท กำหนดการส่งมอบรถล็อทแรกอยู่ในช่วงปี 2024

●   ต่อด้วยรุ่นกลาง Cybertruck AWD ตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel drive ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิล สปีด ฟิกซ์อัตราทด กำลังสูงสุด 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,027 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 180 กม./ชม. สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 4,989 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 547 กม.

●   ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 68,890 ดอลลาร์ หรือราว 2.5 ล้านบาท กำหนดการส่งมอบรถล็อทแรกอยู่ในช่วงปี 2024

●   ส่วนรุ่นพื้นฐาน Cybertruck RWD ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิล สปีด ฟิกซ์อัตราทด กำลัง/แรงบิด ยังไม่ระบุในเวลานี้ อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 402 กม.

●   ราคาจำหน่ายโดยประมาณ 49,890 ดอลลาร์ หรือราว 1.7 ล้านบาท การเปิดตัวและการผลิตจะมีขึ้นในช่วงปี 2025 ครับ

●   ความจุแบตเตอรี่แพคยังไม่ระบุชัดๆ แต่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 125 – 130 กิโลวัทท์-ชม. รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 250 กิโลวัทท์ (V3 Supercharger) และสูงสุด 350 กิโลวัทท์ (V4 Supercharger) จาก 15 – 85% ภายใน 20 นาที ชาร์จแบบเร่งด่วน 15 นาที จะได้ระยะทางเพิ่มขึ้นประมาณ 205 กม. โดยเทสล่ารับประกันแบตเตอรี่แพคและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวเนื่อง 8 ปี หรือระยะทางประมาณ 240,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

ราคาสูงกว่า (ที่เคยคาด) ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

●   แม้ว่าราคาของ Cybertruck จะสูงกว่าราคาที่ Elon Musk ตั้งเป้าเอาไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยมอเตอร์เดี่ยวคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 39,900 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.21 ล้านบาท, มอเตอร์คู่เริ่มต้น 49,900 ดอลลาร์ หรือราว 1.51 ล้านบาท ส่วนรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ราคาเริ่มต้น 69,900 ดอลลาร์ หรือราว 2.12 ล้านบาท

●   Chevrolet Silverado EV RST First Edition : มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ All-wheel drive กำลังสูงสุด 754 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 4.5 วินาที สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 4,535 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 643 กม. ราคาจำหน่าย 105,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท… แพงกว่า Cybertruck Cyberbeast ราว +2 แสนบาท

●   ตัวรถเปิดตัวไปในงาน 2022 Consumer Electronics Show ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ GM BT1 platform เช่นเดียวกับ GMC Hummer EV ที่เปิดตัวไปในช่วงปี 2020 และเมื่อเทียบกับ Silverado รุ่นพื้นฐานเวอร์ชั่นปรับโฉม MY2022 งานออกแบบของ Silverado EV นั้นมีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยหลักๆ จะเน้นไปที่อากาศพลศาสตร์เพื่อลดการใช้พลังงาน

●   Ford F-150 Lightning Platinum : มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ All-wheel drive กำลังสูงสุด 580 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 4 วินาที สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 3,855 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 482 กม. ราคาจำหน่าย 91,995 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท… ถูกกว่า Cybertruck Cyberbeast ราว -1 แสนบาท

●   รถรุ่นนี้นับเป็นปิคอัพพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นแรกของฟอร์ด ตัวรถเริ่มเดินสายการผลิตเต็มรูปแบบในช่วงเดือนเมษายน 2022 หลังเผยแผนงานเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี 2019 ที่งาน Detroit Auto Show โดยนับเป็นส่วนหนึ่งในอนุกรมของ F-Series รุ่นล่าสุดเจนเนอเรชั่นที่ 14 รูปแบบตัวถังมีแบบเดียวคือ 4 ประตู SuperCrew พร้อมกระบะความยาว 5.5 ฟุท งานออกแบบยังอยู่ในโทนเดียวกับ F-150 เวอร์ชั่น ICE

●   GMC Hummer EV 3X : มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว Tri-motor หมุนล้อแบบ All-wheel drive กำลังสูงสุด 1,000 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 3 วินาที สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 3,860 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 613 กม. ราคาจำหน่าย 105,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.7 ล้านบาท… แพงกว่า Cybertruck Cyberbeast ราว +3 แสนบาท

●   รถรุ่นนี้นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Humvee เวอร์ชั่นพลเรือน นับจากที่ Hummer H3 ได้ยุติสายการผลิตไปในปี 2009 ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ GM BT1 platform ซึ่งเจนเนอรัล มอเตอร์ส ออกแบบมาเพื่อใช้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเครือโดยเฉพาะ รูปแบบตัวถังมีให้เลือก 2 แบบคือ (1) ปิคอัพ 4 ประตู และ (2) SUV ไฮไลท์คือฟังก์ชั่น CrabWalk ปรับองศาของล้อหน้า-หลังให้หมุนไปในทิศทางเดียวกัน (สูงสุด 10 องศา) เพื่อให้รถเคลื่อนตัวได้ในแนวทแยงมุมแบบปูเดิน

●   RAM 1500 REV : มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ All-wheel drive กำลังสูงสุด 654 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 4.4 วินาที สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 6,350 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 804 กม. ราคาจำหน่าย 95,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.32 ล้านบาท… ถูกกว่า Cybertruck Cyberbeast ราว -5 หมื่นบาท

●   การผลิตเป็นผลงานของ RAM Trucks หนึ่งในสาม บิ๊ก ทรี ผู้ผลิตปิคอัพสัญชาติสหรัฐฯ ชื่อรุ่น REV ออกเสียงว่า เรฟ ย่อมาจาก Revolution พัฒนาต่อยอดมาจากรถต้นแบบ RAM 1500 Revolution BEV Concept ที่จัดแสดงไปในงาน 2023 Consumer Electronics Show ช่วงต้นปี 2023 และจะเริ่มทำตลาดด้วยรุ่นตัวถัง Crew Cab 4 ประตูเป็นรุ่นแรก ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ STLA ซึ่งออกแบบมาเพื่อผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้แชสซีส์แบบ Body-on-frame ในเครือ Stellantis

●   Rivian R1T Quad-Motor : มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว All-wheel drive กำลังสูงสุด 835 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ประมาณ 3 วินาที สมรรถนะในการลากจูงสูงสุดประมาณ 4,989 กก. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 527 กม. ราคาจำหน่าย 87,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.1 ล้านบาท… ถูกกว่า Cybertruck Cyberbeast ราว -3 แสนบาท

●   รถรุ่นนี้นับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดปิคอัพไฟฟ้าสหรัฐฯ ตัวรถเป็นผลงานของ Rivian Automotive LLC หนึ่งในบริษัท R&D ที่เริ่มดำเนินกิจการในแวดวงยานยนต์มาตั้งแต่ช่วงปี 2009 การเปิดตัวเป็นครั้งแรกมีขึ้นในงาน 2018 LA Auto Show ไฮไลท์คือฟังก์ชั่นที่ใช้ชื่อทางการค้าว่า Tank Turn การทำงานเป็นไปในลักษณะเดียวกับชื่อของฟังก์ชั่น คือกลับรถได้ด้วยการหมุนรอบตัวเอง 180 องศาแบบรถถัง โดยอาศัยสมองกลแยกการหมุนล้อคู่หน้าหลัง (แยกคู่ซ้าย/คู่ขวา) สวนทิศทางกันด้วยแรงบิดที่เท่ากันนั่นเอง

●   โดยรวมแล้ว เมื่อเราเทียบสเปค/ราคากับรุ่นท๊อปของคู่แข่ง จะเห็นว่ารุ่นท๊อป Cybertruck Cyberbeast นั้นมีประสิทธิภาพที่ไม่น้อยหน้าใคร และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว หากเราไม่ได้เป็นแฟนของพันธุ์แท้แบรนด์ใดๆ (และไม่มีปัญหากับงานออกแบบเทสล่า) กล่าวได้ว่าราคาของ Cybertruck ก็ไม่ได้สูงแบบไร้เหตุผล แต่เป็นไปตามกลไกของตลาด… และในตัวเลือกทั้งหมดด้านบน คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Cybertruck Cyberbeast ก็คือ Rivian R1T ครับ         ●

2025 Tesla Cybertruck