Shell ประกาศปิดบริการสถานีไฮโดรเจนทั้งหมดในแคลิฟอร์เนีย
เรื่อง : AREA 54
● หลังจากร่วมมือกับโตโยต้า เปิดให้บริการสถานีไฮโดรเจน เพื่อรองรับผู้ขับ Toyota Mirai ในแคลิฟอร์เนียมาตั้งแต่ช่วงปี 2017 ล่าสุดเชลล์ประกาศปิดสถานีเติมไฮโดรเจนทั้งหมดแบบถาวร ซึ่งปัจจุบันสถานีของเชลล์นับเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับ รถ FCEV ทุกแบรนด์ ที่วิ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และนั่นจะส่งผลกระทบกับเจ้าของรถ FCEV อย่าง Hyundai Nexo และ Toyota Mirai รวมถึงรถใหม่ที่กำลังจะผลิตบนแผ่นดินสหรัฐฯ อย่าง Honda CR-V FCEV ด้วยแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
● ปัจจุบัน ในจำนวนสถานีไฮโดรเจนอันน้อยนิด เชลล์มีเครือข่ายสถานีไฮโดรเจน 7 แห่ง จากทั้งหมด 55 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 12% ของสถานีเติมไฮโดรเจนทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้เชลล์เคยวางแผนจะขยายเครือข่ายสถานีไฮโดรเจนให้ถึง 48 แห่ง
● บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ระบุว่า เหตุผลที่พวกเขาจำต้องปิดให้บริการนั้น เนื่องมาจากสถานการณ์แทรกซ้อนด้านอุปทาน รวมถึง “ผลกระทบจากปัจจัยตลาดภายนอก” ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ เว็บไซท์ hydrogeninsight.com มีรายงานว่าเป็นผลมาจากการทดลองปิดให้บริการสถานีชั่วคราว 5 แห่งเพื่อประเมินทิศทางในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา
● โฆษกของเชลล์ให้ข้อมูลกับ Hydrogen Insight ว่า “เราตัดสินใจจะยุติการขยายเครือข่ายสถานีไฮโดรเจนในแคลิฟอร์เนียในช่วงปี 2023 (เดือนกันยายน) ซึ่งหลังจากการปิดสถานี 5 แห่งจากทั้งหมด 7 แห่งเป็นการชั่วคราว เราก็ได้ตัดสินใจปิดเครือข่ายสถานีทั้งหมดแบบถาวรในแคลิฟอร์เนียช่วงต้นปี 2024 เนื่องจากปัจจัยทางการตลาดหลายๆ อย่าง”
● เห็นได้ชัดว่า อัตราการเติบโตของ FCEV ก็คือผลกระทบหลักที่ว่า ในช่วงปี 2023 จำนวนรถ FCEV ที่จดทะเบียนในแคลิฟอร์เนียมีเพิ่ง 3,143 คัน คิดเป็นอัตราส่วนเพียง 1% ของรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนในกลุ่มไฟฟ้า (BEV, PHEV, EREV) ที่จดทะเบียนในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น… หากมองในแง่ของนักลงทุน นี่เป็นการลงทุนที่มองไม่เห็นจุดคุ้มทุนเอาเสียเลย
● ฝั่งโตโยต้าซึ่งได้รับผลกระทบไปเต็มๆ นั้น ระบุว่า พวกเขาตระหนักดีว่าลูกค้า Toyota Mirai บางรายในแคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญปัญหาในการเติมพลังงานจากการที่เชลล์ปิดสถานีไฮโดรเจน เบื้องต้นโตโยต้าจะเข้าไปดูแลเจ้าของ Mirai ในแบบเจาะลึก เคส-บาย-เคส เพื่อช่วยหาทางออกเป็นรายกรณีไป และโตโยต้าจะทำงานอย่างหนักร่วมกับผู้ลงทุน เพื่อสนับสนุนการขยายเครือข่ายสถานีไฮโดรเจนในแคลิฟอร์เนียต่อไปในอนาคต
● อย่างไรก็ตาม ทางเชลล์จะยังคงลงทุนในด้านรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเน้นไปที่การลงทุนพัฒนาสถานีชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่มรถยนต์นั่ง ในขณะที่สถานีไฮโดรเจนนั้น เชลล์จะพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาสถานีเติมไฮโดรเจนเพื่อรองรับ รถบรรทุก FCEV ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ขัดเจนกว่า ●