Polestar Precept ต้นแบบที่แสดงจุดยืนของแบรนด์โพลสตาร์

เรื่อง : AREA 54

●   หลังยกระดับจากแผนกเป็นซับ-แบรนด์ ภายใต้การสนับสนุนของวอลโว่/จีลี ปีนี้โพลสตาร์ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบรุ่นแรกภายใต้แบรนด์โพลสตาร์ โดยมีการออกแบบเองทั้งหมดตั้งแต่เส้นร่างบนกระดาษเป็นครั้งแรก (รถรุ่นแรก Polestar 1 นำรถต้นแบบ Volvo Coupe Concept มาใช้งาน) การจัดแสดงจะมีขึ้นในงาน 2020 Geneva Motor Show ต้นเดือนมีนาคมนี้… หากไม่มีการเลื่อนจากสถานการณ์ COVID-19

●   Polestar Precept Concept เป็นต้นแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โพลสตาร์ระบุว่าตั้งใจให้เป็นรถหรูคลาสแกรนด์ ทัวเรอร์ แบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นตัวแทนทิศทางการผลิตรถยนต์ของโพลสตาร์ในอนาคตในเวลาเดียวกัน โดย Thomas Ingenlath ผู้บริหารระดับสูงของโพลสตาร์ให้ความเห็นว่า:

●   “Precept คือการแสดงวิสัยทัศน์ว่าโพลสตาร์คืออะไร รถคันนี้คือคำตอบที่ชัดเจนสำหรับสังคมและอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา นี่ไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม Polestar Precept คือยานยนต์แห่งอนาคต และยังแสดงให้เห็นว่า พวกเราสามารถสร้างนวัตกรรมโดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดได้อย่างไร”

●   Precept Concept ออกแบบภายใต้ Design language ที่โพลสตาร์เรียกว่า Minimalistic Athleticism ภาพลักษณ์ของรถเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของมัดกล้ามตลอดคัน ทว่ายังคงมีความเรียบง่ายแบบมินิมอลสไตล์สแกนดิเนเวียน ชุดไฟหน้าและไฟ DRL ดัดแปลงรูปแบบมาจากชุดไฟทรงค้อนของ Thor แบบเดียวกับวอลโว่ และยังคงใช้คีย์เวิร์ดทางการตลาดเหมือนกันคือ Thor’s Hammer LED headlight

●   จุดเด่นคือด้านหน้าของรถซึ่งโพลสตาร์เรียกว่า “SmartZone” พวกเขาคิดว่ารถยนต์ไม่จำเป็นต้องมีกระจังหน้าเพื่อช่วยระบายความให้เครื่องยนต์แบบเดิมๆ อีกต่อไป ดังนั้น Precept จึงไม่ต้องมีกระจังหน้าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ทำให้มีเนื้อที่ในการออกแบบปีกหน้าให้ควบรวมกับฝากระโปรงหน้าเพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์

●   ส่วนหน้าที่ไร้แผงกระจังหรือ SmartZone ของ Precept Concept จะกลายเป็นศูนย์รวมของตำแหน่งติดตั้งฮาร์ดแวร์อัจฉริยะยุคใหม่แทนที่ เบื้องต้นประกอบด้วยกล้องความละเอียดสูง และเรดาห์ เซ็นเซอร์ 2 ตัว ส่วนพอดสำหรับติดตั้ง LIDAR ยังจำเป็นต้องแยกออกไปติดตั้งอยู่เหนือหลังคา แบบเดียวกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ของแบรนด์ต่างๆ (ยกตัวอย่างเช่น Platform 4.0 ของโตโยต้า ก็แสดงให้เห็นความพยายามในการลดขนาด LIDAR และออกแบบให้ดูกลมกลืนไปกับหลังคารถ)

●   โพลสตาร์สามารถลดขนาดพอด LIDAR ลงมาจนเล็กที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะอำนวย และปรับตำแหน่งขยับร่นมาอยู่เหนือกระจกหน้า แม้จะยังดูเป็นสิ่งที่แปลกตาในเวลานี้ แต่ก็เรียกได้ว่านี่คือพอด LIDAR ที่เล็กที่สุดในยุคปัจจุบัน

●   ส่วนกระจกมองข้างจะถูกแทนที่ด้วยกล้องทั้ง 2 ฝั่ง แสดงผลผ่านจอขนาดเล็กในห้องโดยสารที่ติดตั้งเอาไว้บริเวณแผงประตูทั้ง 2 ด้าน

●   ห้องโดยสารเรียบและหรูในแบบมินิมอล ลดความยุ่งยากในการควบคุมด้วยการใช้ปุ่มควบคุมแบบโรตารี่เพียงจุดเดียวบนคอนโซลกลาง โดยจะมีให้ทั้งเบาะคู่หน้าและคู่หลัง มาตรวัดหลังพวงมาลัยเป็นแบบดิจิทัล แสดงผลผ่านจออัลตร้าไวด์ขนาด 12.5 นิ้ว ส่วนจอกลางสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ยังคงใช้วิธีวางจอขนาดใหญ่ไซส์แท็บเลทขนาด 15 นิ้ว เหมือนแบรนด์ผู้ผลิตไฮเทคอื่นๆ

●   ระบบอินโฟเทนเมนท์รันด้วยระบบปฏิบัติการที่ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์ม Android รุ่นใหม่ ติดตั้ง Google Assistant, Google Maps และ Google Play Store มาให้จากโรงงาน… โพลสตาร์ระบุว่า Google Assistant จะถูกออกแบบการใช้งานใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานในรถยนต์ โดยทำหน้าที่เป็น co-pilot ตอบสนองกับคำสั่งเสียงได้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ขับลดการละสายตาจากท้องถนนได้ดีกว่าเดิม

●   วัสดุตกแต่งห้องโดยสาร เป็นวัสดุผสมแบบรีไซเคิลสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะช่วยลดน้ำหนักได้ราว 50% และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้ถึง 80%

●   วัสดุหุ้มเบาะรีไซเคิลได้ 100% การผลิตใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า 3D Knit แบบเดียวกับอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอ ซึ่งใช้เทคนิคการถักทอด้วยด้ายเส้นเดียวทั้งผืน ไม่มีตะเข็บ และสามารถออกแบบลวดลายให้เป็นรูปทรง 3 มิติได้ตามต้องการ

●   ระบบขับเคลื่อนยังไม่มีรายละเอียด และโพลสตาร์ก็ยังไม่กำหนดกรอบเวลาในการพัฒนา Precept Concept เป็นคันจริงในเวลานี้… แต่เมื่อดูจากการออกแบบที่ใกล้เคียงกับรถโปรดัคชั่น เราเชื่อว่าไม่นานเกินรอคงได้เห็นคันจริงกันแน่นอนครับ  ●

2020 Polestar Precept