July 18, 2019
Motortrivia Team (10203 articles)

F1 British GP 2019 : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ

Posted by : FascinatorFJ.

●   ลูวอิส แฮมิลตัน ชนะบริติชกรังด์ปรีซ์ พร้อมทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ ในขณะที่ เซบาสเตียน เวทเทล ขับชนท้าย แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น กวาดทั้งคู่ออกจากตำแหน่งโพเดียม

●   แฮมิลตันแย่งชิงอันดับ 1 มาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะสตาร์ทตามหลัง วาลท์เทรี บ็อตตาส เพื่อนร่วมทีมสังกัดเมอร์เซเดส จากการที่เขาเลือกกลยุทธ์เข้าพิทครั้งเดียว และเรียกได้ว่าแชมป์โลกคนปัจจุบันยังมีโชคอีกด้วย เมื่อเซฟตี้คาร์ออกมาในจังหวะพอดีที่ทำให้กลยุทธ์ของเขาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

●   อันดับ 3 ตกเป็นของ ชาร์ล เลอแคลร์ จากเฟอร์รารี ซึ่งในวันนี้เขามีการต่อสู้กับ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ในสังกัดเรดบูลล์ อย่างดุเดือด โดยเขาได้ส้มหล่นจากการที่เพื่อนร่วมทีมของเขา เซบาสเตียน เวทเทล พลาดท่าไปชนท้ายเวอร์สแท็พเพ่นจนอันดับตกลงไป

●   ปิแอร์ แกสลีย์ จากเรดบูลล์ จบการแข่งขันในปีนี้ด้วยอันดับที่ดีที่สุดคืออันดับ 4 หลังจากที่เวอร์สแท็พเพ่นและเวทเทลซึ่งอยู่ข้างหน้าเขาชนกัน โดยเวอร์สแท็พเพ่นนั้นประคองรถออกจากบ่อกรวดมาจบอันดับ 5 ได้ ส่วนเวทเทลต้องเข้าพิทและหล่นไปอยู่อันดับ 16 เนื่องจากเขาถูกลงโทษบวกเวลาอีก 10 วินาที เข้าไปด้วย

●   การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดเมื่อรถแข่งศรเงินทั้ง 2 คัน ต่างอยากขึ้นมาเป็นผู้นำ แฮมิลตันนั้นสบโอกาสเหมาะและจู่โจมบ็อตตาสในรอบที่ 4 และเอาอันดับผู้นำไปได้ที่โค้งลัฟฟิลด์ แต่ว่านักแข่งฟินน์ไม่ยอมง่ายๆ เขาแซงคืนกลับแทบจะในทันทีที่โค้งคอปส์

●   จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อ อันโตนิโอ โจวินาซซี ทำรถ อัลฟ่า โรเมโอ หลุดลงบ่อกรวดและเรียกเซฟตึ้คาร์ออกมา ในช่วงนี้แฮมิลตันซึ่งตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นกลยุทธ์พิทเดียวและยังไม่ได้เข้าพิทตามเพื่อนร่วมทีมอย่างบ็อตตาส ได้จังหวะเข้าพิททันที นั่นทำให้เจ้าตัวออกจากพิทขึ้นมาเป็นผู้นำแทนนักแข่งฟินน์ นอกจากนั้นเวทเทลซึ่งลากยางชุดแรกก็ได้อาศัยจังหวะนี้เข้าพิทเช่นกัน และขยับจากอันดับ 6 ขึ้นมาเป็นอันดับ 3

●   หลังจากรีสตาร์ทกันอีกครั้ง นักแข่งฟินน์พยายามไล่กดดันนักแข่งสหราชอาณาจักรฯ แต่ว่ายิ่งเวลาผ่านไปแฮมิลตันยิ่งขยับระยะห่างออกไปเรื่อยๆ บ็อตตาสจึงจำเป็นจะต้องเข้าพิทอีกครั้งตามแผนเดิมหลังจากที่ทิ้งระยะห่างจากอันดับ 3 มาได้จนพอที่จะเข้าพิทแล้วไม่เสียอันดับ

●   บ็อตตาสดูเหมือนจะใช้ยางสดใหม่เก็บคะแนนเวลาต่อรอบเร็วที่สุดไป แต่แล้วแฮมิลตันได้ปั๊มเวลาเร็วที่สุดออกมาในรอบสุดท้าย และเก็บอีก 1 คะแนนพิเศษไปได้แทน

●   ทางด้านเลอแคลร์และเวอร์สแท็พเพ่นมีการแบทเทิลกันเรื่อยมาจนกระทั่งเข้าพิทครั้งแรกพร้อมกัน เรดบูลล์นั้นทำพิทได้เร็วกว่าและส่งให้เวอร์สแท็พเพ่นออกจากพิทมาได้ก่อน แต่แล้วเลอแคลร์ก็ชิงอันดับคืนได้บริเวณ เดอะ ลูป และแบทเทิลกับเวอร์สแท็พเพ่นกันอย่างสุดมันส์

●   นักแข่งดัตช์พยายามงัดกลเม็ดทุกอย่างในหนังสือออกมา แต่นักแข่งโมนาแกสรักษาตำแหน่งได้อย่างเหนียวแน่น จนกระทั่งช่วงที่เซฟตี้คาร์ออกมา เรดบูลล์ได้ตอบสนองด้วยการเรียกเวอร์สแท็พเพ่นเข้ามาเปลี่ยนเป็นยางฮาร์ด ในขณะที่เฟอร์รารีตัดสินใจช้าและเรียกเลอแคลร์เข้าพิทมาหลังจากเวอร์สแท็พเพ่น 1 รอบ นั่นทำให้เลอแคลร์ต้องเสียอันดับไปให้กับเวอร์สแท็พเพ่นในที่สุด

●   เมื่อเคลียร์เลอแคลร์ขึ้นไปได้ คราวนี้ก็ถึงคิวของเวทเทล นักแข่งดัตช์ไล่แชมป์โลกชาวเยอรมันอยู่หลายรอบ และสบโอกาสในรอบที่ 37 เวอร์สแท็พเพ่นแซงเวทเทลจากด้านนอกโค้งสโตว์ แต่เวทเทลพยายามจะเอาอันดับคืนทันทีที่โค้งถัดไป ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและเวทเทลซัดท้ายเวอร์สแท็พเพ่นเข้าไปเต็มๆ ปีกหน้าของรถเฟอร์รารีเสียหายต้องเข้าพิทมาเปลี่ยนใหม่ ส่วนรถเรดบูลล์นั้นรอดจากความเสียหายและวิ่งต่อได้อย่างเหลือเชื่อ

●   หลังจากกลุ่ม 3 ทีมใหญ่ เป็น คาร์ลอส ซายน์ จากแม็คลาเรน ที่ป้องกันตำแหน่งอย่างดุเดือดจาก แดเนียล ริคคิอาร์โด ในรถเรโนลต์ และรักษาอันดับ 6 เอาไว้ได้ โดยซายน์นั้นสตาร์ทจากกริด 13 แต่ได้จังหวะเซฟตี้คาร์ออกมาพอดีกับช่วงพิทวินโดว์ ทำให้ทำอันดับขึ้นมาได้

●   คิมี ไรค์โคเนน พารถ อัลฟ่า โรเมโอ เข้าเส้นชัยในอันดับ 8 ป้องกันการจู่โจมจาก ดานีล คฟยาต ในรถโทโรรอสโซ ไว้ได้ และ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก เก็บแต้มสุดท้ายให้กับเรโนลต์

●   อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ในรถโทโรรอสโซอีกคันนั้นมีโอกาสที่จะเก็บแต้มจากสนามนี้ได้สูงทีเดียว แต่ว่าตัวรถนั้นเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าแรงสูงจากเครื่องยนต์หลังจากพิทแรก ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยหากรถแข่งจะต้องเข้าพิทมาอีกครั้ง นั่นทำให้ทางทีมตัดสินใจให้อัลบอนวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ด้วยยางมีเดียมตั้งแต่รอบที่ 13 ที่เขาเข้าพิทมา ซึ่งนั่นทำให้เขายางหมดและหล่นลงไปจากอันดับ 9 ไปจบการแข่งขันที่อันดับ 12

●   มีรถไม่จบการแข่งขัน 3 คัน ในวันนี้ โดยคันหนึ่งนั้นคือรถ อัลฟ่า โรเมโอ ของโจวินาซซีที่หลุดลงบ่อกรวดและเรียกเซฟตี้คาร์ออกมา ส่วนอีก 2 คัน นั้นเป็นรถของฮาส ซึ่งนักแข่งทั้งสองของทีมขับชนกันเองในรอบแรก ทำให้รถแข่งของทั้งคู่เสียหายจนต้องออกจากการแข่งขันไปในภายหลัง  ●

สรุปผลการแข่งขัน

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.21.08.452 – กริด 2
  2. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – +24.928 – กริด 1
  3. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +30.117 – กริด 3
  4. ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +34.692 – กริด 5
  5. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +39.458 – กริด 4
  6. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +53.639 – กริด 13
  7. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – +54.401 – กริด 7
  8. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1.05.540 – กริด 12
  9. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1.06.720 – กริด 17
  10. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – เรโนลต์ – +1.12.733 – กริด 10
  11. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1.14.281 – กริด 8
  12. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1.15.617 – กริด 9
  13. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1.21.086 – กริด 18
  14. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 19
  15. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 20
  16. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 6
  17. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 15
  • DNF – อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – รอบที่ 18 –อุบัติเหตุ – กริด 11
  • DNF – โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 9 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 14
  • DNF – เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 6 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 16
  • เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.27.369 – รอบที่ 52

คะแนนสะสมประเภทนักขับ

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 223
  2. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 184
  3. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 136
  4. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 123
  5. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 120
  6. ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 55
  7. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 38
  8. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 25
  9. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 22
  10. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 22
  11. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 17
  12. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 14
  13. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 13
  14. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 12
  15. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 7
  16. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 6
  17. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 2
  18. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 1
  19. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
  20. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต

  1. เมอร์เซเดส – 407
  2. เฟอร์รารี – 243
  3. เรดบูลล์ ฮอนด้า – 191
  4. แม็คลาเรน เรโนลต์ – 60
  5. เรโนลต์ – 39
  6. อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 26
  7. เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 19
  8. โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 19
  9. ฮาส เฟอร์รารี – 16
  10. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

ที่มา :
•  autosport.com.
•  espnf1.com.


ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019

●   สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
●   สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
●   สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
●   สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
●   สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
●   สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
●   สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
●   สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.
●   สนามที่ 09 : Austrian GP : เรดบูลล์หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเมอร์เซเดส.
●   สนามที่ 10 : British GP : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ.